กรุงเทพฯ--23 ธ.ค.--ได-อิจิ คิคากุ
ทีมเยาวชนไทยฟิตแข้งเตรียมลุยศึกลูกหนัง "U-14 ASEAN Dream Football Tournament 2015" ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ระหว่างวันที่ 20-25 ธันวาคม ศกนี้ การดวลแข้งระหว่างนักเตะเยาวชนอายุไม่เกิน 14 ปี จากไทย ญี่ปุ่น มาเลเซีย และเวียดนาม รวม 20 ทีม เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์ และร่วมเปิดประสบการณ์ฝึกซ้อมร่วมกับทีมสโมสรชั้นนำของ J-League ณ ประเทศญี่ปุ่น
เยือนทีมเจ้าบ้าน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของโค้ช "พี - ชัยกร ชมชื่น" หัวหน้าโค้ช ที่เก็บตัวฝึกซ้อมและรู้จักมักคุ้นลูกทีมวัยกระเตาะชุดนี้เป็นอย่างดี "น้องๆ พร้อมมากสำหรับรายการนี้ครับ ฟิตทั้งด้านกำลังและเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ถือเป็นการพัฒนาสู่ความสำเร็จ สำหรับในมุมมองของเราต่อทีมต่างชาติ อย่างญี่ปุ่นเองก็ดี มาเลเซีย หรือเวียดนาม ทางทีมเราไม่มีสิ่งใดต้องกังวล ส่วนทีมไทยเหมือนทีมพี่ทีมน้องครับ รู้ทางกันอยู่แล้ว" ในด้านลูกทีมอย่างน้อง"ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว" ผู้เล่นปีกซ้าย บอกว่า "ผมก็ค่อนข้างหวังไว้สูงครับ เพราะเราทั้งทีมซ้อมกันหนักและมีการศึกษาคู่ต่อสู้ เราจะเอาแชมป์มาฝากแฟนบอลของเราให้ได้ครับ"
ด้านทีมแชมป์เก่าปี 2014 อย่าง บีอีซี เทโรศาสน เก็บตัวฝึกซ้อมกันที่สนามกรุงเทพคริสเตียน ซึ่งโค้ช "บุญเลิศ เกียรติเอี่ยม" หัวหน้าโค้ชผู้ฝีกสอนเยาวชน U14 บอกอย่างหนักแน่นว่า "ตอนนี้ความพร้อมของทีม 100 เปอร์เซนต์ การได้แชมป์ว่ายากแล้ว การรักษาแชมป์ท้าทายขึ้นไปอีก สำหรับทีมไทยที่ต้องเจอกันไม่น่ากังวลเท่าไร แต่ทีมต่างชาติอย่างญี่ปุ่นซึ่งเป็นทีมคุณภาพ เราคงต้องใช้เทคนิกการโต้กลับที่ดีและรวดเร็ว ปีนี้เรามีนักเตะดาวเด่นถึง 2 คนที่ติดทีมชาติ ได้แก่ "นิวัฒน์ ศรีชมพู" และ"กัณตภณ คีรีแลง" ผู้เล่นกองหน้าทั้งคู่ กำลังใจเรียกว่าเกินร้อยเลยครับ! คงต้องขอบคุณผู้ใหญ่ในวงการฟุตบอลไทย และผู้จัดที่ได้จัดกิจกรรมดีๆ อย่างต่อเนื่องให้ทีมเยาวชน U14 ได้มีโอกาสเข้าร่วมทัวร์นาเม้นต์ดีๆ แบบนี้ ทำให้น้องได้มีประสบการณ์และทัศนคติสำหรับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพครับ"
ส่วนทางด้านทีม "สโมสรการท่าเรือ" ที่เข้าร่วมแข่งขัน U-14 ASEAN Dream Football Tournament เป็นปีแรก ก็ฟิตแข้งไม่น้อยหน้าทีมอื่น "ณรงค์ ทั่งเรือง" หัวหน้าโค้ชผู้ฝีกสอนเผยว่า "รู้สึกดีใจครับที่น้องๆ ทีมการท่าเรือได้มีโอกาสร่วมลงแข่งในรายการนี้ ในแง่ของเทคนิคการเล่นผมมองว่าเยาวชนไทยได้เปรียบในแง่ความสามารถเฉพาะตัว เมื่อเทียบกับทีมอาเซียนอย่างมาเลเซียก็จะไม่แตกต่างกันมาก แต่สิ่งที่ทีมเยาวชนไทยต้องพัฒนาคือการเคลื่อนที่ ความว่องไว ซึ่งทีมญี่ปุ่นจะได้เปรียบเราในแง่ของความคล่องตัวครับ" ในขณะที่ตัวเต็งลูกครึ่ง ไทย –ไลบีเลีย "โอลัคซอน เอ แทมบา" บอกว่า "รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมสโมสรการท่าเรือ พวกเราจะสู้ให้เต็มที่และเอาชัยชนะมาฝากโค้ช และแน่นอนครับ...ผมต้องได้ไปญี่ปุ่น!"
ติดตามชมและเชียร์การดวลแข้งของน้องๆ เยาวชนไทย ประชันทีมญี่ปุ่น มาเลเซีย และกัมพูชา ทั้ง 20 ทีม ในการแข่งขัน U-14 ASEAN Dream Football Tournament 2015 ในระหว่างวันที่ 20 ถึง 24 ธันวาคม ศกนี้ ณ สนามซ้อมเอสซีจี เมืองทอง และการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 25 ธันวาคม ณ สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เมืองทอง เวลา. 15.00 - 16.20.น. และรับชมการถ่ายทอดทาง True Vision ช่อง 682 หรือติดตามทาง Facebook Fanpage: www.facebook.com/U14ADFT/