กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 22 ธันวาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,076.20-1,080.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,450 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,350 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ15 อยู่ที่ 18,520 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 90 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,430 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.03 น.ของวันที่ 22/12/15)
แนวโน้มวันที่ 23 ธันวาคม 2558
ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ทั่วโลกเริ่มมีสถานะเป็นผู้ซื้อทองคำสุทธิในปี 2010 เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกในปี 2008 กระตุ้นให้ธนาคารกลางเริ่มต้นกักตุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพื่อป้องกันความผันผวนของค่าเงินและเศรษฐกิจแม้ว่าราคาทองคำเคลื่อนตัวอยู่ใกล้จุดต่ำสุดรอบ 6 ปีในช่วงนี้ แต่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยว่าว่า รัสเซียและคาซัคสถานปรับเพิ่มปริมาณทองคำสำรองของตนเองให้สูงขึ้น โดยรัสเซียปรับเพิ่มปริมาณทองสำรองขึ้น 22 ตัน สู่ 1,392.813 ตัน หรือ 44.78 ล้านออนซ์ ซึ่งถือว่าสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มปริมาณทองคำสำรองขึ้นเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกันในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่คาซัคสถานปรับเพิ่มปริมาณทองสำรองของตนเองปรับขึ้นราว 2 ตัน และถือเป็นการปรับขึ้นเป็นเดือนที่ 38 ติดต่อกัน สู่ระดับ 7.03 ล้านออนซ์ หรือ 218.657 ตัน การซื้อทองคำโดยธนาคารกลางของประเทศต่างอย่างต่อเนื่องได้เพิ่มมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางราคาทองคำเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่มจากธนาคารกลางจีนประกาศว่าจะดำเนินนโยบายและการปฏิรูปมากขึ้นในปี 2559 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยสื่อของทางการจีนรายงานว่า จีนจะทำให้นโยบายทางการเงินมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และจะเพิ่มยอดขาดดุลงบประมาณในปีหน้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งหากเศรษฐกิจจีนเติบโตมากขึ้น แรงซื้อทองคำจากจีนอาจขยายตัวตามทิศทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม แรงซื้อดันราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นไปต่อยังมีไม่มากนัก ส่วนหนึ่งอาจมาจากภาวะซื้อขายซบเซาเนื่องจากใกล้วันหยุดเทศกาลคริสต์มาส เทรดเดอร์และนักลงทุนมักชะลอการลงทุนในช่วงวันหยุดยาวจึงส่งผลให้ บรรยากาศซื้อเบาบางและคำสั่งซื้อมีปริมาณไม่มาก โดยวายแอลจี ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,085 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ อาจเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคา ซึ่งการอ่อนตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าซื้อเก็งกำไรเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,085 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,096 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,063-1,057 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสค่อยๆ ขยับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป แต่หากราคาหลุดโซนดังกล่าวจะปรับตัวลงไปต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,046 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,063 (18,120บาท) 1,057 (18,020บาท) 1,046 (17,830บาท)
แนวต้าน 1,085 (18,500บาท) 1,096 (18,690บาท) 1,110 (18,930บาท)
GOLD FUTURES (GFZ15)
แนวรับ 1,063 (18,260บาท) 1,057 (18,150บาท) 1,046 (17,970บาท)
แนวต้าน 1,085 (18,630บาท) 1,096 (18,820บาท) 1,110 (19,060บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148