กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับวงการแพทย์ในการวินิจฉัยภาวะครรภ์เป็นพิษ ที่สามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตในมารดาและทารกในครรภ์ รวมทั้ง ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
ในแต่ละปี มีสตรีทั่วโลกต้องเสียชีวิตจากการตั้งครรภ์ โดยกว่า 4 ใน 10 ของจำนวนนี้ ล้วนมีสาเหตุจากภาวะครรภ์เป็นพิษ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุหลักของการคลอดก่อนกำหนด ซึ่งจะก่อให้เกิดภาวะอื่นๆตามมา อาทิ การเสียชีวิตหรือปัญหาสุขภาพของทารก1การวินิจฉัยในปัจจุบันยังมีข้อบกพร่องในการระบุว่าสตรีตั้งครรภ์มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษจริงหรือไม่ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดความเครียดจากการนอนโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าระวัง และค่าใช้จ่ายสูงในการรักษาพยาบาลการทดสอบภาวะครรภ์เป็นพิษสามารถคาดการณ์หรือยืนยันได้ว่าสตรีตั้งครรภ์มีความเสี่ยงต่อภาวะครรภ์เป็นพิษในระยะสั้นได้อย่างแม่นยำ และสามารถแสดงผลว่าสตรีตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยง ควรจะได้รับการดูแลและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของทั้งมารดาและทารกในครรภ์ รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล2
โรช หนึ่งในกลุ่มบริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพชั้นนำของโลก เปิดตัว นวัตกรรมการตรวจเลือด เพื่อช่วยให้แพทย์วินิจฉัยสตรีตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะพัฒนาไปสู่ภาวะครรภ์เป็นพิษ ซึ่งนับเป็นภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของมารดาและทารกในครรภ์อันดับต้น1,2 การตรวจคัดกรองและหาความเสี่ยงการเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษในสตรีตั้งครรภ์ จะช่วยให้การวางแผนและการดูแลรักษามีประสิทธิภาพ และเหมาะสมมากขึ้น เพื่อให้สตรีตั้งครรภ์และทารกมีความปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้นการตรวจเลือดยังสามารถช่วยแพทย์ประเมินว่าสตรีตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษในเร็วๆ นี้หรือไม่ เพื่อลดความเครียดของสตรีตั้งครรภ์ ลดระยะเวลาที่จะต้องพักที่โรงพยาบาล รวมถึงลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นอีกด้วย
ภาวะครรภ์เป็นพิษมักจะเกิดกับสตรีตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสที่สาม พบว่าราว 1 ใน 20 ของสตรีมีครรภ์จะประสบปัญหาครรภ์เป็นพิษ และเมื่อดูจากสถิติของสตรีที่เสียชีวิตจากการตั้งครรภ์ทั่วโลกในแต่ละปีแล้ว จะพบว่า กว่า 4 ใน 10 ของจำนวนนี้ มีสาเหตุมาจากภาวะครรภ์เป็นพิษ1 อีกทั้งยังเป็นสาเหตุหลักของภาวะอื่นๆ อาทิ การเสียชีวิตหรือปัญหาสุขภาพของทารก นอกจากนี้ ภาวะครรภ์เป็นพิษยังอาจส่งผลกระทบขั้นรุนแรงต่อสตรีตั้งครรภ์ อาทิ ชัก อาการโคม่า หรือกระทั่งเสียชีวิต3 ทั้งนี้ สาเหตุของการเกิดครรภ์เป็นพิษ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด เมื่อเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษเกิดขึ้น เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดในสตรีตั้งครรภ์ทำให้ร่างกายไม่สามารถสร้างหลอดเลือดไปเลี้ยงรกได้เพียงพอ ซึ่งส่งผลให้ทารกในครรภ์ได้รับออกซิเจนและสารอาหารที่ไม่เพียงพอตามไปด้วย4,5 ภาวะครรภ์เป็นพิษเป็นโรคที่อาจไม่มีสัญญาณบ่งชี้ และมีอาการรุนแรงขึ้นได้ตามระยะเวลา ขณะนี้ ยังไม่มีวิธีรักษาภาวะครรภ์เป็นพิษได้ มีเพียงวิธีเดียวคือต้องยุติการตั้งครรภ์โดยการคลอดทารกและนำรกออกจากร่างกายมารดา
นพ.สเตฟาน เวอร์ลอเรน ที่ปรึกษาทางด้านสูตินรีแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญทางด้านการรักษาทารกในครรภ์ มหาวิทยาลัยชาริเต้ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี กล่าวว่า "ความสามารถในการตรวจวิเคราะห์ความเสี่ยงการเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษโดยนวัตกรรมการตรวจเลือดนี้ ถือเป็นเป็นอีกก้าวสำคัญในวงการแพทย์ ที่จะช่วยให้แพทย์วิเคราะห์แนวโน้มการเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษในสตรีตั้งครรภ์ได้ภายในสี่สัปดาห์หลังเข้ารับการตรวจ และช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้อย่างทันท่วงที และลดภาวะอันตรายที่จะเกิดกับมารดาและทารกได้"
การวินิจฉัยภาวะครรภ์เป็นพิษจะคาดการณ์จากสตรีที่มีอายุครรภ์มากกว่า 20 สัปดาห์แล้วมีค่าความดันโลหิตสูง (มากกว่าหรือเท่ากับ 140 / 90 มม.ปรอท โดยการตรวจเทียบสองครั้งเป็นระยะเวลาห่างกันอย่างน้อย 4 ชั่วโมง) ร่วมกับมีภาวะโปรตีนในปัสสาวะ (มากกว่าหรือเท่ากับ 300 มก. / 24 ชั่วโมง)1 อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยโดยวิธีการดังกล่าว/ เกณฑ์การคาดการณ์ดังกล่าว ยังมีข้อบกพร่องอยู่ในการระบุว่า ภาวะครรภ์เป็นพิษนั้น จะเกิดขึ้นกับสตรีตั้งครรภ์ผู้นั้นหรือไม่ รวมถึงกระบวนการในการเกิด สตรีตั้งครรภ์หลายคนที่ตรวจพบสัญญาณและแสดงอาการจะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดในโรงพยาบาล ทำให้เกิดความกังวลกับทั้งตัวมารดาและครอบครัว รวมถึงเพิ่มค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น อาทิ ค่าดูแลรักษาพยาบาล หรือค่าบริการฉุกเฉิน สตรีตั้งครรภ์ราว 8.5 ล้านคนได้รับผลกระทบจากภาวะครรภ์เป็นพิษในทุกๆปี ซึ่งก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 120 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ (หรือราว 4.2 ล้านล้านบาท) ในแต่ละปีทั่วโลก
นายพิเชษฐพงษ์ ศรีสุวรรณกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว "ที่ โรช ไดแอกโนสติกส์ วิสัยทัศน์ของเราคือการนำเสนอพลังของการตระหนักรู้/การรู้เท่าทันสภาวะความเสี่ยง หรือ Power of Knowing* ที่จะนำไปสู่การวางแผนการรักษาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาผู้ป่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นวัตกรรมการตรวจเลือดเพื่อช่วยวินิจฉัยภาวะครรภ์เป็นพิษของโรช ถือเป็นตัวอย่างล่าสุดของวิสัยทัศน์ที่เป็นรูปธรรมของเรา"