กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--อีไกด์ไทยแลนด์ ดอทคอม
อีไกด์ไทยแลนด์ ดอทคอม (www.eGuideThailand.com) อัจฉริยะเสิร์ชไดเรคทอรี่ของเมืองไทย ประกาศ ลุยประกาศเปิดตัวซีรี่ส์งานสัมนาและฝึกปฏิบัติการด้านอีบิสซิเนสประจำปี 2544 ซึ่งจะจัดขึ้นสำหรับเจ้าของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก และนักธุรกิจทั่วไปที่สนใจจะเริ่มทำธุรกิจออนไลน์ โดยงานสัมนาและเวิร์คชอปนี้จัดขึ้นโดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อสนับสนุน SME ของไทยได้เริ่มทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก และฟิ้นฟูเศรษฐกิจของชาติในที่สุด
อีไกด์ไทยแลนด์ประกาศนโยบายหลักปี 2544 ยันหนุนกลุ่ม SME ให้เริ่มทำธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเพื่อสร้างตัวตนในตลาดโลก กลยุทธ์อันแรกคือการให้การศึกษาแก่ SME และนักธุรกิจทั่วไป โดยเริ่มจากการจัดสัมนาและเวิร์คชอปอี-บิซซิเนสตลอดปี 2544 ซึ่งจะบรรยายโดยผู้บรรยายรับเชิญซึ่งเป็นผู้เชี่ยวช่าญในสายงานอี-บิซซิเนส งานสัมนาอี-บิสซิเนสครั้งแรกนี้จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ภายใต้หัวข้อ "คุณสามารถทำธุรกิจบนอินเตอร์นํตได้ย่างไร" ผู้บรรยายรับเชิญคือ ดร. ชนม์ชนก วีรวรรณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ งาน e-Partnership Management สายงาน e-Commerce และ e-Banking ธนาคารเอเชีย
มร. โจเซฟ ลิม กรรมการผู้จัดการอีไกด์ไทยแลนด์ กล่าวว่า "เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆในภูมิภาคเดียวกันแล้ว ประเทศไทยยังมีข้อได้เปรียบอยู่มากมาย เพราะฉนั้น SME ของไทยจะต้องรีบสร้างตัวตนบนอินเตอร์เน็ตให้ได้เร็วที่สุด ยิ่งผู้ซื้อหาเราเจอได้ง่ายขึ้นเท่าไหร่ หรือ ยิ่งเราโปรโมทตัวตนของเราสู่กลุ่มเป้าหมายบนอินเตอร์เน็ตได้ดีเท่าไหร่ โอกาสทางธุรกิจของเราก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น"
"งานสัมนาอี-บิสซิเนสเป็นโครงการหนึ่งในกลยุทย์การให้การศึกษาเรื่องอี-บิสซิเนสแก่กลุ่ม SME อีไกด์กลังวางแผนโครงการให้การศึกษาอื่นๆอีกเพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องในกลุ่ม SME ในประเทศไทย" มร.ลิมกล่าวเสริม
ข้อมูลของกองบรรณาธิการ
eGuideThailand
eGuideThailand เป็นบริษัทที่ให้บริการออนไลน์ไดเรคทอรี่ หรือสารบัญธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต โดยมีฐานข้อมูลครอบคลุมธุรกิจทั่วประเทศไทย eGuideThailand เป็นหนึ่งในเครือ eGuide Group มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ eGuideThailand ได้เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในเดือนมิถุนายน 2543 ภายใต้การนำของ CEO Mr. Joseph Lim
eGuide ทำหน้าที่คล้ายกับสมุดหน้าเหลืองผ่านอินเตอร์เน็ต ที่ต้องเสียเวลานั่งหาข้อมูลที่ต้องการทีละหน้า การค้นหาใน eGuide ทำได้ 4 วิธี คือ ค้นหาโดยใช้ชื่อบริษัท ชื่อยี่ห้อ ประเภทสินค้าและบริการ หรือ สถานที่ในแผนที่ ผู้ใช้จะได้รับข้อมูลที่เจาะลึก แม่นยำและ รวดเร็ว ที่สมุดหน้าเหลืองไม่สามารถทำได้
อีไกด์มีฐานข้อมูลที่ละเอียด แม่นยำและครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเก็บข้อมูลกว่า 150,000 บริษัทในประเทศไทย โดยจัดหมวดหมู่ของสินค้าออกเป็นหมวด ๆ มากกว่า 12,000 หมวดสินค้าและบริการ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถหาสินค้าและบริการได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และรวดเร็ว และมีวิธีการค้นหาที่ง่ายและสะดวกกับการใช้งาน ซึ่งผู้ใช้สามารถหาสินค้าและบริการได้ 3 ทาง คือ ประเภทสินค้าและบริการ ตราสินค้า หรือชื่อบริษัทห้างร้าน และยังสามารถหาได้จากแผนที่อีกด้วย
eGuide Group
eGuide Group มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ eGuide ได้ถือกำเนิดโดยกลุ่มนักลงทุนรวมถึงบริษัทเวนเจอร์แคปิตอลอย่าง OCBC Wearnes & Walden (OWW) and Walden International Investment Group
eGuide ให้บริการออนไลน์ไดเรคทอรี่ หรือสารบัญธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต ขณะนี้มีสำนักงานอยู่ใน 4 ประเทศ คือ สิงค์โปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย และ ไทย ได้เริ่มดำเนินการ eGuideSingapore ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2541 eGuideMalaysia ในเดือนมกราคม 2543 eGuideThailand ในเดือนมืถุนายน 2543 และ eGuideAustralia ในเดีอนพฤศจิกายน 2543 โดยมีพนักงานรวมกว่า 400 คน
อีไกด์มีฐานข้อมูลที่ละเอียด แม่นยำและครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเก็บข้อมูลกว่า 80,000 บริษัทในสิงค์โปร์ 180,000 บริษัท ในมาเลเซีย 150,000 บริษัทในประเทศไทย และกว่า 500,000 บรืษัทในออสเครเลีย โดยจัดหมวดหมู่ของสินค้าออกเป็นหมวด ๆ มากกว่า 12,000 หมวดหมู่เพื่อให้ผู้ใช้สามารถหาสินค้าและบริการได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และรวดเร็ว และมีวิธีการค้นหาที่ง่ายและสะดวกกับการใช้งาน ซึ่งผู้ใช้สามารถหาสินค้าและบริการได้ 3 ทาง คือ ประเภทสินค้าและบริการ ตราสินค้า หรือชื่อบริษัทห้างร้าน และยังสามารถหาได้จากแผนที่อีกด้วย
ภายใน 6 ถึง 12 เดือนข้างหน้า กลุ่มบริษัท eGuide มีจุดประสงค์ในการขยายกิจการไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก เช่น ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ฐานข้อมูลของประเทศต่าง ๆ เหล่านี้กำลังถูกบริหารและจัดเก็บอย่างเป็นระบบ เพื่อส่งเสริมภาคธุรกิจในระดับประเทศและภูมิภาค อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
หากมีข้อสงสัยประการใด กรุณาติดต่อ คุณภัทธิรา โทร.670-0888 ต่อ 222--จบ--
-อน-