กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--ตีฆ้องร้องป่าว
ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นสำคัญที่คนทั่วโลกต่างตื่นตัวและหันมาใส่ใจรณรงค์กันอย่างจริงจังมากขึ้น ในประเทศไทยก็เช่นกัน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่างตระหนักและให้ความสำคัญในการหาแนวทางการจัดการรักษาสิ่งแวดล้อมให้อยู่ในสภาพที่ดีอย่างยั่งยืนผ่านการวางแผนที่มีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ผลิตภัณฑ์น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ จึงจัดโครงการ "I am doing it ร่วมสร้างวินัยที่ดีกับเนสท์เล่ เพียวไลฟ์" อย่างต่อเนื่อง เพื่อสานต่อพันธกิจการปลูกจิตสำนึกให้เด็กไทยรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนผ่านการให้ความรู้เรื่องรีไซเคิล ซึ่งในปีนี้ได้ผนึกกำลังกับ 3 พันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) และบริษัท สถานีรีไซเคิล วงษ์พาณิชย์ สุวรรณภูมิ จำกัด เดินสายจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านการรีไซเคิลและการคัดแยกในเรื่อง "แกะฉลาก แยกฝา แยกขวด" กับ 10 โรงเรียนนำร่องในกรุงเทพมหานคร โดยเน้นให้เกิดการปฏิบัติจริงภายในโรงเรียน ทั้งนี้ยังจัดกิจกรรมส่งมอบไออุ่นด้วยการมอบเสื้อกันหนาวที่ผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ที่ได้จากกระบวนการแปรรูปขวดพลาสติกใช้แล้วเพื่อเสริมสร้างแรงบันดาลใจเรื่องการรีไซเคิลแก่น้องๆ นักเรียน 7 โรงเรียนในอำเภอสันติสุข จังหวัดน่าน
มร. ลูก้า คิโอด้า ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจน้ำดื่ม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "ผลิตภัณฑ์น้ำดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ มุ่งมั่นปฏิบัติตามนโยบายการจัดการพัฒนาทรัพยากรน้ำและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนซึ่งเป็นนโยบายของเนสท์เล่ทั่วโลก เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่สามารถแก้ไขได้ภายในชั่วข้ามคืน หรือด้วยบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ดังนั้นการร่วมสร้างวินัยด้วยการปลูกจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมในเยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง จะช่วยวางรากฐานที่มั่นคงให้กับคนรุ่นต่อไป"
"เราเริ่มโครงการนี้ครั้งแรกกับพนักงานเนสท์เล่ก่อนแล้วค่อยๆ ขยายองค์ความรู้เชิงอนุรักษ์และจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมออกสู่สาธารณชน โดยจับมือกับองค์กรภาคเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมมุ่งเน้นการปลูกจิตสำนึกในเด็กไทย เพราะเชื่อมั่นว่าหากบ่มเพาะความรู้ความเข้าใจเชิงอนุรักษ์ และการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าผ่านกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการรีไซเคิล ตลอดจนการเปิดมุมมองใหม่ๆ ผ่านวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถ เช่น เส้นใยโพลีเอสเตอร์จากการรีไซเคิลขวดพลาสติกสามารถนำมาแปรรูปเป็นเสื้อกันหนาวได้ จะช่วยจุดประกายให้เด็กไทยร่วมสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นได้อย่างแน่นอน" มร. ลูก้า กล่าวต่อ
ด้านนายอนุชา สุวรรณ นายอำเภอสันติสุข จังหวัดน่าน กล่าวว่า "อำเภอสันติสุขเป็นอำเภอเล็กๆ ในจังหวัดน่านที่มีแนวทางการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแบบเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน ซึ่งเราเชื่อว่าการร่วมมือนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน สำหรับโครงการ "I am doing it ร่วมสร้างวินัยที่ดีกับเนสท์เล่เพียวไลฟ์" เป็นโครงการที่ดีโครงการหนึ่งที่แบ่งปันองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อนักเรียน ทั้งยังเอื้อประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่และชาวอำเภอสันติสุขได้เป็นอย่างดี สอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของอำเภอครับ"
นายอภินันท์ บุญเกื้อ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปางช้าง เล่าว่า "ที่โรงเรียนของเราแม้จะเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ คือโรงเรียนไม่ได้เป็นเพียงแหล่งบ่มเพาะวิชาความรู้ทางวิชาการ แต่ยังมุ่งปลูกจิตสำนึก ทั้งในด้านคุณธรรม จริยธรรม ให้กับนักเรียนตัวน้อยๆ ของเรา ด้วยเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมต่อไป โรงเรียนของเราให้ความสำคัญในเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ ด้วยการกำหนดวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมของโรงเรียน รวมทั้งส่งเสริมให้นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงผ่านกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อาทิ 3R การลดการใช้ (Reduce) การใช้ซ้ำ(Reuse) และการรีไซเคิล(Recycle) ผมขอขอบคุณเนสท์เล่และพันธมิตรที่มาให้ความรู้เรื่องการรีไซเคิล และมอบเสื้อที่ผลิตขึ้นจากกระบวนการรีไซเคิลขวดพลาสติกในวันนี้ครับ ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนได้เป็นอย่างดี"
ติดตามกิจกรรมดีๆ เรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมได้ที่ www.facebook.com/nestlepurelifethailand