กรุงเทพฯ--16 ธ.ค.--IR network
บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) แย้มไตรมาส4/58 ทำผลงานโตไม่แพ้ไตรมาส3/58 ที่โชว์กำไรสุดล้ำ 331.19 ล้านบาท เหตุงานในมือหนุน ลุยประมูลเพิ่มอีกเพียบ "สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย" ระบุ ต่อจากนี้จะรุกหนักลุยธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันผลประกอบการให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน ตอกย้ำสิ้นปีนี้ปั๊มรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 50%
ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยถึง ทิศทางผลประกอบการไตรมาส 4/2558 ของบริษัทและบริษัทย่อยคาดว่า มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2558 เนื่องจากจะทยอยรับรู้รายได้จากงานที่มีอยู่ในมือ (Backlog) อีกทั้งบริษัทยังมีแผนเข้าประมูลงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้บริษัทยังได้เข้าร่วมยื่นเป็นผู้สนับสนุนในโครงการโซล่าฟาร์มสำหรับสหกรณ์การเกษตร และส่วนราชการที่เพิ่งปิดรับสมัครไป ซึ่งบริษัทผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ 11 โครงการ และคาดหวังว่าจะได้รับส่วนแบ่งประมาณร้อยละ 10 จากทั้งหมด 600 เมกะวัตต์ อันจะส่งผลต่อรายได้และกำไรของ GUNKUL ให้เติบโตและมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น ที่สำคัญทำให้บริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานปี 2558 จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ไม่ต่ำกว่า 50%
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2558 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 ของบริษัทและบริษัทย่อย พบว่ามีผลกำไรสุทธิจำนวน 331.19 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อนที่มีผลกำไรสุทธิจำนวน 154. 62 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 176.58 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 114.20 ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 544.05 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 463.05 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 81 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.49 เนื่องจากยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทสามารถจัดจำหน่ายอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับกลุ่มลูกค้าโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ค้างท่อที่ทยอยรับแจก PPA ตั้งแต่ไตรมาส2 ที่ผ่านมา โดยมีกำหนดต้อง SCOD ให้ทันสิ้นปีนี้ ขณะที่บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 3,711 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,371 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.59 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อนเท่ากับ 2,340 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัทได้ลงนามสัญญาเงินกู้โครงการจำนวน 4,080 ล้านบาทกับธนาคารผู้สนับสนุนสำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 87 เมกะวัตต์ ในนามบริษัท รางเงิน โซลูชั่น จำกัด ซึ่งประกอบด้วยโรงไฟฟ้าฯ ทั้งสิ้น 11 โรง โดยจะดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้ และบริษัทยังประสบความสำเร็จจากการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมแบบ RO (Right Offering) รวมกว่า 4,000 ล้านบาท ทำให้สินทรัพย์รวมของบริษัท ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 เพิ่มขึ้นเป็น 19,755 ล้านบาท