กรุงเทพฯ--9 ธ.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
สตาร์แอร์ เดินหน้ารุกธุรกิจเครื่องปรับอากาศในไทยและอาเซียน ชูจุดแข็งเรื่องคุณภาพและความครบวงจรด้านบริการแบบ Total solution หลัง 5 ปีที่ผ่านมาสตาร์แอร์มีอัตราเติบโตเฉลี่ยที่ 5% ต่อปีสวนกระแสเศรษฐกิจ มั่นใจปี 2559 ตลาดเครื่องปรับอากาศยังเติบโตต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 10-15% ซึ่งเป็นตัวเลข ที่ใกล้เคียงกับปีนี้ วางหมากเตรียมขยายฐานลูกค้าทั้งกลุ่ม Commercial และ Residential อย่างสมดุล ระดมทุนขยายโรงงานเพิ่มอีกเท่าตัวพร้อมรับกำลังการผลิตเบ็ดเสร็จในที่เดียว ซึ่งจะถือเป็นเครื่องปรับอากาศ แบรนด์แรกในไทยที่สามารถทำได้ เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าแบบเต็มร้อย
นายวุฒิไกร เอื้อชูยศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ทายาทรุ่นที่ 2 ของธุรกิจสตาร์แอร์ เปิดเผยว่า ตลอด 30 ปีที่ผ่านมาสตาร์แอร์สามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องทั้งในกลุ่มลูกค้าองค์กร (Commercial) และกลุ่มลูกค้าครัวเรือน (Residential) ยิ่งไปกว่านั้นสตาร์แอร์ยังถือเป็นบริษัทแอร์สัญชาติไทย ที่สามารถให้บริการด้าน ODM และ OEM ได้อย่างครบวงจร เพราะสตาร์แอร์มีทีมพัฒนาสินค้า ทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ และโรงงานผลิตแบบครงวงจรเป็นของตนเอง จึงสามารถสร้างสรรค์สินค้าได้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในแบบ Customized products ภายใต้การให้บริการแบบ Total solution ปัจจุบันสัดส่วนผลิตภัณฑ์ของสตาร์แอร์สามารถ แบ่งออกได้เป็นกลุ่ม Commercial ประมาณ 20% และกลุ่ม Residential และสำนักงานขนาดกลางและเล็กประมาณ 80% ทั้งนี้ ในปี 2559 สตาร์แอร์ยังคงตั้งเป้าการเติบโตเฉลี่ยที่ 5%
"สตาร์แอร์ต้องการต่อยอดความสำเร็จอีกขั้น ด้วยการเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมสินค้าประหยัดพลังงานยิ่งขึ้นภายใต้มาตรฐานคุณภาพที่เรามีอยู่เดิมที่ถือเป็นจุดแข็งหลักที่ทำให้เราประสบความสำเร็จมากว่า 30 ปี นอกจากนี้ เรายังเดินหน้าจัดซื้อเครื่องจักรเพื่อขยายไลน์การผลิตพร้อมทั้งขยายพื้นที่โรงงานออกไปอีก 1 เท่าตัวในปีนี้ โดยโรงงานใหม่นี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 16 ไร่ แบ่งเป็น 2 โรง รวมเนื้อที่ 20,000 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าโรงงานแห่งใหม่และกลุ่มเครื่องจักร ชุดใหม่จะสามารถเปิดใช้ได้ในช่วงปลายปี 2559 โดยนับจากนี้เราพร้อมที่จะรุกขยายส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างเต็มรูปแบบยิ่งขึ้น" นายวุฒิไกร เอื้อชูยศ กล่าวถึงแผนธุรกิจในระยะใกล้
ด้านการบริการมาตรฐานสตาร์แอร์นั้น นายวุฒิไกร กล่าวเสริมในประเด็นดังกล่าวว่า "เราเน้นการบริการตั้งแต่ก่อนเริ่มเป็นลูกค้าจนถึงหลังจากที่ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อ เพราะก่อนที่จะขายนั้น เราจะมีทีมวิศวกรและทีมบริการเข้าไปให้คำแนะนำในการเลือกใช้แอร์ที่เหมาะสมกับบริเวณที่จะติดตั้ง โดยเราจะเน้นให้ความรู้กับตัวแทนขายในแต่ละพื้นที่ในแบบ Technician support เพื่อพร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทั่วประเทศ ซึ่งเราจะเริ่มพัฒนาในจุดนี้ต่อไป เพื่อเพิ่มความ พึงพอใจให้แก่ลูกค้าของสตาร์แอร์"
"สำหรับการเตรียมความพร้อมเพื่อต่อยอดธุรกิจรับ AEC นั้น สตาร์แอร์ได้ส่งเสริมให้ตัวแทนจำหน่ายที่มีศักยภาพ เดินหน้าขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ลาว พม่า และกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มนำเข้าไปจำหน่ายบ้างแล้ว น่าจะเริ่มเห็นผลในปี 2559" นายวุฒิไกร กล่าวเสริม
เกี่ยวกับภาพรวมการเติบโตของธุรกิจเครื่องปรับอากาศในปี 2559 นั้น นายวุฒิไกร กล่าวแสดงมุมมองต่อประเด็นดังกล่าวว่า "ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่องจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเครื่องปรับอากาศมีการเติบโตต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการแข่งขันในต่างประเทศนั้นคุณภาพของแอร์สัญชาติไทยก็ยังมีภาษี ที่เหนือกว่าในด้านคุณภาพจนเป็นที่ยอมรับและยกระดับให้อยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับบน นอกจากนี้ การขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งใน กทม. และ ตจว. โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเศรษฐกิจ รวมถึงการพัฒนาโครงการเมกกะโปรเจคของภาครัฐในอนาคตอันใกล้ และการเปิด AEC เพื่อสร้างโอกาสในการขายในประเทศเพื่อนบ้านก็ถือเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตเช่นกัน และหากพิจารณาในด้านนวัตกรรมการผลิตแล้วจะพบว่าเทรนด์ของ Invertor จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยจะขยายความนิยมจากกลุ่ม Residential ไปยังกลุ่ม Commercial ด้วยเช่นกัน โดยในปี 2558 นั้นกลุ่มเครื่องปรับอากาศ Invertor มีอัตราเติบโตการขยายตัวสูงถึง 25% หรือมีมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาทในปัจจุบัน"