กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--ทีคิวพีอาร์
สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ (Turkish Airlines) สายการบินประจำชาติตุรกี ได้ยืนยันข้อตกลงการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ321นีโอ เพิ่มอีกจำนวน 20 ลำ ทั้งนี้ สายการบินดังกล่าวได้มียอดการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ321นีโอ อยู่แล้วเป็นจำนวน 72 ลำ และในปัจจุบัน ได้มอบความเชื่อมั่นให้กับเครื่องบินแอร์บัส เอ321นีโอ อีกครั้ง ด้วยการเลือกเครื่องบินรุ่นดังกล่าวมาสนับสนุนแผนการขยายธุรกิจของสายการบิน
"ในฐานะที่สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เป็นหนึ่งในสายการบินที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ดังนั้น กลยุทธ์การเจริญเติบโตที่มีเป้าหมายสูงของเราจึงจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มกำลังจากเครื่องบินที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด มีความน่าเชื่อถือสูงสุด และสร้างกำไรมากที่สุด" มร. เทเมล โคติล ประธานบริหารสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ กล่าว "การสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส เอ321นีโอ เพิ่มขึ้นอีกจำนวน 20 ลำในครั้งนี้จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายตามแผนการขยายธุรกิจในการสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืนได้สำเร็จ"
"เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ ได้กลับมามอบความเชื่อมั่นให้กับเครื่องบินแอร์บัส เอ321นีโอ อีกครั้ง ซึ่งเครื่องบินรุ่นดังกล่าวเป็นสมาชิกเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูลเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ซึ่งเป็นตระกูลเครื่องบินที่ขายดีที่สุดของเรา เครื่องบินแอร์บัส เอ321นีโอ ไม่เพียงแค่ตอบสนองความต้องการของสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เท่านั้น แต่ยังนำเสนอคุณสมบัติที่เหนือกว่าความคาดหวังของสายการบินทั้งในด้านประสิทธิภาพเชิงการปฏิบัติการ การสร้างผลกำไร และความดึงดูดต่อผู้โดยสาร" มร. จอห์น ลีฮีย์ ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการลูกค้าสัมพันธ์ของแอร์บัส กล่าว
ตระกูลเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ ได้นำเทคโนโลยีล่าสุดด้านต่างๆ มารวมกันไว้ ได้แก่ เครื่องยนต์รุ่นใหม่และอุปกรณ์ปลายปีกชาร์คเล็ท (Sharklet) ซึ่งเมื่อเทคโนโลยีทั้งสองทำงานร่วมกันแล้วจะทำให้สามารถนำเสนอคุณสมบัติในการลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงได้ในอัตรากว่าร้อยละ 15 ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มการปฏิบัติการ และจะเพิ่มเป็นอัตราร้อยละ 20 ในปี พ.ศ.2563 พร้อมกับนวัตกรรมในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ยอดการสั่งซื้อเครื่องบินจากตระกูลแอร์บัส เอ320นีโอ มีจำนวนทั้งหมดกว่า 4,300 ลำ จากลูกค้ากว่า 75ราย นับตั้งแต่การเปิดตัวในปี พ.ศ.2553 ซึ่งทำให้ตระกูลเครื่องบินรุ่นดังกล่าวมีส่วนแบ่งตลาดในอัตราราวร้อยละ 60