กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--Ericsson
- อีริคสันกับ KDDI เข้าร่วมประเมินประสิทธิภาพและการใช้งานของแอปพลิเคชั่นต่างๆ บนระบบและเครือข่าย 5G
- บริษัททั้งสองจะร่วมพัฒนาและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานใหม่ๆ บนระบบ 5G (5G use case) โดยคำนึงถึงความต้องการและประโยชน์ของผู้ใช้งาน รวมถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่จะนำไปใช้งานอีกด้วย
- ความร่วมมือในการวิจัยจะมุ่งเน้นไปที่ระบบ Radio Access และ Core Technologies ของระบบ 5G
อีริคสันได้ประกาศความร่วมมือในการวิจัยและการพัฒนาระบบ 5G กับ KDDI ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น โดยผู้แทนจากทั้งสองบริษัทได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ Memorandum of Understanding (MoU) ด้วยความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้มีการพัฒนาเทคโนโลยี 5G เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภคและภาคอุตสหกรรมต่างๆ
ในข้อตกลงนี้ บริษัทั้งสองจะส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานใหม่ๆ บนระบบ 5G (5G use case) ในรูปแบบต่างๆ โดยคำนึงถึงความต้องการและประโยชน์ของผู้ใช้งาน รวมถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่จะนำไปใช้งานทั้งในปัจจุบันและอนาคตอีกด้วย อีกทั้งยังร่วมประเมินประสิทธิภาพและการใช้งานของแอปพลิเคชั่นต่างๆ ผ่านเครือข่าย Radio Access และ Core Technologies ของระบบ 5G
นาย โยชิอากิ ยูชิดะ Managing Executive Officer ฝ่าย Technology Sector และคณะกรรมการของ KDDI บอร์ด กล่าวว่า "เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมในการตอบสนองความต้องการและความคาดหวังที่เพิ่มสูงขึ้นจากลูกค้าของเรา โดยความร่วมมือกันกับอีริคสันในครั้งนี้จะช่วยให้เราเข้าใจถึงเทคโนโลยีเครือข่าย 5G มากขึ้นและสามารถนำความสามารถและศักยภาพต่างๆ ของ 5G มาสู่ตลาดและลูกค้าของเราได้ดียิ่งขึ้น"
นาย คริส โฮตัน Head of Region North East Asia ของอีริคสันกล่าวด้วยว่า "บันทึกความเข้าใจ หรือ MoU นี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญก้าวหนึ่งในการเป็นหุ้นส่วนพันธมิตรระหว่างอีริคสัน กับ KDDI อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่ดีสำหรับบริษัททั้งสองที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการก้าวเข้าสู่ยุค 5G ของเราในอนาคตอีกด้วย"
ระบบ 5G จะช่วยผลักดันให้เกิดวิวัฒนาการของระบบนิเวศการสื่อสารในอนาคตทั้งหมด จากอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ กับเครือข่ายโมบาย IP Core และระบบคลาวด์ โดยการทดลองบนระบบ 5G ของอีริคสันนั้นครอบคลุมถึงการใช้งานติดต่อสื่อสารในรูปแบบต่างๆ ระหว่างอุปกรณ์โมบายต่างๆ กับเครือข่าย 5G ในสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกอาคาร เช่นเดียวกับความสามารถใหม่ๆ ของเทคโนโลยีเครือข่าย เช่น ระบบการจำลองเสมือนฟังก์ชั่นของเครือข่าย (Network-Function Virtualization: NFV) และระบบเครือข่ายที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ (Software-Defined Networking: SDN) ด้วย