กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--Ripple Effect
"เชฟรอน–คีนัน-สวทน." ร่วมมือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ตั้งศูนย์การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพประจำภูมิภาคที่จังหวัดเชียงใหม่ ชูแผนส่งเสริมทักษะแรงงานสายอาชีวะป้อนภาคอุตสาหกรรม ตอบโจทย์ปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝีมือ หนุนเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันประเทศ
ดร.กิติพงค์ พร้อมวงค์ รองเลขาธิการสำนักงานนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) กล่าวว่า "การศึกษาถือเป็นฐานรากสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ขณะที่สถาบันการจัดการนานาชาติ (IMD) จัดอันดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยในปี 2558 อยู่อันดับที่ 30 จาก 61 ประเทศ โดยพบว่าหนึ่งในอุปสรรคสำคัญของการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของไทยมาจากขาดแคลนแรงงานวิชาชีพที่มีทักษะฝีมือ และพื้นฐานด้าน STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์) โดยความต้องการแรงงานในสายอาชีวะอยู่ที่ประมาณ 1.8 แสนคนต่อปี ทว่านักเรียนที่เข้าสู่การศึกษาในสายอาชีวะเมื่อเทียบกับสายสามัญกลับมีเพียง 33% เท่านั้น"
ภาคเหนือถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญของประเทศที่มีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจและการค้าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเติบโตจากการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งยังมีแนวโน้มขยายตัวด้านการลงทุนจาก 3 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ ภาคการเกษตรอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และการบริการท่องเที่ยว
ดร.กิติพงค์ กล่าวว่า "ดังนั้นเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาทักษะแรงงานสายอาชีพในภาคเหนือ ที่มีจังหวัดเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางด้านต่างๆ รวมทั้งศูนย์กลางการศึกษา ซึ่งมีสถานศึกษาทั้งสิ้นถึง 1,156 แห่ง ครู 22,255 คน และนักเรียน-นักศึกษา 440,706 คน มหาวิทยาลัยรัฐและเอกชน รวม 8 แห่ง ทาง สวทน. จึงได้ร่วมกับ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และสถาบันคีนันแห่งเอเซีย ภายใต้การดำเนินงานของโครงการ "Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต" เพื่อยกระดับการเรียนการสอนด้าน STEM ให้กับหน่วยงานการศึกษาต่างๆ โดยเฉพาะสถาบันการศึกษาระดับอาชีวะในภาคเหนือทั้ง 17 จังหวัด เพื่อเพิ่มศักยภาพแรงงานในภาคอุตสาหกรรม"
นางหทัยรัตน์ อติชาติ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายด้านรัฐกิจและกิจการสัมพันธ์ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า ในการดำเนินโครงการ "Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต" ที่จังหวัดเชียงใหม่ มีแผนจัดตั้งศูนย์อาชีวศึกษาระดับภูมิภาค (Technical Vocational Education and Training Hub: TVET Hub) ประจำภาคเหนือ เป็น 1 ใน 6 แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อพัฒนานักศึกษาอาชีวะและแรงงานสายอาชีพ ในวันนี้ทางโครงการฯ จึงได้ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (มทร.ล้านนา) ที่ให้เกียรติรับหน้าที่เป็นศูนย์กลางและแกนนำในการพัฒนาการศึกษาด้านทักษะอาชีพของภาคเหนือ โดยในระยะเริ่มแรก จะเผยแพร่สู่วิทยาลัยเทคนิค 4 แห่ง เพื่อพัฒนาครูและบุคลากรการศึกษากว่า 1,800 คน ทั้งมีส่วนร่วมในการพัฒนาแรงงานที่มีคุณภาพเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมกว่า 138,000 คน ตลอดระยะเวลา 5 ปีของโครงการฯ"
ด้านนายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานอำนวยการ สถาบันคีนันแห่งเอเซีย กล่าวว่า "การจัดตั้ง TVET Hub ประจำภาคเหนือในเบื้องต้น สถาบันคีนันซึ่งเป็นผู้บริหารโครงการ "Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต" จะร่วมระดมสมองและพัฒนาหลักสูตรกับมทร.ล้านนา และสวทน. เพื่อให้ได้หลักสูตรที่ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมในกลุ่มที่โครงการฯ เห็นว่ามีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ คือ ยานยนต์และชิ้นส่วน- ยานยนต์ การเกษตร และพลังงาน"
"สำหรับหลักสูตรด้านวิชาการ จะนำโมเดลการอาชีวศึกษาและอาชีพในประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่าง สหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย มาปรับใช้ให้เข้ากับระบบการศึกษาไทย หลังจากนั้นจะดำเนินการจัดอบรมครู ผู้บริหารสถานศึกษา รวมถึงการแนะนำหลักสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ พร้อมการติดตามข้อมูลและประเมินผลอย่างใกล้ชิด"
รองศาสตราจารย์ ดร.นำยุทธ สงค์ธนาพิทักษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา กล่าวว่า "มทร. ล้านนา จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการศึกษา ตั้งแต่ผู้บริหารสถานศึกษา ครูวิทยาลัยเทคนิคและโรงเรียนอาชีวะศึกษา รวมทั้งการสร้างเครือข่ายวิทยากรและครูพี่เลี้ยงทางวิชาใน TVET Hub จนถึงพัฒนากระบวนการฝึกงานของนักศึกษากับสถานประกอบการ และการติดตามวัดผล"
ทั้งนี้ โครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต เป็นโครงการระยะยาว 5 ปี ด้วยงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นพัฒนาการศึกษาใน 3 ด้าน ได้แก่ 1.การพัฒนาศักยภาพครู นักเรียน ด้าน STEM ในการศึกษาสายสามัญศึกษา 2.การพัฒนาศักยภาพบุคลากรสายอาชีพและอาชีวศึกษา และ 3.การสร้างการรับรู้และความร่วมมือในการพัฒนาเรียนรู้ด้าน STEM และอาชีวศึกษาให้กับผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน โดยมีเป้าหมายสร้างประโยชน์ให้กับครู นักเรียน ผู้บริหารศึกษาเจ้าหน้าที่รัฐและบุคลากรทั่วประเทศกว่า 500,000 คน