SCB ร่วมกับไทยธนาคารรับบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กฟผ.มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Wednesday December 26, 2001 12:26 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ธ.ค.--ธนาคารไทยพาณิชย์
ในวันที่ (26/12/44) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยนายอุดม ธุววงศ์ ประธานคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ โดยนายชัชวาล พรรณลาภ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยธนาคาร โดยนายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และธนาคารซิตี้แบงก์ โดย Mr.Karl Bain Global Transaction Services Head Country Manager ร่วมกันลงนามสัญญา โดยแต่งตั้งธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารไทยธนาคารให้เป็นผู้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงาน กฟผ. มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท และลงนามแต่งตั้งธนาคารซิตี้แบงก์เป็นผู้รับฝากทรัพย์สินของกองทุนฯ ณ ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังมีการชะลอตัวรวมทั้งอัตราดอกเบี้ยเคลื่อนไหวอยู่ในระดับต่ำและมีความผันผวนสูง การบริหารเงินภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวจึงต้องใช้ความระมัดระวังและความชำนาญในการติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด รวมทั้งการตัดสินใจที่ทันเวลาภายใต้การวิเคราะห์ที่มีระบบนั้น
นายอุดม ธุววงศ์ ประธานคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่าคณะกรรมการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพฯ ได้เลือกธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารไทยธนาคาร เป็นผู้จัดการกองทุนฯ และธนาคารซิตี้แบงก์เป็นผู้รับฝากทรัพย์สินของกองทุนฯ เนื่องจากธนาคารทั้ง 3 แห่งเป็นสถาบันการเงินที่มีบุคลากรที่เพรียบพร้อมไปด้วยผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ความเป็นมืออาชีพในระดับแนวหน้าของกลุ่มธุรกิจเดียวกันที่จะเป็นกำลังในการบริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงาน กฟผ.ให้มีความมั่นคงเจริญเติบโตยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อยังประโยชน์ต่อสมาชิกกองทุนและสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันกองทุนฯ มีขนาดกองทุนในมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท สมาชิกกองทุน 28,526 คน โดยในการบริหารนี้กองทุนจะจัดสรรเงินกองทุนให้แต่ละบริษัทจัดการรายละเท่าๆ กัน มีระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ 1 มกราคม 2545-31 ธันวาคม 2547
โดยในส่วนของผู้จัดการกองทุนนั้น นายชัชวาล พรรณลาภ รองผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ หนึ่งในผู้จัดการกองทุนดังกล่าวได้เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาธนาคารมีประสบการณ์ในการทำงานหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทุนโดยได้รับการยอมรับจากหน่วยงานทั้งจากภาครัฐและเอกชนชั้นนำของประเทศ และธนาคารสามารถดำเนินการบริหารกองทุนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ปัจจุบันธนาคารได้ให้บริการบริหารกองทุนจากองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงาน กฟผ.นั้น ธนาคารได้เตรียมความพร้อมทั้งระบบเทคโนโลยี การบริหารการดำเนินงาน และบุคลากรของธนาคาร ในการรองรับการประมวลผลเพื่อให้เกิดความถูกต้อง รวดเร็ว และสามารถตรวจสอบได้นั้น ธนาคารเชื่อมั่นจะสามารถบริหารเงินกองทุนของก.ฟ.ผ.เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และข้อจำกัดของการลงทุนได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของธนาคารไทยธนาคารนั้น นายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้กล่าวถึงการเป็นผู้จัดการกองทุนฯ ในครั้งนี้ว่า นับเป็นความสำเร็จของธนาครอีกก้าวหนึ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากคณะกรรมการและสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยให้มาร่วมในการบริหารกองทุน ซึ่งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2544 ที่ผ่านมา ธนาคารได้รับแต่งตั้งจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานโรงงานยาสูบ ให้บริการกองทุนให้เช่นเดียวกัน และด้วยความพร้อมของทีมบุคลากร ตลอดจนระบบงาน ธนาคารจึงมีความเชื่อมันว่าจะสามารถสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยต่อไป
การจัดการตั้งผู้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในครั้งนี้นั้น ภายใต้ความร่วมมือของสถาบันการเงินในการบริหารกองทุนเพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวและเป็นหลักประกันอันมั่งคงของสมาชิกตลอดจนผู้เกี่ยวข้องอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป--จบ--
-ตม-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ