สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 18 ธันวาคม 2558 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 18, 2015 17:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 ธ.ค.--พีอาร์ดีดี สภาวะตลาดวันที่ 18 ธันวาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,051.43-1,057.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,150 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,250 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ15 อยู่ที่ 18,170 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 190 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,360 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.50 น.ของวันที่ 18/12/15) แนวโน้มวันที่ 21 ธันวาคม 2558 ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินเคลื่อนตัวอยู่ใกล้จุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หลังพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดให้แก่สินทรัพย์สหรัฐ ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินหยวนในตลาดต่างประเทศแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือนที่ 6.5705 ขณะที่อัตราหยวนในประเทศแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีครึ่งที่ 6.4842 โดยลดลง 10 วันติดต่อกันและลดลงมากที่สุดติดต่อกันเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อราคาทองคำ ขณะที่แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในประเทศต่าง ๆ เริ่มมีสัญญาญาณชัดเจนขึ้น โดยธนาคารกลางฮ่องกงประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน (Base Rate) ขึ้น 0.25% สู่ระดับ 0.75% ธนาคารกลางเม็กซิโกประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีเพื่อสกัดกั้นการอ่อนค่าของเปโซเม็กซิโก ในอัตราดอกเบี้ย 0.25 % สู่ 3.25 % ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินจีนปรับขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (อาร์/พี) ระยะ 14 วันกับระยะ 1 เดือนพุ่งขึ้น จากการที่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่กังวลกับสภาพคล่องในตลาดในช่วงสิ้นปี และแทบไม่ปล่อยเงินออกมา โดยเฉพาะหลังจากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งประเด็นดังกล่าวลดความน่าสนใจในการลงทุนลงเนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย ทั้งนี้ยังคงเห็นแรงขายกลับเข้ามายังตลาดทองคำอีกครั้งเมื่อราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกปรับลดการถือครอง ทองคำลง 0.70% สู่ระดับ 630.17 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนกันยายน 2008 เบื้องต้นประเมินว่า หากราคาดีดตัวขึ้นไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,066 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับ แต่หากสามารถผ่านไปได้ ราคาทองคำจะมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,071 ดอลลาร์ต่อออนซ์ กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากในระยะสั้นหากราคาทองคำอาจขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,066-1,071 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง ซึ่งหากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,048-1,046 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณดังกล่าว และรอไปขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปหรือตามบริเวณแนวต้านต่างๆ อย่างไรก็ตามวายแอลจีเน้นย้ำว่านักลงทุนระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุน และปฎิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด ในส่วนนักลงทุนระยะยาวคงต้องรอการย่อตัวและการตั้งฐานของราคาทองคำแล้วจึงเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,048 (17,900บาท) 1,040 (17,760บาท) 1,030 (17,590บาท) แนวต้าน 1,066 (18,210บาท) 1,071 (18,300บาท) 1,078 (18,410บาท) GOLD FUTURES (GFZ15) แนวรับ 1,048 (18,050บาท) 1,040 (17,910บาท) 1,030 (17,740บาท) แนวต้าน 1,066 (18,560บาท) 1,071 (18,450บาท) 1,078 (18,570บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ