ECF ส่งบริษัทลูก ECFH เข้าลุยธุรกิจค้าปลีก เปิดตัว Can Do ร้านดังสัญชาติญี่ปุ่น ผุด 3 สาขาภายในปีนี้ เผยแผนปี 59 เปิดรวมทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 13 สาขา มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามนัด 1.3 พันล้านบาท เดินหน้าขยายธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ทั้งในและต่างประเทศ

ข่าวบันเทิง Monday December 14, 2015 08:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--Worklink PR นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา โชว์รูมจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ภายใต้แบรนด์ "ELEGA" และโชว์รูม "FINNA HOUSE" จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ภายใต้ลิขสิทธิ์ DISNEYเปิดเผยว่า บริษัท อีซีเอฟ โฮลดิ้งส์ จำกัด (ECFH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ ECF จะเริ่มดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีก "Can Do" จากประเทศญี่ปุ่นภายในเดือนธันวาคมนี้ โดยเบื้องต้นจะเปิดสาขารวม 3 แห่ง ได้แก่ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ และเดอะ พาซิโอ พาร์ค กาญจนาภิเษก ทั้งนี้บริษัทมีแผนจะขยายสาขา Can Do ออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2559 ตั้งเป้าหมายเปิดสาขารวมกันไม่ต่ำกว่า 13 สาขา เบื้องต้นมุ่งเน้นการเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าและโมเดิร์นเทรดชั้นนำในเขตกรุงเทพ ปริมณฑล และหัวเมืองขนาดใหญ่ เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายของร้านได้อย่างหลากหลาย ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะมีกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดี ราคาจับต้องได้ มีสินค้าให้เลือกใช้งานจำนวนมากเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตประจำวันของคนไทยให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น "Can Do เป็นร้านขายปลีกสินค้าทั้งร้านในราคา 100 เยน ซึ่งมีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ในอันดับต้น ๆ รวมถึงมีสาขาในญี่ปุ่นไม่ต่ำกว่า 970 สาขา นอกจากนี้ยังถือเป็นครั้งแรกที่ทาง Can Do มีการขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศ ซึ่งภายหลังจากที่ ECF เกิดความสนใจและได้เข้าไปเจรจาเพื่อแสดงความพร้อมในด้านต่าง ๆ จนทาง Can Do เกิดความเชื่อมั่นในศักยภาพ ความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจ ในที่สุดจึงเกิดเป็นการตัดสินใจที่จะดำเนินธุรกิจร่วมกันเป็นที่มาในการลงนามสัญญาแฟรนไชส์ในครั้งนี้" นายอารักษ์ กล่าว สำหรับผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในร้าน Can Do ครอบคลุมตั้งแต่ของใช้ภายในบ้าน สินค้าเพื่อความงาม ภาชนะบรรจุอาหาร อุปกรณ์ทำความสะอาด อุปกรณ์เครื่องเขียน งานฝีมือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ กล่อง ตระกร้าใส่ของ สินค้าเทศกาล ฯลฯ โดยแต่ละร้านจะมีสินค้าให้เลือกซื้อนับหมื่นรายการ ส่วนภาพรวมการดำเนินงานของ ECF ในปีนี้ เชื่อมั่นว่ารายได้จากการขายจะเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตอยู่ที่ประมาณ1.3 พันล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือน ปี 2558 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 981.77 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 924.19 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 4.64% และมีกำไรสุทธิ 54.98 ล้านบาท ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายเฟอร์นิเจอร์ในประเทศ ซึ่งยังมีกำลังซื้อที่ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของสาขาที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มลูกค้าโมเดิร์นเทรด อาทิ เทสโก้ โลตัส โฮมโปร บิ๊กซี เมกาโฮม ไทวัสดุ "บริษัทมีแผนสร้างการเติบโตในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์อย่างต่อเนื่อง ในปี 59 ตั้งเป้ารักษาการเติบโตของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 12% มีแผนขยายสาขาของแบรนด์ ELEGA และ FINNA HOUSE เพิ่มเติม ตลอดจนขยายช่องทางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรด และเพิ่มคำสั่งซื้อจากลูกค้าในตลาดต่างประเทศด้วยเช่นกัน ทั้งนี้การเติบโตของรายได้ดังกล่าวยังไม่นับรวมรายได้ของธุรกิจใหม่ที่เกิดจาก ECFH ทั้งในส่วนของธุรกิจ Can Do และธุรกิจด้านพลังงานทดแทน" นายอารักษ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ