กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--เอสเอ็มบีซี สิงคโปร์ โอเพ่น
ดาร์เรน คลาร์ก และ ยาง ยอง-อุน (วาย อี ยาง) สองแชมป์เมเจอร์ ยืนยันลงดวลสวิงศึก "เอสเอ็มบีซี สิงคโปร์ โอเพ่น" ปลายมกราคมหน้า โดยมีจอร์แดน สปีธ นักกอล์ฟมือหนึ่งของโลกนำทัพนักกอล์ฟลงชิงชัย ณ สนามเซนโตซ่า กอล์ฟ คลับ เซราปง คอร์ส ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 28 – 31 มกราคมนี้
ดาร์เรน คลาร์ก โปรจากไอร์แลนด์เหนือ เจ้าของแชมป์ดิ โอเพ่น ปี 2011 ผู้คร่ำหวอดในวงการมานาน กวาดชัยชนะมากถึง 22 ครั้งจากทั่วโลก พร้อมด้วย ยาง ยอง-อุน นักกอล์ฟเกาหลีใต้ แชมป์เมเจอร์ชาวเอเชียคนแรกจากรายการ ยูเอส พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ปี 2009 และ จอร์แดน สปีธ ที่เพิ่งคว้าแชมป์จากทั้งยูเอส มาสเตอร์ส และ ยูเอส โอเพ่น มาหมาดๆ ในปีนี้ เติมเต็มให้การแข่งขันรายการ เอสเอ็มบีซี สิงคโปร์ โอเพ่น คึกคักไปด้วยแชมป์เมเจอร์มากมาย
ทั้งนี้หลังจากว่างเว้นการจัดการแข่งขันไปถึง 3 ปี การแข่งขันกอล์ฟรายการ เอสเอ็มบีซี สิงคโปร์ โอเพ่น ได้กลับมาอีกครั้ง โดยเป็นรายการโคแซงค์ชั่นระหว่างเอเชียน ทัวร์ กับ เจแปน กอล์ฟ ทัวร์ (เจจีทีโอ) ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่ง ดาร์เรน คลาร์ก เผยถึงการลงแข่งขันรายการนี้ว่า "ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้กลับมาแข่งขันในรายการสิงคโปร์ โอเพ่น ที่มีความเป็นมาอันน่าประทับใจอีกครั้ง พร้อม ๆ กับแชมป์จากรายการใหญ่อีกหลายคน"
"ผมเคยมาแข่งรายการ สิงคโปร์ โอเพ่น นี้หลายครั้งแล้ว สนามเซราปง คอร์ส ก็ยอดเยี่ยมมาก เป็นสนามที่ต้องตั้งใจเล่นให้ดี ขณะที่ผู้เล่นอย่าง จอร์แดน สปีธ แสดงฝีมือได้อย่างยอดเยี่ยมในปีนี้ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากที่เขาได้มาร่วมลงแข่งที่ เอสเอ็มบีซี สิงคโปร์ โอเพ่น ครั้งนี้ด้วย" คลาร์ก กล่าว
ด้าน ยาง ยอง-อุน นักกอล์ฟเกาหลี วัย 43 ปี ที่เคยจบใน 10 อันดับแรกในรายการนี้ เมื่อปี 2012 ก็ได้แสดงความมั่นใจที่จะกลับมาแข่งขันพร้อมแสดงฝีมืออย่างเต็มที่เพื่อจบในอันดับดีที่สุดอีกครั้ง เจ้าตัวกล่าวว่า "สิงคโปร์ โอเพ่น เป็นรายการที่ยิ่งใหญ่ การที่รายการนี้ได้กลับมาสู่ตารางการแข่งขันอีกครั้งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี ผมจบที่อันดับ 10 ร่วมเมื่อปี 2012 และหวังว่าผมจะทำให้ดีกว่านี้ในการแข่งขันที่จะมาถึงในเดือนมกราคมนี้"
นอกจากนี้ ในปีหน้าจะเป็นอีกปีที่มีความพิเศษสำหรับ ดาร์เรน คลาร์ก ในฐานะกัปตันทีมไรเดอร์ คัพ ยุโรป ที่จะแข่งกับทีมจากสหรัฐฯ ณ สนามฮาเซลไทน์ เนชั่นแนล กอล์ฟ คลับ ซึ่งตัวเขาเองได้สร้างประวัติศาตร์ที่งดงามไว้กับการแข่งขันไรเดอร์ คัพ จากการเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่ชนะการแข่งขันถึง 4 ครั้ง จากการเข้าร่วมแข่งขัน 5 ครั้ง ในช่วงปี 1997 ถึงปี 2006 ทั้งนี้ ดาร์เรน คลาร์ก นับเป็นนักกอล์ฟระดับโลกอย่างแท้จริงจากการสร้างผลงานคว้าชัยชนะมากมาย ทั้งจาก พีจีเอ ทัวร์, ยูโรเปี้ยน ทัวร์, เอเชียน ทัวร์, เจแปน กอล์ฟ ทัวร์ และซันไชน์ ทัวร์
สำหรับชัยชนะครั้งสำคัญได้แก่การคว้าแชมป์ ดิ โอเพ่น ในปี 2011 ที่สนามรอยัลเซนต์ จอร์จ ในอังกฤษ โดยเอาชนะดัสติน จอห์นสัน และ ฟิล มิคเคลสัน จากสหรัฐฯ ถึง 3 สโตรค นอกจากนี้ เขายังคว้าชัยชนะรายการเวิร์ล กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ อีก 2 ครั้ง จากรายการดับเบิ้ลยูจีซี แอนเดอร์สัน คอนซัลติ้ง แมทช์ เพลย์ แชมเปี้ยนชิพ ในปี 2000 ซึ่งเป็นครั้งที่เขาเอาชนะไทเกอร์ วูดส์ ได้ในรอบสุดท้าย และรายการเอ็นอีซี อินวิเทชั่นแนล ในปี 2003
ส่วน ยาง ยอง-อุน สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟเอเชียคนแรกที่ชนะรายการเมเจอร์ ในรายการยูเอส พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ เมื่อปี 2009 ซึ่งชัยชนะครั้งนั้นเป็นที่น่าจดจำยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อ ยาง ยอง-อุน ต้องสู้กับ ไทเกอร์ วูดส์ ในช่วงโค้งสุดท้ายของการแข่งขัน และนับเป็นนักกอล์ฟคนเดียวในช่วงเวลานั้นที่จะป้องกันไม่ให้มือหนึ่งของโลกคว้าแชมป์ไปได้
โดยก่อนหน้านั้นในปีเดียวกัน ยาง คว้าแชมป์รายการฮอนด้า คลาสสิค เป็นสัญญาณแห่งชัยชนะที่จะตามมาอีกหลายครั้ง และชัยชนะครั้งที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งก่อนที่จะคว้าชัยจากยูเอส พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ คือชัยชนะจากรายการ เอชเอสบีซี แชมเปี้ยนส ในปี 2006 ซึ่งแช่งขันกับนักกอล์ฟยอดฝีมือคนอื่น ๆ รวมทั้ง ไทเกอร์ วูดส์ ในสนามนี้ รวมถึงชัยชนะรายการอื่นๆ ที่เขาเคยได้รับอีกหลายรายการ อาทิ วอลโว่ ไชน่า โอเพ่น และ โคเรีย โอเพ่น
สำหรับการแข่งขันรายการ เอสเอ็มบีซี สิงคโปร์ โอเพ่น ประกอบไปด้วยนักกอล์ฟ 60 อันดับแรกจากเอเชียน ทัวร์, 60 อันดับแรกจากเจแปน กอล์ฟ ทัวร์ (เจจีทีโอ), นักกอล์ฟทั้งระดับอาชีพและสมัครเล่นจากสิงคโปร์ และนักกอล์ฟรับเชิญ รวมทั้งนักกอล์ฟ 50 อันดับแรกของโลก ที่จะลงแข่งขันชิงชัยในรายการนี้