สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 21 ธันวาคม 2558 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 21, 2015 17:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ธ.ค.--พีอาร์ดีดี สภาวะตลาดวันที่ 21 ธันวาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,064.30-1,073.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,350 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 200 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,150 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ15 อยู่ที่ 18,430 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 280 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,150 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.02 น.ของวันที่ 21/12/15) แนวโน้มวันที่ 22 ธันวาคม 2558 บาร์เคลย์ส คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 0.75% ในปี 2559 ถึงแม้คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) คาดว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในปี 2559 ขณะที่โพลล์รอยเตอร์ที่ออกมาคาดว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2559 เพราะนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดมีกำหนดจะจัดการแถลงข่าวครั้งถัดไปในการประชุมเดือนนั้น โดยโพลล์รอยเตอร์คาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในจังหวะเวลาที่ช้ากว่าที่ผู้กำหนดนโยบายของเฟดคาดการณ์ไว้ ประเด็นดังกล่าว ทำให้เกิดแรงซื้อกลับเข้ามายังตลาดทองคำ เห็นได้จากกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเพิ่มการถือครองทองคำเพิ่ม 2.98% หรือ 18.749 ตัน สู่ระดับ 648.915 ตันเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนคลายความวิตกกังวลในกรณีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ทั้งนี้ นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเชื่องช้าแต่จะไม่มีการกำหนดแบบแผนล่วงหน้า การออกมาย้ำและสร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2015 ในวันอังคารนี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า จีดีพีสหรัฐอาจขยายตัวเพียง 1.9% ในไตรมาส 3/2015 ลดลงจากการขยายตัว 2.1% ในการประมาณการครั้งก่อน ซึ่งหากเป็นไปตามรายงานดังกล่าว อาจแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ย่ำแย่กว่าเฟดคาดการณ์ ซึ่งจะทำให้เกิดแรงซื้อทองคำเพิ่มขึ้นเพราะเฟดจะเพิ่มความระมัดระวังในการปรับขึ้นในครั้งถัดไป ซึ่งวายแอลจียังคงเน้นการลงทุนระยะสั้น โดยแนะนำให้รอจังหวะการย่อตัวของราคาเพื่อเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตเพราะราคายังคงเคลื่อนไหวตามกระแสการคาดการณ์ต่างๆ กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีแนะนำให้นักลงทุนจับตาบริเวณ 1,079 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาสามารถยืนได้จะเกิดแรงซื้อที่ดันราคาให้ดีดตัวขึ้นไป อย่างไรก็ตาม หากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ชัดเจนเมื่อ ราคามีการปรับขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมาเช่นกัน ทั้งนี้ ระยะสั้นหากราคายืนได้ ราคาทองคำยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นและยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,088 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,096 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่ง ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,057 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,057 (18,040บาท) 1,046 (17,850บาท) 1,040 (17,750บาท) แนวต้าน 1,079 (18,430บาท) 1,088 (18,580บาท) 1,096 (18,710บาท) GOLD FUTURES (GFZ15) แนวรับ 1,057 (18,180บาท) 1,046 (17,990บาท) 1,040 (17,890บาท) แนวต้าน 1,079 (18,560บาท) 1,088 (18,710บาท) 1,096 (18,850บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ