กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--มรภ.สงขลา
"นิภาวรรณ ทองจินดา" นักศึกษาครุศาสตร์ มรภ.สงขลา ยึดคำสอนที่ว่า ทำความดี มีจิตสาธารณะ คว้ารางวัลเยาวชนดีเด่นด้านคุณธรรม จริยธรรม จากสภาพัฒนาการเมือง สะท้อนบทบาทครูคือแบบอย่างที่ดีในทุกด้าน
พิธีมอบรางวัลเยาวชนดีเด่น ด้านคุณธรรม จริยธรรม ประจำปี 2558 จัดขึ้นโดย สภาพัฒนาการเมือง สถาบันพระปกเกล้า ณ โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการ และคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ กรุงเทพฯ โดยในปีนี้มีชื่อของ น.ส.นิภาวรรณ ทองจินดา หรือ "น้องมิว" นักศึกษาชั้นปีที่ 2 โปรแกรมวิชาภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) สามารถผ่านการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 12 เยาวชนดีเด่น จากการคัดสรรตัวแทนเยาวชนทั่วประเทศกว่าร้อยชีวิต
น.ส.นิภาวรรณ ทองจินดา กล่าวถึงที่มาในการส่งผลงานเพื่อเข้ารับการคัดเลือกรางวัลเยาวชนดีเด่นว่า มีแรงบันดาลใจจากคำสอนของพ่อแม่ที่เน้นย้ำให้กระทำความดี มีจิตสาธารณะ สอนเรื่องทักษะชีวิต และการอยู่ร่วมกันในสังคม โดยมีคติประจำบ้านว่า เมตตาน้อง เคารพพี่ เทิดทูนบุพการีตน ประกอบกับได้รับความรู้ความเข้าใจทางด้านวิชาการจากครูบาอาจารย์ ทำให้ตระหนักว่าชีวิตที่จะประสบความสำเร็จนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรู้เชิงวิชาการอย่างเดียว แต่จะต้องมีทักษะในการดำเนินชีวิต มีคุณธรรมจริยธรรมควบคู่กันไปด้วย ตนจึงได้รวบรวมเอกสาร หลักฐาน พร้อมแนวคิด แนวปฏิบัตินำเสนอผลงาน เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนผู้ที่เป็นกำลังของชาติในอนาคตข้างหน้า เมื่อได้รับรางวัลเยาวชนดีเด่น จึงเป็นกระจกสะท้อนว่าการมีคุณธรรม จริยธรรม ทำให้เรามีมุมมองในเชิงบวก และสามารถอยู่ได้ในสังคมอย่างมีความสุข
สำหรับแนวคิดในการพัฒนาการเมือง น้องมิว กล่าวว่า นอกจากตนจะเป็นประธานนักเรียน หัวหน้านักเรียน และหัวหน้าห้องแล้ว ยังได้ของบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ เพื่อพัฒนาสังคม เช่น โครงการครูเพื่อศิษย์ ซึ่งเป็นการพัฒนาพื้นที่ทุรกันดารและเป็นกระบอกเสียงให้กับชุมชน อีกทั้งยังได้ลงพื้นที่สอนหนังสือนักเรียนในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน และกลับมาถอดบทเรียนสรุปความรู้เพื่อปลูกฝังจิตวิญญาณของความเป็นครู นอกจากนั้น ยังได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ณ สถาบัน Phoenix Academy ประเทศออสเตรเลีย โดยได้นำวัฒนธรรมการไหว้และประเพณีสำคัญต่างๆ ของไทยไปเผยแพร่ให้กับชาวต่างชาติ รวมถึงรับหน้าที่สาธิตและสอนการไหว้ให้กับโฮสต์หรือครอบครัวอุปถัมภ์และคณาจารย์ เพื่อนๆ ชาวต่างชาติที่เรียนร่วมกัน
ที่ผ่านมาตนมีโอกาสเดินทางไปทัศนศึกษา ณ ประเทศสิงคโปร์ จึงได้แลกเปลี่ยนมุมมองด้านการศึกษา การเมือง และความเป็นอยู่ของผู้คน รวมทั้งเดินทางไปศึกษาดูงานด้านการศึกษาที่ประเทศมาเลเซีย และได้สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารและคณาจารย์เกี่ยวกับวิถีการจัดการศึกษาให้กับผู้เรียน โดยตนได้พูดถึงความก้าวหน้าและรูปแบบการจัดการศึกษาของไทย ทั้งความก้าวหน้าในการใช้ภาษาต่างชาติ และการเรียนรู้แบบบูรณาการ ซึ่งในฐานะที่เป็นนักศึกษาครุศาสตร์ ตนจึงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะประกอบอาชีพครู และจะเป็นครูที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียนในทุกๆ เรื่อง เพราะทุกอาชีพในโลกนี้ต้องมีครู ดังนั้น พึงระลึกเสมอว่าครูต้องเป็นแบบอย่าง ทั้งด้านคุณธรรม จริยธรรม และวิชาความรู้ และในการประเมินผู้เรียนนั้นควรประเมินให้ครบทุกด้าน ส่งผลให้ครูสามารถพัฒนานักเรียนได้อย่างมีคุณภาพ สามารถพัฒนาและแก้ปัญหาตนเองได้ อันจะทำให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีความพร้อมที่จะพัฒนาประเทศชาติต่อไป
"หลักคิดที่ว่าทำดีได้ดี มีในสังคมไทยมานาน แม้จะได้รับการปลูกฝั่งตั้งแต่เด็ก แต่ปัจจุบันถ้าได้ดูจากข่าวสารจะเห็นได้ว่าปัญหาบ้านเมือง การทุจริตคอร์รัปชั่นยังคงมีอยู่ และยิ่งวิวัฒนาการมากขึ้น มีการหาช่องโหว่ของกฎหมายเพื่อแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ ดังนั้น ดิฉันยังคงเชื่อมั่นและยืนยันว่าคุณธรรม จริยธรรมมีส่วนพัฒนาสังคมไทยอย่างยังยืน เพราะถ้าทุกคนเคารพกฎหมาย หน้าที่ของตัวเอง สังคมของเราก็จะอยู่ได้ และเดินต่อไปด้วยความมั่นคง อยากเห็นคนไทยทุกคนช่วยกันปลูกฝังเรื่องคุณธรรมจริยธรรม ละอายชั่วกลัวบาป" น.ส.นิภาวรรณ กล่าว