กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า วธ. ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลจัดกิจกรรมการแสดงโขนกลางแปลงพระราชทานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 ในกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ "Bike For Dad" เมื่อวันที่ 11-13 ธันวาคม ที่ผ่านมา ณ ลานพระราชวังดุสิต โดยกรมศิลปากร จัดแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุดพระกฤดารามาวตาร จำนวน 5 องก์ องก์ที่ 1 นารายณ์ปราบนนทุก องก์ที่ 2 ทศกัณฐ์ลักนางสีดา–หนุมานถวายพล องก์ที่ 3 จองถนน–พระรามข้ามสมุทร องก์ที่ 4 ยกรบ และองก์ที่ 5 พระรามคืนนคร ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่า วธ. ได้สรุปผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่เข้าร่วมงานแสดงโขนกลางแปลงพระราชทาน จากการสอบถามว่าประชาชนรับทราบข่าวการจัดงานจากสื่อใด พบว่าจากโทรทัศน์มากสุด ร้อยละ 35.55 รองลงมาร้อยละ 14.05 จากเพื่อน ญาติ คนรู้จัก ร้อยละ 13.06 จากโซเชียลมีเดีย และจากการแถลงข่าว รวมถึงจากสื่อสิ่งพิมพ์ตามลำดับ
นายวีระ กล่าวต่อว่า เมื่อถามถึงความพึงพอใจเกี่ยวกับการจัดแสดงโขนกลางแปลงพระราชทาน พบว่า ร้อยละ 95.61 ประชาชนพึงพอใจและชอบการแสดง องก์ที่ 4 ยกรบ มากที่สุด รองลงมา ร้อยละ 95.25 องก์ที่ 5 พระรามคืนนคร และร้อยละ 94.85 องก์ที่ 1 นารายณ์ปราบนนทุก และองก์ที่ 2 ทศกัณฐ์ลักนางสีดา–หนุมานถวายพล องก์ที่ 3 จองถนน–พระรามข้ามสมุทรตามลำดับ นอกจากนี้ ร้อยละ 97.85 มองว่าโขนกลางแปลงพระราชทานครั้งนี้เป็นการส่งเสริม การอนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรมไทย แสดงถึงอารยธรรมของประเทศที่มีมายาวนานได้อย่างดี และร้อยละ 97.61 บอกว่าเกิดความภาคภูมิใจในความเป็นไทย และที่น่ายินดีผู้เข้าชมงานระบุว่าการจัดแสดงครั้งนี้เนื้อหาสาระดีทำให้ได้ความรู้และเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และได้รับแนวคิดในการใช้ชีวิต ที่สำคัญส่วนใหญ่ระบุเป็นการแสดงที่ฉาก เวที อลังการสวยงาม รวมถึงชุดการแต่งกายที่สวยงามน่าประทับใจ
"อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจความคิดเห็นประชาชน ยังบอกอีกว่าเป็นการแสดงที่หาชมได้ยากมาก ไม่เคยชมที่ไหนมาก่อน การได้มาชมครั้งนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 65.82 ระบุว่า ต้องการให้ วธ. จัดโขนพระราชทานในงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปีต่อๆ ไปอีก ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม จะนำข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นจากประชาชนเป็นแนวทางในการทำงานของกระทรวง และการจัดงานเฉลิมพระเกียรติในโอกาสต่อๆ ไป