กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--การประปาส่วนภูมิภาค
กปภ. ตอกย้ำเพิ่มความมั่นใจสู้ภัยแล้งให้กับประชาชน เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายป้องกัน ภัยแล้งครอบคลุมทุกมิติ พร้อมบูรณาการร่วมกับกรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น รับมือภัยแล้งอย่างยั่งยืน
นายจิรชัย มูลทองโร่ย ประธานกรรมการ กปภ. เปิดเผยว่า จากการประเมินสถานการณ์ภัยแล้งร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบในทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการติดตามปริมาณฝนและน้ำท่าร่วมกับกรมชลประทาน ทำให้คาดการณ์ได้ว่าในปี 2559 ประเทศไทยจะประสบกับปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงและยาวนานกว่าทุกปี กปภ. จึงได้จัดประชุมประเมินปัญหาภัยแล้งในปี 2559 ร่วมกับกรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อบูรณาการความร่วมมือกันแก้ปัญหาภัยแล้งให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี โดยกรมชลประทาน ได้นำข้อมูลของ กปภ.สาขา ที่ประสบปัญหาภัยแล้งในปี 2558 เข้ามาอยู่ในแผนงานของกรมชลประทานที่จะจัดสรรน้ำ ในปี 2559 ยืนยันจะกักเก็บน้ำไว้สำหรับการอุปโภคบริโภคเป็นอันดับแรก ในกรณีพื้นที่ใดมีน้ำดิบไม่เพียงพอสำหรับผลิตน้ำประปา กรมชลประทานพร้อมจะสูบหรือผันน้ำจากแหล่งน้ำใกล้เคียงเข้ามาช่วยเหลือ ส่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น จะให้ความร่วมมือกับ กปภ. ในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำดิบ ตลอดจนเตรียมความพร้อมเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในแต่ละพื้นที่หากประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรง นอกจากนี้ ในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน กปภ. ได้กำหนดยุทธศาสตร์ปี 2560 - 2561 เดินหน้าแผนงานเจาะบ่อบาดาล วางท่อน้ำดิบ ก่อสร้างระบบผลิตและวางท่อ ปรับปรุงแหล่งน้ำและขุดสระเก็บน้ำ วงเงินรวมประมาณ 4,000 ล้านบาท เสริมสร้างศักยภาพการกักเก็บน้ำและสูบจ่ายน้ำประปาให้กับประชาชนได้มีน้ำประปาใช้สำหรับอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่องตลอดปี
ประธานกรรมการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าภัยแล้งจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปกติทุกปี และ กปภ. มีการลงทุนแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำดิบมาอย่างต่อเนื่องแล้วก็ตาม แต่คงยังต้องขอความร่วมมือลูกค้าให้ใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งตรวจสอบระบบท่อประปาภายในบ้านมิให้มีการรั่วไหลด้วย อย่างไรก็ตาม หากประชาชนขาดแคลนน้ำประปาเพื่อใช้ในการอุปโภคและบริโภค สามารถแจ้งได้ที่ กปภ. ทั้ง 234 สาขาในแต่ละพื้นที่ หรือ PWA Call Center 1662