กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งดำเนินการฝึกอบรมเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง/สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ เพื่อเสริมสร้างความรู้ในการปรับเปลี่ยนทำการเกษตรทดแทนการปลูกพืชใช้น้ำมาก มีรายได้จากการอบรม สามารถดำรงชีวิตในช่วงวิกฤตแล้งได้ และ สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล โดยความคืบหน้าขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ เตรียมที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบ โครงการอบรมเพื่อเพิ่มผลิตภาพการผลิตของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ปี 2558/59 และผลกระทบจากปัญหาราคาสินค้าเกษตร ในวันที่ 15 ธ.ค. 58 นี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณราว 2,000 ล้านบาท
โดยมีเกษตรกรเป่าหมาย จำนวน 220,500 ราย หลักสูตร 90 ชั่วโมง/รุ่น หรือประมาณ 3 สัปดาห์ (15 วัน) รุ่นละ 50 ราย 5 รุ่น เริ่มตั้งแต่ ต้นกุมภาพันธ์ ถึง พฤษภาคม 2559 โดยใช้ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก. 882 ศูนย์) 76 จังหวัด เป็นสถานที่จัดการฝึกอบรม
สำหรับหลักสูตรการอบรมประกอบด้วย 5 กลุ่มวิชา เช่น เศรษฐกิจพอเพียง แนวทางประชารัฐ การสร้างความปรองดอง การตลาด การรู้เท่าทันเศรษฐกิจและการเปลี่ยนแปลงของโลก การสหกรณ์ การฝึกทำบัญชีครัวเรือน การโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ การแปรรูปอาหารและถนอมอาหาร การซ่อมแซมเครื่องจักรกลเกษตรและเครื่องใช้ไฟฟ้า
"สิ่งที่เกษตรกรจะได้รับการเรียนรู้ ฝึกวิธีคิดการพัฒนาตนเอง สามารถปรับตัวอยู่ร่วมบริบทสังคม เศรษฐกิจ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งเป็นการวางรากฐานการพัฒนาการเกษตรในระยะยาว รวมทั้งความเข้าใจและร่วมการขับเคลื่อนประเทศตามแนวทางประชารัฐเกษตรกรสามารถดำรงชีพได้ในช่วงวิกฤตภัยแล้ง และสร้างโอกาสการปรับโครงสร้างการผลิตให้เหมาะสมกับภูมิสังคมและตลาดสินค้า สร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน" พลเอก ฉัตรชัย กล่าว