กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--ไอบีเอ็ม ประเทศไทย
IBM มุ่งพัฒนาระบบเปิดโดยบริจาคซอฟต์แวร์ มูลค่า 40 ล้านดอลล่าร์สหรัฐให้แก่ชุมชนเปิดเพื่อเปิดเผยซอร์สโค้ดให้กับอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เพื่อการพัฒนาแอพพลิเคชั่นและเว็บเซอร์วิส เพื่อพัฒนาระบบเปิดที่แท้จริง โดยได้รับความร่วมมือของผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ชั้นแนวหน้ากว่า 150 ราย
บริษัท ไอบีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประกาศ ได้บริจาคซอฟต์แวร์มูลค่า 40 ล้านดอลล่าร์สหรัฐแก่ชุมชนเปิดอิสระแห่งใหม่ ซอฟต์แวร์เปิดที่สร้างจากภาษาจาวานี้มีชื่อรหัสว่า Eclipse จะช่วยให้ผู้พัฒนาใช้ซอฟต์แวร์ทูลจากผู้ผลิตซอฟต์แวร์หลายๆ รายร่วมกันได้ ทำให้ผู้พัฒนาสามารถเชื่อมกระบวนการต่างๆ ทางธุรกิจที่ใช้ในการสร้างแอพพลิเคชั่นอี-บิสิเนส อาทิเช่น เว็บเซอร์วิส
ชุมชนเปิดแห่งใหม่นี้มีผู้ผลิตซอฟแวร์ทูลชั้นนำกว่า 150 รายเข้าร่วม เพื่อช่วยกันพัฒนาซอฟต์แวร์ Eclipse แล้ว ซึ่งจะแจกฟรีให้แก่ผู้พัฒนา ผู้พัฒนาอิสระกว่า 1,200 รายจาก 63 ประเทศได้เข้ามามีส่วนร่วมในชุมชนเปิด Eclipse นี้
ชุมชนนี้จะได้รับการควบคุมและจัดการโดยองค์กรใหญ่หลายองค์กร รวมถึงการได้รับความร่วมมือจากผู้นำในอุตสาหกรรมนี้ อาทิเช่น IBM, Merant, QSSL, Rational, Red Hat, TogetherSoft และอื่นๆ และในปลายเดือนนี้ ชุมชนเปิดจะประกาศถึงรายละเอียดเกี่ยวกับองค์กรรวมถึงคณะกรรมการที่มาจากหลายๆ องค์กรด้วยช่น
ปัจจุบัน ผู้พัฒนามักจะใช้ทูลและมิดเดิ้ลแวร์จากบริษัทต่างๆ ที่ไม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกัน จึงเป็นเรื่องยุ่งยากและเสียเวลามากในการเชื่อมทูลหรือระบบเพื่อใช้งานร่วมกัน แต่ด้วยการใช้ซอฟต์แวร์ทูลที่สามารถ “ปลั๊กอิน” ในนาม Eclipse ได้อย่างง่ายดาย ผู้พัฒนาสามารถสร้างแอพพลิเคชั่นคุณภาพสูงยิ่งขึ้นได้ในเวลาที่น้อยลงและสานต่อเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัทอื่นๆ ได้ด้วย
Eclipse จะเป็นรูปแบบใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับกระบวนการพัฒนา การเชื่อมระบบ ทดสอบประสิทธิภาพ และการแก้ไขข้อบกพร่องเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักพัฒนา นอกจากนี้ Eclipse ยังสามารถเชื่อมทูลจากหลากหลายคู่ค้า (Vendors ) เข้ากับซอฟต์แวร์โครงสร้างอี-บิสิเนสได้อย่างง่ายดาย อาทิเช่น WebSphere* ของ IBM ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถให้แก่ผู้พัฒนาเป็นอย่างมาก
"นี่เป็นการเดินเกมเพื่อพัฒนาระบบเปิดที่กล้าได้กล้าเสียมากที่สุดเท่าที่ IBM เคยทำมา” เจมส์ กอฟเวอร์เนอร์ นักวิเคราะห์ของ Illuminata, Inc. บริษัทที่ปรึกษาด้าน IT กล่าว “ทางบริษัทผลักดันการพัฒนาแพลตฟอร์มเปิดที่ให้บริการหลายๆ อย่างที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ต้องการ นำเอาการผสมผสานกันได้เพื่อสร้างทูลที่มีประสิทธิภาพ ที่ไม่ใช่แค่โครงงานหรือชุด API เท่านั้น มันเป็นรหัสจริงๆ ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานจริง”
สตีฟ มิลส์ รองประธานอาวุโสและผู้บริหารกลุ่มของ IBM Software Group กล่าวว่านัก "ด้วยการเปิดเผยซอร์สโค้ดของ Eclipse สิ่งที่ IBM ทำให้กับซอฟต์แวร์ทูลจึงเทียบได้กับสิ่งที่ Apache ทำให้กับ เว็บ เซิร์ฟเวอร์ แอพพลิเคชั่น และสิ่งที่ Linux ทำให้กับระบบปฏิบัติการ การเชื่อมทูลและมิดเดิลแวร์ได้อย่างกว้างขวางนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นยุคใหม่ของความก้าวหน้าในการสร้างสรรค์อันแสนท้าทาย และในขณะที่ IBM ร่วมมือในการสร้างมาตรฐานนี้ เราก็ยังคงการแข่งขันในตลาดไว้ด้วย และเราได้นำเสนอซอฟต์แวร์ทูลตัวแรกที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีเปิด Eclipse ซึ่งเป็นการสนับสนุนอันสมบูรณ์แบบต่ออุตสาหกรรมในด้าน เว็บเซอร์วิส, XML และ J2EE ”
นี่เป็นความก้าวหน้าในกลยุทธ์ของ IBM ที่จะช่วยธุรกิจในการสร้าง ใช้งาน และจัดการระบบอี-บิสิเนสที่เชื่อมโยงกันมากขึ้นและเป็นอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น การนำเอาเทคโนโลยเปิดจากชุมชนเปิดมาใช้ในการพัฒนาแอพพลิเคชั่น ทำให้บริษัทต่างๆ สามารถปรับตัวได้รวดเร็วยิ่งขึ้นต่อเทคโนโลยีเว็บและความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเว็บเซอร์วิสด้วย Eclipse ยังเปลี่ยนทิศทางและเป็นฟันเฟืองใหม่ของการพัฒนาแอพพลิเคชั่น เนื่องจากการเชื่อมต่อแบบปลั๊กอินนั้นสนับสนุนการพัฒนาแบบเป็นทีมและรองรับผู้พัฒนาที่ทำงานในบทบาทต่างๆ อาทิ อินเทอร์เน็ต, อินทราเน็ต, แอพพลิเคชั่นเสริมความสัมพันธ์ลูกค้าหรือ CRM, เว็บท่า, อุปกรณ์มือถือ, พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และการจัดการกระบวนการทางธุรกิจ
การเปิดตัวนี้ยังถือเป็นขั้นต่อไปในกลยุทธ์ Linux ของทาง IBM อีกด้วย เครื่องมือที่สร้างจาก Eclipse ซึ่งปฏิบัติงานได้ทั้งบน Linux และ Windows ช่วยให้ผู้พัฒนาจึงไม่จำเป็นต้องสร้างแอพพลิเคชั่นอี-บิสิเนสบน Windows แล้วถ่ายโอนไปเป็น Linux อีกต่อไป เนื่องจากการสร้างแอพพลิเคฃั่นเหล่านี้สามารถทำงานได้โดยตรงบน Linux ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของผู้พัฒนา Linux ได้เป็นอย่างมาก และเพิ่มความสามารถของพวกเขาในการสร้างแอพพลิเคชั่นที่พร้อมใช้งานในทันทีได้มากยิ่งขึ้น ทั้งยังจะช่วยให้ซอฟต์แวร์ทูลสำหรับ Windows จำนวนมากมายสามารถสนับสนุนการใช้งานบน Linux ได้ง่ายดายกว่าเดิม เร่งสร้างการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบน Linux ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยและเนื่องจาก Eclipse เป็นชุมชนเปิด ผู้พัฒนา Linux จึงสามารถมีส่วนร่วมในชุมชนพัฒนาซอฟต์แวร์ได้ ดังเช่นที่เคยมีใน Linux นั่นเอง
เว็บเซอร์วิสทูลใหม่จาก IBM ใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ Eclipse
IBM ยังประกาศถึงเครื่องมือพัฒนาแอพพลิเคชั่น WebSphere ตระกูลใหม่วย ที่มีความสามารถในการเว็บเซอร์วิส สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows และ Linux ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ออกจำหน่ายตัวแรกสุดของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ที่สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีเปิดของ Eclipse เครื่องมือใหม่ในตระกูล WebSphere Studio นี้จะสามารถเชื่อมโยงกับทูลต่างๆ จากบริษัทชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรมนับสิบๆ แห่งที่สร้างด้วยทูลเทคโนโลยี Eclipse
WebSphere Studio Family ใหม่นี้มีทูลในการเชื่อมระบบ สนับสนุนการทำงานร่วมกันที่กว้างขวางที่สุดในอุตสาหกรรมนี้โดยซัพพอร์ทมาตรฐาน J2EE, เว็บเซอร์วิส, XML, HTML, rich media, การออกแบบเว็บไซต์, เสียง, และ อุปกรณ์ไร้สาย ประกอบไปด้วย:
- WebSphere Studio Site Developer (สำหรับผู้พัฒนาเว็บ; มีโปรแกรมทดลองใช้ให้ฟรีในเดือนนี้ที่ www.ibm.com/software/ad/adstudio)
- WebSphere Studio Application Developer (สำหรับผู้พัฒนาจาวา; เวอร์ชั่นฉบับสมบูรณ์จะมีจำหน่ายภายในเดือนนี้)
- WebSphere Studio Enterprise Developer (สำหรับผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ และมีการเชื่อมต่อกัน; จะมีจำหน่ายต้นปีหน้า)
- WebSphere Home Page Builder (สำหรับผู้พัฒนาเว็บไซต์; มีจำหน่ายแล้ว)
นอกจากนี้ WebSphere Studio Application Developer สำหรับ Linux นั้นจะพร้อมให้บริการในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะมีเวอร์ชั่นที่สมบูรณ์ในช่วงต้นปี 2002
รายละเอียดเกี่ยวกับชุมชน Eclipse.org สามารถค้นหาเพิ่มเติมได้ที่ www.eclipse.org รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ WebSphere's Studio ของ IBM สามารถค้นหาเพิ่มเติมได้ที่ www.ibm.com/software/ad/adstudio รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคู่ค้าทางธุรกิจของ IBM ในการพัฒนาโซลูชั่นให้กับเทคโนโลยี Eclipse นั้นอยู่ที่ www.ibm.com/software/ad/workbench.
ข้อมูลเกี่ยวกับ WebSphere
WebSphere เป็นซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ต หรือ มิดเดิ้ลแวร์ ที่ช่วยบริษัทต่างๆ ในการพัฒนา ใช้งาน และเชื่อมแอพพลิเคชัน e-business ยุคใหม่ เช่นแอพพลิเคชันสำหรับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างธุรกิจ (B2B) ซอฟต์แวร์ WebSphere มีสถาปัตยกรรมที่ลูกค้าสามารถนำไปใช้ในโครงสร้างของธุรกิจ e-commerce แบบ end-to-end ได้ โดยรองรับแอพพลิเคชันในการทำอีบิสิเนสในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่การเผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์แบบเบื้องต้นจนถึงการทำธุรกรรมระหว่างองค์กร และยังช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงวิธีบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า คู่ค้า และพนักงานให้ดีขึ้นอีกด้วย WebSphere เป็นแพลตฟอร์มแรกที่มีทั้ง J2EE, Web Services, XML, Linux และ Open Source
สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ WebSphere ได้ที่เว็บไซต์
http://www.ibm.com/websphere
ข้อมูลเกี่ยวกับ IBM Software
IBM คือบริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมมานานถึง 80 ปี IBM Software Group สร้างสรรค์เทคโนโลยี e-business โดยได้นำเสนอแอพพลิเคชัน มิดเดิ้ลแวร์ และระบบปฏิบัติการที่หลากหลายสำหรับแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์ทุกประเภท เพื่อให้ลูกค้าของ IBM สามารถใช้ประโยชน์จาก e-business อย่างเต็มที่ ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์และบริการของ IBM ประกอบไปด้วย 4 ผลิตภัณฑ์หลักได้แก่ WebSphere, Database Management (DB2 และ Informix), Lotus และ Tivoli พบกับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IBM Software ได้ที่ http://www.ibm.com/software
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ IBM Websphere สามารถสอบถามได้ที่ IBM.com Sales Center โทรศัพท์: 0-2273-4444--จบ--
-อน-