กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้จะเข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีของสภาไตรภาคียางพารา ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงจากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อแสวงหาความร่วมมือด้านยางพารา โดยจะร่วมกันกำหนดแนวทางจัดตั้งองค์กรให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้มาตรการต่างๆ จะดำเนินการร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงความเป็นไปได้ในการกำหนดราคายางพาราส่งออกและแนวทางการบริหารสต็อกยางพาราร่วมกัน ซึ่งหากสามารถร่วมมือกันได้ จะทำให้ทั้งสามประเทศเป็นผู้กำหนดตลาดได้
สำหรับสถานการณ์ยางพารา ณ 1 ธ.ค. 58 พบว่า ราคายางสด 37.50 บาท/กก. ราคายางแผ่นรมควัน 36.50 บาท/กก. และราคา FOB (Bangkok) 44.80 บาท/กก. คาดการณ์จะมีแนวโน้มราคาตกต่ำอีกหลายปี จนถึงปี 2562 โดยความคืบหน้ามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรสวนยางพาราความคืบหน้า เงินช่วยเหลือ 1,500 บาทต่อไร่นั้น ขณะนี้มีข้อมูล เจ้าของสวนยางพารา 850,000 ราย เรียบร้อยแล้ว ส่วนข้อมูลคนกรีดยาง อยู่ในระหว่างการสำรวจซึ่งเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด ขณะที่การพิจารณาปรับการดำเนินการโครงการเงินกู้สนับสนุนอาชีพเสริม ตามที่ ครม. มีมติอนุมัติโครงการสนับสนุนสินเชื่อเกษตรกรสวนยางรายย่อยเพื่อประกอบอาชีพเสริม ครัวเรือนละไม่เกิน 1 แสนบาท วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 5 (เกษตรกร จ่ายดอกเบี้ย ร้อยละ 2 และ รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ย ร้อยละ 3) ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 58 กษ. ได้เชิญหน่วยที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนเกษตรกร และ ธ.ก.ส. มาประชุม โดย ธ.ก.ส. รายงานว่า ได้พิจารณาอนุมัติเงินกู้ไปแล้ว 80,000 กว่าราย วงเงิน 7,700 กว่าล้านบาท อยู่ในระหว่างการพิจารณาอีก 50,000 กว่าราย วงเงิน 3,000 กว่าล้านบาท การค้ำประกันเงินกู้ จะพิจารณาทั้งเอกสารสิทธิ์ หรือ ผู้ค้ำประกัน 2 คน ทั้งนี้ ธ.ก.ส. พิจารณาความสามารถในการดำเนินการ หรือ ผ่อนชำระคืนเป็นสำคัญ ขณะเดียวกัน จะเสนอ ครม. ในวันที่ 8 ธ.ค. 58 เห็นชอบการขยายระยะเวลาการดำเนินโครงการ ขยายวงเงินจากเดิม 10,000 ล้านบาท เป็น 15,000 ล้านบาท ปรับเงื่อนไขการอนุมัติเงินกู้ให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงได้มากกว่าเดิม