กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
"ศิลปะ" และ "ดนตรี" เป็นสิ่งที่เกิดมาจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ ผลงานแต่ละชิ้นถูกออกแบบมาอย่างแตกต่าง หลากหลาย และไร้ขอบเขตของจินตนาการ แต่ทว่าผลงานส่วนใหญ่กลับไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับสายตาของคนดูหรือเผยแพร่ถึงหูของคนฟัง โดยเฉพาะผลงานที่ผลิตโดยคนทั่วไปซึ่งไม่ได้มีชื่อเสียงหรือเป็นที่รู้จัก เพราะปัจจุบันสังคมไทยยังมีพื้นที่ในการแสดงผลงานด้านศิลปวัฒนธรรมค่อนข้างจำกัด โดยภายใต้ข้อจำกัดนั้น มีอยู่พื้นที่หนึ่งซึ่งมุ่งยกระดับผลงานด้านดนตรีและศิลปะเป็นสาระสำคัญ ตลอดจนเปิดโอกาสให้คนยุคใหม่ได้มาแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ และส่งต่อแรงบันดาลใจอย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงอินดี้ กับงานที่มีชื่อสั้นๆ ง่ายๆ ว่า "Noise Market"
นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) หรือ มิวเซียมสยาม กล่าวว่า "Noise Market" เป็นหนึ่งในกิจกรรมของมิวเซียมสยามที่มุ่งสนับสนุนการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ด้วยการเปิดพื้นที่ให้กับคนยุคใหม่ได้แสดงศักยภาพผ่านการแสดงผลงานด้านศิลปะและดนตรี ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มีกระแสตอบรับดี และจัดต่อเนื่องมาแล้วเป็นครั้งที่ 5 โดยทางมิวเซียมสยามร่วมมือกับ Panda Records ดึงศิลปินอินดี้ทั้งไทยและเทศ กว่า 50 วง มาร่วมบรรเลงดนตรีเคล้าลมหนาว รวมถึงเชิญชวนผู้ประกอบการหน้าใหม่ไฟแรงกว่า 100 เจ้า มาร่วมโชว์ผลงานออกร้านค้า ไม่ว่าจะเป็นของทำมือ ของตกแต่งบ้าน งานหนัง งานผ้า งานกระดาษ ฯลฯ รวมไปถึงอาหารซึ่งมีเลือกชิมอย่างหลากหลาย ตลอดจนมีมินิเวิร์กช็อปที่น่าสนใจ จากทั้งหมดนี้จึงเกิดเป็นตลาดไอเดียของคนยุคใหม่ที่เดินได้ไม่มีเบื่อ
นอกเหนือไปจากความบันเทิงเริงรมย์ที่จะเกิดขึ้นกับผู้ที่มาเดินในงาน 2 วันนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการที่มาร่วมออกร้านแสดงผลงานนั้น ก็จะได้เรียนรู้ความต้องการของผู้บริโภคจริงๆ ว่าเป็นอย่างไร ได้รับประสบการณ์การแลกเปลี่ยนซื้อขายทั้งไอเดียและสินค้า อันจะนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการให้ดีขึ้นต่อไป ในขณะที่ศิลปินก็ได้นำเสนอผลงานดนตรีสู่หูคนทั่วไป ได้รับฟังความคิดเห็น และเกิดเป็นแรงบันดาลใจให้ทำผลงานดีๆ ออกมาในอนาคตเช่นกัน ทั้งนี้ เนื่องด้วยการเรียนรู้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่เราได้เขียนหรืออ่าน แต่เกิดจากประสบการณ์ของชีวิตในทุกๆวัน เพราะฉะนั้นงาน Noise Market จึงไม่ได้ตอบโจทย์เพียงแค่ความบันเทิง แต่เป็นการส่งเสริมสาระการเรียนรู้ด้วย อย่างไรก็ดี การจัดงานในครั้งนี้ยังผลให้ประชาชนทั่วไปได้รู้จักและคุ้นเคยกับการเดินทางมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์มากขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้เกิดค่านิยม Museum Culture ขึ้นในสังคมไทย อันเป็นหนึ่งในความมุ่งหมายสำคัญของมิวเซียมสยาม นายราเมศ กล่าวสรุป
นายวรรณฤต พงศ์ประยูร เจ้าของค่ายเพลงอิสระ Panda Records กล่าวว่า งาน Noise Market นั้นจัดขึ้นปีละครั้งในเดือนพฤศจิกายน จนปัจจุบันเป็นเหมือนประเพณีการมาพบกันของศิลปินผู้ผลิตงานอิสระหลากหลายสาขา กับผู้ที่สนใจจากหลายเชื้อชาติไปจนถึงประชาชนทั่วไป สำหรับในสาขาดนตรีมีวงดนตรีจากหลากค่ายอินดี้ที่เกิดใหม่และที่ยังไม่สังกัดจากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อีกทั้งหลายแนวเพลงที่ติดตามกันมา ตลอดจนศิลปินดังที่หันกลับมาทำงานแบบ DIY เรียนรู้วิธีทำงาน แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน และเผยแพร่ผลงานกันใหม่ โดยในงาน Noise Market ครั้งที่ 5 นี้ มีโชว์พิเศษที่หาชมยากจริงๆ จากศิลปินต่างแดน วงกู่แคน วงอินดี้จากอีสาน วงThe White Shoes & Couples Company จากอินโดนีเซีย Cyndi Seui และการแจมพิเศษจากศิลปินอินดี้รุ่นเก๋า The Photo Sticker Machine และ ริค วชิรปิลันธ์ มาแลกเปลี่ยนพลังงานกันกับทุกศิลปินรุ่นใหม่ ในขณะเดียวกัน สาขางานฝีมือก็มีกลุ่มคนรุ่นใหม่ขนผลงานศิลปะ สินค้าทำมือ หนังสือทำมือ งานออกแบบ ของใช้ ฯลฯ มาออกร้านกันแน่นขนัด ซึ่งเป็นร้านที่สมัครคัดเลือกเข้ามาโดยมีความคิดสร้างสรรค์ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวหลากหลายความสนใจ นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมพิเศษที่แตกต่างไปจากงาน Noise Market ครั้งก่อนๆ นั่นก็คือมีมุมฉายหนังสั้นซึ่งเป็นผลงานของนักเรียน นักศึกษา และประชาชนกว่า 50 เรื่อง มาให้ได้ชมกันอย่างต่อเนื่องตลอดงาน จากสถิติ งานNoise Market 5 ครั้งนี้มีผู้มาร่วมงานกว่า 8,000 คน คับคั่งตลอดทั้งสองวันทีเดียว
นางสาวพราว กระตุฤกษ์ (พราว) ศิลปินวง WHY FRANK กล่าวว่า เมื่อสองปีก่อน ตอนที่เธอยังเป็นนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เธอมีโอกาสได้มาเที่ยวงาน Noise Market ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกของมิวเซียมสยาม
ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับเธอในหลายๆ อย่าง ทั้งบรรยากาศของงาน การออกร้านศิลปะ ตลอดจนการเปิดโอกาสให้ศิลปินอิสระหน้าใหม่ได้มาแสดงผลงานเพลงนอกกระแสของตนเอง ในฐานะที่เธอและเพื่อนๆ เป็นคนกลุ่มหนึ่งที่รักในการทำเพลงจึง
รู้สึกสนใจและอยากมามีส่วนร่วมในงาน Noise Market ที่จะจัดขึ้นในครั้งต่อไป แต่ในช่วงนั้นสมาชิกในวงของเธออันประกอบไปด้วยนักศึกษาแพทยศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ ประสบกับภาวะเรียนหนัก ขึ้นวอร์ด ทำวิทยานิพนธ์
ทำโปรเจ็กต์จบ ทำให้แต่ละคนไม่มีเวลาและห่างหายกันไป แต่เมื่อเรียนจบ มีเวลามากขึ้นก็คิดจะกลับมารวมตัวกันใหม่ โดยมีงาน Noise Market 5 เป็นเวทีที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และจุดไฟให้พวกเขากลับมาอยากสร้างผลงานเพลงของตัวเองอีกครั้ง
นางสาวศวัสมน ใจดี (ไอเดีย) และ เด็กหญิงวริศา ใจดี (ไอซี) สองสาวน้อยผู้มาออกร้านขายนิทานและสมุดทำมือวาดลวดลายเองในชื่อ I-Story+ กล่าวว่า ปกติแล้วทั้งสองคนชอบวาดภาพเป็นชีวิตจิตใจ เขียนไดอารี่ทุกวันจนเป็นนิสัย คุณแม่ซึ่งเห็นพัฒนาการ และความตั้งอกตั้งใจในการวาดภาพของพวกเธอจึงสนับสนุนให้ลองนำผลงานมาออกร้านเพื่อจำหน่าย ถึงแม้จะไม่เคยไปออกร้านที่ไหน แต่คุณแม่และพวกเธอก็ตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะเลือกงาน Noise Market 5 ให้เป็นพื้นที่แรกใน
การสร้างประสบการณ์และความทรงจำดีๆ เพราะงานนี้มีแนวคิดสนับสนุนผลงานด้านศิลปะ อีกทั้งในงาน Noise Market ครั้งที่ผ่านๆ มา พวกเธอก็ได้มาเดินเล่นและเห็นงานศิลปะที่น่าสนใจมากมาย ตลอดจนคนที่มาเที่ยวงานก็มีจำนวนมากและหลากหลายทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ คนไทย และคนต่างชาติ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้นำเสนอผลงานการวาดของตนเองให้กับคนทั่วไป ได้รับฟังความคิดเห็นใหม่ๆ เพื่อนำไปปรับใช้กับผลงาน เธอมองว่าการวาดที่เป็นเพียงงานอดิเรกในวันนี้ อาจจะต่อยอดเป็นอาชีพในอนาคตได้
นางสาวอันยา วิปพจีวสกา (Ania Wypijewska) ชาวโปแลนด์ กล่าวว่า เธอรู้จักงาน Noise Market ครั้งแรกด้วยคำบอกต่อจากเพื่อนของเธออีกที เมื่อเธอได้มาเที่ยวเมืองไทยเธอจึงไม่พลาดที่จะมางานนี้ด้วยตัวเอง ครั้งแรกที่ได้มาพบกับตลาดเสียงเพลงในบรรยากาศน่ารักๆ คึกคักสไตล์อินดี้ มันทำให้เธอรู้สึกมีความสุขแบบบอกไม่ถูก เธอชอบกระถางปลูกต้นไม้ลายเก๋ชอบเสื้อผ้าแนวเท่ๆ และเครื่องประดับทำมือ ซึ่งของเหล่านี้มีอยู่มากมายทำให้เธอเดินได้ไม่มีเบื่อ และเธอเองก็กลับมาเที่ยวอย่างต่อเนื่องตลอดทุกปี สำหรับงาน Noise Market 5 นี้นับเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่เธอได้มาเที่ยวยังตลาดสุดฮิปของมิวเซียมสยาม เธอบอกได้ถึงความแตกต่างจากงาน Noise Market ครั้งก่อนๆ คือ พื้นที่งานนั้นขยายออกไปมากกว่าเดิม ศิลปินอิสระที่มาแสดงดนตรี
ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้น ร้านค้ายังคงคอนเซ็ปต์ของทำมือที่มีความหลากหลาย ซึ่งทั้งหมดนี้รวมเป็นบรรยากาศที่สร้างความประทับใจให้กับเธอและเพื่อนชาวอังกฤษของเธอที่มางานนี้เป็นครั้งแรกได้เป็นอย่างดี โดยถ้ามีโอกาสเธอจะกลับมางานนี้อีกแน่นอน
สำหรับงาน Noise Market 5 จะจัดขึ้นปีละครั้งในเดือนพฤศจิกายน ณ มิวเซียมสยาม (ท่าเตียน) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-225-2777 หรือ www.facebook.com/museumsiamfan