กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
ขยายสู่ตลาดและภาคส่วนใหม่ๆ ของอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่คิดค้นนวัตกรรมเพื่อการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม
ออโตเดสก์ ผู้นำด้านซอฟต์แวร์การออกแบบสามมิติ วิศวกรรม และความบันเทิง เปิดตัว ออโตเดสก์ อองเทรอเพรอนัวร์ อิมแพ็ค โปรแกรม (Autodesk Entrepreneur Impact Program)
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรกระหว่างการประชุมด้านนวัตกรรมที่ยั่งยืนประจำปี 2558 (Sustainable Innovation Forum 2015) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 (United Nations Climate Change Conference of Parties 21 - COP21) ครั้งล่าสุด โดยออโตเดสก์ อองเทรอเพรอนัวร์ อิมแพ็ค จะสนับสนุนบริษัทสตาร์ตอัพทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกที่คิดค้นและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ให้สามารถสมัครรับซอฟต์แวร์ของออโตเดสก์ไปใช้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย* เพื่อให้พร้อมเข้าสู่ตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
องค์กรที่จะมีสิทธิ์สมัครรับซอฟต์แวร์ครั้งนี้ต้องก่อตั้งมาไม่ถึง 5 ปี และมีรายได้ต่อปีต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(หรือประมาณ 36 ล้านบาท) โดยองค์กรที่ผ่านเกณฑ์จะสามารถเข้าใช้ซอฟต์แวร์ได้สูงสุด 3 ซอฟต์แวร์ ได้แก่Autodesk Product Design Suite Ultimate, Autodesk Fusion 360, และ Autodesk Building Design Suite Ultimate
"โลกของเรากำลังเผชิญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นประเด็นหลักระดับโลกที่ต้องเร่งแก้ไข และเรากำลังได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา" คุณเจค เลเยส ผู้อำนวยการโปรแกรมโกลบอล คลีนเทค แอนด์ อองเทรอเพรอนัวร์ อิมแพ็ค (Global Cleantech and Entrepreneur Impact)ของบริษัทออโตเดสก์ กล่าว "ปัจจุบันนี้ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพสามารถมาร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะนำพาไปสู่เศรษฐกิจแบบปราศจากคาร์บอนได้"
ออโตเดสก์ อองเทรอเพรอนัวร์ อิมแพ็ค โปรแกรม ถือเป็นการขยายขอบข่ายและรีแบรนด์โปรแกรมเดิมอย่าง ออโตเดสก์ คลีนเทค พาร์ตเนอร์ โปรแกรม (Autodesk Cleantech Partner Program) ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2552 และได้ดำเนินการในบางกลุ่มประเทศ โดยคัดสรรบริษัทสตาร์ตอัพที่ออกแบบและสร้างโซลูชั่นต่างๆ ด้วยเทคโนโลยีที่สะอาด หรือ 'คลีนเทคโซลูชั่น'
คลีนเทคโซลูชั่นดังกล่าวมีอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการสร้างภูมิทัศน์ใหม่ๆ ในตัวเมือง ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและช่วยส่งเสริมแนวทางแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ยั่งยืน ซึ่งนับตั้งแต่นั้นโครงการคลีนเทค (เทคโนโลยีสะอาด) ของเราได้เติบโตขึ้นอย่างเต็มที่ และการพัฒนาด้านเทคโนโลยีก็รวดเร็วขึ้นจากเดิม จนการเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ๆ กลายเป็นเรื่องง่าย ยกตัวอย่างเช่น บริษัทเทสล่า (Tesla) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับการสนับสนุนในคลีนเทค พาร์ตเนอร์ โปรแกรมของเราในสหรัฐฯ และได้กลายเป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง รวมทั้งการก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจยานพาหนะไฟฟ้าได้ในที่สุด
คุณเลเยส กล่าวเพิ่มเติมว่า "เราเล็งเห็นแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็วของกลุ่มผู้ประกอบการทั่วโลก ที่บริษัทสตาร์ตอัพสามารถนำเสนอนวัตกรรมประเภทปรับเปลี่ยนขนาดได้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมต่อไป และเราอยากสนับสนุนพวกเขาให้มุ่งมั่นสร้างสรรค์ในแนวทางนั้น ในขณะที่พวกเขาก็ช่วยทำให้แคมเปญฟิวเจอร์ ออฟ เมกกิ้ง ธิงก์ส (Future of Making Things) เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และทำให้กิจกรรมต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นรูปธรรมมากขึ้น"
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับออโตเดสก์ อองเทรอเพรอนัวร์ อิมแพ็ค โปรแกรม รวมถึงรายละเอียดและกำหนดการในแต่ละประเทศ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://www.autodesk.com/entrepreneurimpact