กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--สหการประมูล
"สหการประมูล" บุกเปิดตลาดประมูลรับ AEC มุ่งหัวเมือง "อุดรธานี" หลังดูตัวเลขเศรษฐกิจภูมิภาค เชื่อรถหรู-ราคาดี มัดใจกลุ่มเศรษฐีอีสาน-เพื่อนบ้านลาว ที่เข้ามาช้อปปิ้งจับจ่ายใจกลางเมือง นำร่องด้วยรถจากพาร์ทเนอร์ชั้นดี KTB, ธนชาติ ฯลฯ รวมกว่า 200,000 คัน ประเดิมเปิดวันแรก เคาะขายเกลี้ยง 100 คัน เชื่อมั่นเป็นสัญญาณดี เผยอนาคตถ้ากลุ่มเป้าหมายขยาย เล็งจะเอาแบรนด์เนมมาให้ยกประมูลกันด้วย
นายอุดม วิวัฒนไพบูลย์ลาภ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ "ในช่วงที่ผ่านมา เศรษฐกิจของภาคอีสานตอนบน โดยเฉพาะ จ.อุดรธานี มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด สอดคล้องกับตัวเลขวิจัยของสถาบันการเงินแห่งหนึ่งรายงานว่า ขนาดเศรษฐกิจในพื้นที่ เฉพาะอุดรธานีจังหวัดเดียว อยู่ที่ 8.5 หมื่นล้านบาท รายได้ต่อหัวอยู่ที่ 5.2 หมื่นบาท สินเชื่อทั้งระบบประมาณ 6.3 หมื่นล้านบาท และเงินฝากประมาณ 4.9 หมื่นล้านบาท ไม่นับรวมตัวเลขการค้าขายในเขตชายแดน และจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มเศรษฐีชาวลาวที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอย ทำให้อุดรธานีเป็นหัวเมืองเศรษฐกิจดาวรุ่ง เห็นได้ว่า เพียงช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีย่านการค้า คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว ศูนย์การค้า คอมมูนิติ้ มอลล์ เกิดขึ้นจำนวนมาก และบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายสาขามาทีนี่นานแล้ว เพียงแต่รอจังหวะและทำเลที่เหมาะสม เนื่องด้วยเชื่อว่ามีหลายปัจจัยที่จะทำให้ธุรกิจการประมูล ประสบความสำเร็จ นอกจากระบบ Open Auction หรือการ ประมูลแบบเปิด ที่สหการประมูล นำเข้ามาใช้เป็นเจ้าแรกในเมืองไทย เพื่อลบจุดบอดของธุรกิจ เน้นความโปร่งใส ยุติธรรม แล้ว ทำเล และขนาดพื้นที่ เป็นอีกเรื่องสำคัญ ที่สหการประมูล ให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยทีเดียว โดยจากเดิมบริษัทฯ มีจุดประมูลรวม 13 แห่ง จำแนกเป็น 2 ลักษณะ คือ สถานที่จัดประมูลประจำ และ ศูนย์ประมูลสัญจร ล่าสุดตามนโยบายที่ต้องการให้ มีจุดประมูลครอบคลุมทั่วภูมิภาคของประเทศ และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้ ในภูมิภาคต่างๆ สามารถซื้อขายได้สะดวก จึงได้เพิ่ม สาขาลำดับที่ 14 สาขาใหม่ จ.อุดรธานี บริเวณริมหนองบัว ศูนย์กลางการค้าที่เรียกได้ว่าเป็น ไพร์มโลเคชั่น ที่ดีที่สุดในขณะนี้ อนึ่ง ในปี 2557 นั้น บริษัทฯ มียอดขาย การเปลี่ยนสินค้า dead stock ให้กลับคืนสู่ตลาด เป็นจำนวนกว่า 80,000 คัน เป็นยอดหมุนเวียนทางเศรษฐกิจกว่า 13,000 ล้านบาท
"เราเชื่อว่าตลาดเออีซีหรืออาเซียน จะช่วยขยายตลาด จะทำให้การเปลี่ยนมือของทรัพย์สินสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีกับสหการประมูล อนาคตอาจมีต่างชาติที่ต้องซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ถ้าบริษัทสามารถบริหารจัดการระบบต่างๆ ให้คงที่ เมื่อตลาดเปิด และมีความพร้อม ก็สามารถหิ้วกระเป๋าเข้าไปเปิดทำการในประเทศต่างๆ เหล่านี้ได้ทันที ปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้หลังหักภาษีแล้ว ประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนปีนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขการเติบโตได้ เนื่องจากสภาพตลาดโดยรวมผันผวน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารายได้รวมของบริษัทเติบโตต่อเนื่อง และเติบโตอย่างก้าวกระโดดในบางปี โดยบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทประมูล มากกว่า 50% ในขณะที่จำนวนรถยนต์มือสองจากบริษัทไฟแนนซ์ต่างๆ มีประมาณ 2 แสนคันต่อปี จากจำนวนการหมุนเวียนของรถยนต์มือสองในตลาดมีประมาณ 3 ล้านคันต่อปี ดังนั้นตลาดนี้จึงยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
ด้าน นายศราวุธ คุณปิติลักษณ์ ผู้จัดการสหการประมูล สาขาอุดรธานี เผยว่า "เป็นที่ทราบกันดีว่าจังหวัดอุดรธานีมีขนาดเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ยิ่งในอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้ว ก็ถือได้ว่าเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย หลังจากที่บริษัทได้ทดลองเปิดการประมูลสัญจรมาแล้วหลายครั้ง ทางบริษัทฯ จึงเล็งเห็นถึงความเป็นไปได้ในการเปิดดำเนินการสาขาอย่างเป็นทางการที่จังหวัดอุดรธานี ทั้งนี้ทางบริษัทยังมีเป้าหมายสำคัญ โดยการวางให้สาขาอุดรธานีแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการประมูลของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และรองรับการเปิด AEC ในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกกับคนในพื้นที่ จากแต่ก่อนที่ต้องการสินค้าที่โดนใจ ในราคาที่ต้องการ ต้องเดินทางไปยกป้ายประมูลไกลถึงกรุงเทพฯ หรือไม่ก็ต้องรอจัดศูนย์ประมูลสัญจร เฉลี่ยเดือนละครั้งหรือสามเดือนครั้ง ต่อจากนี้ไป สามารถเป็นเจ้าของ มาประมูลสินทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือ รถจักรยานยนต์ ฯลฯ ที่ชื่นชอบ ราคาโดนใจ ได้ง่ายๆ ทั้งนี้ความพิเศษของสาขาใหม่ บริษัทฯ ได้คาดหวังกลุ่มเศรษฐีเพื่อนบ้าน ชาวลาว ที่เข้ามาจับจ่ายในพื้นที่เป็นประจำ เพราะโลเคชั่นที่เลือกเปิดนี้ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ ใจกลางชุมชน เดินทางง่าย สามารถเชื่อมโยงตรงสู่ สปป.ลาว เลยทีเดียว ซึ่งหลังเปิดสาขาใหม่ บริษัทฯ ได้จัดประมูลรถล็อตแรก 100 คัน ผลปรากฏสามารถเคาะขายเกลี้ยง ภายในเวลาไม่นาน เชื่อว่าเป็นสัญญาณที่ดี และในอนาคตหากกลุ่มเป้าหมายขยายเพิ่มจะนำสินทรัพยในแขนงอื่นๆ มาร่วมประมูลด้วย"
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีจุดประมูลรถทั่วประเทศไทยทั้งสิ้น 14 แห่ง ครอบคลุมทั่วภูมิภาคของประเทศ แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ สถานที่จัดประมูลประจำ ในพื้นที่ในกรุงเทพและปริมณฑลมีจำนวน 2 แห่ง คือ สำนักงานใหญ่ :ซอย สหการประมูล แยกเหม่งจ๋าย เป็นพื้นที่จัดประมูลรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และทรัพย์สินอื่นๆ และ สาขารังสิต(คลอง8) จะเป็นพื้นที่จัดประมูลรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รถขับเคลื่อนไม่ได้ รถซาก รถเพื่อการเกษตร รถบรรทุก ศูนย์ประมูลสัญจร บริษัทฯ มีการจัดประมูลสัญจรตามภูมิภาคต่างๆ โดยเน้นพื้นที่ซึ่งเป็นจังหวัดหลักของแต่ละภูมิภาค ซึ่งบริษัทฯ มีพื้นที่จัดเก็บรถยนต์อยู่ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเคลื่อนย้ายรถยนต์ โดยจะมีการกำหนดแผนการประมูลล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ มีการจัดการประมูลสัญจร รถยนต์เฉลี่ยประมาณ 35 ครั้งต่อเดือน ในพื้นที่ต่างๆ ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียด อัพเดทการจัดประมูลแต่ละครั้งตามช่องทางต่างๆ ดังนี้ www.auct.co.th เฟสบุ๊คและแอพพิลเคชั่น สหการประมูล Union Auction หรือโทรศัพท์สอบถาม 0-2934-7344-8