กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--โทเทิล ควอลิติ้ พีอาร์
เซนไฮเซอร์เปิดตัวหูฟังระดับไฮ-เอ็นด์ ที่พร้อมนำประสบการณ์ด้านการฟังแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยทั้งรุ่นเอชอี 1060 และเอชอีวี 1060 ต่างเป็นสุดยอดยอดหูฟังที่ดีที่สุดของโลก ซึ่งเป็นภาคต่อของรุ่นออร์เฟียส (Orpheus) หูฟังที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดในโลก ประกอบไปด้วยหูฟังระบบอิเล็คโทรสเตติค (Electrostatic) ที่ผสมผสานเทคโนโลยีแห่งนวัตกรรมที่สมบูรณ์แบบที่สุด เข้ากันกับการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน วัสดุคุณภาพชั้นสูง รวมถึงการผลิตด้วยฝีมือช่างคุณภาพระดับไฮ-เอ็นด์ หูฟังชิ้นมาสเตอร์พีซนี้ สนนราคาอยู่ราวประมาณ 5 หมื่นเหรียญยูโร หรือเกือบ 2 ล้านบาท และจะวางจำหน่ายที่ประเทศเยอรมันในปี 2558 เป็นต้นไป
การรังสรรค์หูฟังระดับไฮ-เอ็นด์ ที่ให้เสียงเยี่ยมยอดและมอบความรู้สึกให้ผู้ใช้งาน เสมือนอยู่ในฮอลคอนเสิร์ตการสร้างโลกของการฟังที่ล้ำเลิศ ทั้งยังสร้างความรู้สึกในแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนนี้ เป็นวิสัยทัศน์ที่เซนไฮเซอร์มีมาโดยเสมอ และพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนจากความสำเร็จในปี 2533/2534 ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเสียงได้ทำให้เซนไฮเซอร์ได้รับความนิยมได้เป็นอย่างมาก ด้วยการออกแบบและพัฒนาด้านวิศวกรรมซึ่งปรับปรุงความสามารถให้ดีกว่ารุ่นเดิมในเรื่องข้อจำกัดทั้งหมด เกี่ยวกับการทำงานของหูฟัง หูฟังของเซนไฮเซอร์ได้กลายเป็นไอคอนของอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเสียง และได้รับการยอมรับว่าเป็นหูฟังที่ดีที่สุดในโลก มาจนบัดนี้ เกือบ 25 ปีถัดมา เซนไฮเซอร์ได้เปิดประวัติศาตร์บทใหม่ของหูฟังระดับตำนาน "ด้วยรุ่นเอชอี 1060 /เอชอีวี 1060 ทำให้เราได้ทำลายข้อจำกัดของการให้เสียงแบบออดิโออีกครั้ง และแสดงให้เห็นว่าเราสามารถกำหนดมาตรฐานใหม่ในด้านความเป็นเลิศและกำหนดอนาคตของโลกออดิโอได้หลายต่อหลายครั้ง"มร.แดเนียล เซนไฮเซอร์ ประธานกรรมการบริหาร เซนไฮเซอร์ กล่าว
ประสบการณ์ด้านเสียงอันเป็นเอกลักษณ์ที่เกิดจากเทคนิคอันเยี่ยมยอด
หูฟังรุ่นใหม่ อย่าง เอชอี 1060/ เอชอีวี 1060 นี้มอบประสบการณ์การฟังที่ก้าวล้ำกว่าระบบของหูฟังอื่นๆ ด้วยการให้เสียงที่ชัดเจน ไม่ผิดเพี้ยน ทั้งความละเอียดของเสียงที่กว้างกว่าระดับความสามารถการได้ยินที่เป็นมาตรฐานของมนุษย์ "จุดเด่นของหูฟังรุ่นนี้คือการสร้างความรู้สึกที่แตกต่างของการฟังในแต่ละครั้งให้ต่างไปจากเดิมได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าเข้าถึงเสียงเพลงนั้นๆ ได้อย่างเต็มที่" มร. แดเนียล เซนไฮเซอร์ กล่าวเพิ่มเติม แม้เพียงความแตกต่างเพียงน้อยนิดของเพลงนั้นก็พอที่จะทำให้ได้ยิน นอกจากโปรดิวเซอร์เพลงอย่าง สตีฟ ลาวีน (Steve Levine) แล้ว เกรกอรี พอร์เตอร์ (Gregory Porter) เจ้าของรางวัลแกรมมี่ อวอร์ดส์ ยังเป็นหนึ่งในผู้มีเกียรติคนแรกๆ ที่ได้รับเชิญให้ทดลองใช้งาน "ตอนที่ผมทำการบันทึกเพลงของตัวเอง ผมมักพยายามที่จะถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง ผมไม่ทราบวิธีที่ที่จะทำมันได้ดี แต่หูฟังชุดนี้ช่วยให้ผมสามารถถ่ายทอดและส่งผ่านอารมณ์เหล่านั้นออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ" เกรกอรี พอร์เตอร์ นักดนตรีแจ๊ส เล่าถึงประสบการณ์การฟังจากหูฟังรุ่น เอชอี 1060 / เอชอีวี 1060
การทำให้ เอชอีวี 1060 เกิดขึ้นได้นั้น ทีมงานและผู้เชี่ยวชาญของเซนไฮเซอร์ใช้เวลาในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเกือบ 10 ปี พวกเขาต้องทำงานภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ นานาของความเป็นไปได้ในเชิงเทคนิค และสร้างหูฟังที่ดีที่สุดในโลกในเกิดขึ้นอีกครั้ง หูฟังรุ่น เอชอี 1060 / เอชอีวี 1060 ใช้แนวคิดนวัตกรรมแบบ แอมพลิไฟเออร์ ซึ่งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวของข้อดีของแอมป์หลอด (Tube amplifier) และวงจรขยายทรานซิสเตอร์ (Transistor amplifier) "ผมภูมิใจในผลิตภัณที่ยอดเยี่ยมชิ้นนี้เป็นอย่างมาก" มร. อันเดรอัส เซนไฮเซอร์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซนไฮเซอร์ กล่าว "เอชอี 1060 / เอชอีวี 1060 ถือเป็นพลังทางด้านนวัตกรรมของบริษัทเราและความมุ่งมั่นที่จะแสวงหาความสมบูรณ์แบบแห่งเสียงของเรา"
ประติมากรรมแห่งเสียง
แม้ประสบการณ์อันโดดเด่นไม่เหมือนใครของหูฟังรุ่น เอชอี 1060 / เอชอีวี 1060 จะเริ่มขึ้นก่อนที่การเริ่มฟังเพลงก็ตาม ส่วนประกอบต่างๆ จะถูกพับเก็บอยู่ภายใน ทำให้เอชอี 1060 / เอชอีวี 1060 ดูงดงามราวกับงานประติมากรรม และเมื่อเพียงแค่สัมผัสนิ้วลงไปเบาๆ ที่ปุ่มเปิด/ปิดเสียง ประติมากรรมแห่งเสียงนั้นก็พร้อมจะมีชีวิตขึ้นมา โดยที่ส่วนประกอบต่างๆ ของแผงควบคุมที่ทำมาจากทองเหลืองชุบด้วยโครเมี่ยมด้วยความปราณีตนั้น จะยื่นออกมาจากตัวเครื่องขยายเสียงที่ทำมาจากหินอ่อนอย่างช้าๆ ก่อนที่หลอดสูญญากาศที่บรรจุอยู่ในกระจกควอตซ์ก็จะยื่นออกมาจากตัวเครื่อง และจะเรืองแสงออกมาเช่นกัน ส่วนสุดท้าย คือกล่องหูฟัง ที่อยู่ด้านบนตัวเครื่องที่เป็นฝากระจกจะถูกเปิดออก ทำให้เห็นหูฟังพร้อมส่วนครอบหูที่ทำจากหนังแท้
การเลือกสรรวัสดุที่ใช้ประดิษฐ์หูฟังนำมาซึ่งการเพิ่มคุณภาพของเสียงด้วย ซึ่งเป็นหลักสำคัญของการผลิตภัณฑ์หูฟัง มีส่วนประกอบมากกว่า 6,000 ชิ้นในหูฟังนี้ และแต่ละชิ้นได้รับการคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน ผู้เชี่ยวชาญด้านออดิโอเลือกใช้ชิ้นส่วนประกอบมาเป็นพิเศษ อย่างขั้วไฟฟ้าเซรามิกเคลือบทองและไดอะแฟรมที่เคลือบด้วยทองคำขาว เพื่อให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพเสียงอันโดดเด่น ส่วนตัวเครื่องขยายเสียงนั้น เซนไฮเซอร์เลือกหินอ่อนที่มาจากเมืองคาร์รารา (Carrara) ในประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นหินอ่อนชนิดเดียวกับที่ศิลปินก้องโลก "ไมเคิลแองเจโล" นำมาใช้ในงานแกะสลักของตัวเอง "คุณสมบัติของหินอ่อนช่วยปกป้องชิ้นส่วนหลักของเครื่องขยายเสียงได้เป็นอย่างดี คุณสมบัติและโครงสร้างที่โดดเด่นนี้ทำให้เอชอี 1060 / เอชอีวี 1060 กลายเป็นงานศิลปะที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น" มัวริซ การ์เคร่ (Maurice Quarre) ผู้อำนวยการฝ่ายงานคัดสรรและออดิโอไฟล์ บริษัท เซนไฮเซอร์ (Director of Select & Audiophile at Sennheiser)การออกแบบของรุ่น เอชอี 1060 / เอชอีวี 1060 นั้นเป็นไปตามหลักของการฉีกกรอบกฎเกณฑ์เดิมๆ เพื่อจุดมุ่งหมายของเซนไฮเซอร์ที่ต้องการรังสรรค์ความสมบูรณ์แบบ ลงไปในทุกรายละเอียดของชิ้นงานนั้น ปรากฎอย่างเป็นรูปธรรม "ด้วยเทคโนโลยีอันเหนือระดับของ เอชอี 1060 / เอชอีวี 1060 จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องมีการออกแบบที่ดูเกินจริง ความสวยงามของมันคือการลดทอนให้เหลือเพียงแต่ สิ่งที่สำคัญเท่านั้น" มร. โอลิเวอร์ เบอร์เกอร์ ผู้บริหารฝ่ายการจัดการออกแบบโกลบอล บริษัท เซนไฮเซอร์ กล่าวอธิบาย
เชิญดื่มด่ำไปในโลกของคุณภาพเสียงแบบไม่มีใครเทียบได้ของ เอชอี 1060 / เอชอีวี 1060 ที่www.sennheiser-reshapingexcellence.com และสามารถชมคลิปบันทึกการสัมภาษณ์ เกรกอรี พอร์ตเตอร์ ฉบับเต็ม ได้ที่ www.sennheiser.com/bluestage.