กรุงเทพฯ--1 ก.พ.--ตลท.
1.5 การออกมาตรการส่งเสริมการปรับโครงสร้างหนี้และฟื้นฟูกิจการของบริษัทจดทะเบียน
ตลาดหลักทรัพย์ได้สนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูการดำเนินงาน (REHABCO) สามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้สำเร็จ ด้วยการผ่อนผันการปฏิบัติตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่ การอนุญาตให้ซื้อขายหลักทรัพย์ในหมวด REHABCO ได้ หากบริษัทจดทะเบียนที่อยูในกลุ่มดังกล่าวปรับโครงสร้างหนี้ได้สำเร็จ และมีแผนฟื้นฟูกิจการที่ชัดเจน และผ่อนคลายแนวทางการพิจารณาย้ายหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนในหมวด REHABCO ที่ฟื้นฟูกิจการเสร็จแล้ว กลับเข้าสู่หมวดอุตสาหกรรมปกติได้ทันที่ที่มีผลการดำเนินงานรายไตรมาส มีส่วนของผู้ถือหุ้นมากกว่าศูนย์และมีกำไรจากการดำเนินงานปกติแล้ว
ผลจากมาตรการดังกล่าว มีบริษัทจดทะเบียนรายงานความคืบหน้าการปรับโครงสร้างหนี้รวม 143 บริษัท ณ สิ้นปี 2543 โดยมีบริษัทจดทะเบียนสามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้แล้วและเสร็จบางส่วนรวมทั้งสิ้น 96 บริษัท หรือคิดเป็นร้อยละ 67 ของบริษัทที่ปรับโครงสร้างหนี้ทั้งหมด เป็นจำนวน 719,785 ล้านบาท เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (31 ธันวาคม 2542) บริษัทจดทะเบียนสามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้มากขึ้นถึง 468,285 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 186 โดยมีบริษัทจดทะเบียนในหมวด REHABCO ที่ปรับโครงสร้างหนี้ จนสามารถย้ายไปสู่หมวดปกติ จำนวน 3 บริษัท และมีบริษัทจดทะเบียนที่ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว และสามารถเปิดซื้อขายได้ในหมวด REHABCO จำนวน 6 บริษัท
1.6 การออกหลักเกณฑ์และข้อกำหนดเพื่อเพิ่มประเภทของสินค้าในตลาดหลักทรัพย์
- การออกข้อกำหนดเกี่ยวกับการรับใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ที่ออกโดยบริษัทเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
เพื่อให้มีตลาดรองสำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ดังกล่าว อันเป็นการเพิ่มประเภทของตราสารที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้ลงทุนในการบริหารความเสี่ยง จึงได้มีการออกข้อกำหนดเรื่องการรับและการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2543 เป็นต้นมา
- การออกหลักเกณฑ์การรับและการซื้อขายหลักทรัพย์ประเภท NVDR
ตลาดหลักทรัพย์ได้ออกหลักเกณฑ์ เรื่องการออกหลักทรัพย์ NVDR (Non-voting Depositary Receipt) หรือ หลักทรัพย์ประเภทใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย เพื่อเพิ่มประเภทของสินค้าให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
- การออกหลักเกณฑ์เรื่องการจัดตั้งตลาดตราสารอนุพันธ์
ตลาดหลักทรัพย์ได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับออปชันใน SET50 Index ขึ้นเพื่อรองรับการซื้อขายดังกล่าว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2543 และพัฒนาระบบงานเพื่อรองรับการซื้อขายและชำระราคา SET50 Option ซึ่งได้รับการตรวจสอบความพร้อมจาก ก.ล.ต. เมื่อเดือนกันยายน 2543 นอกจากนั้น ยังจัดอบรมให้ความรู้ความเข้าใจแก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้ง ดำเนินการหามาตรการในการเสริมสภาพคล่องให้กับการซื้อขายตราสารดังกล่าว พร้อมกับการกำหนดแนวทางส่งเสริมธุรกรรมประเภทการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาตลาดอนุพันธ์ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมในการซื้อขายตราสารอนุพันธ์ในอนาคต
2. มาตรการส่งเสริมการขยายฐานผู้ลงทุน
2.1 การซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ต
ตลาดหลักทรัพย์ได้ออกหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ต เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2543 เพื่อให้การซื้อขายเปิดกว้างไปสู่ผู้ลงทุนมากขึ้น และเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ลงทุนในการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ ตลอดจนศึกษาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ได้สะดวก รวดเร็ว สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีการสื่อสารรูปแบบใหม่ รวมทั้งได้มีการผ่อนคลายหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับการเปิดบัญชีซื้อขายผ่านอินเทอร์เน็ต และการวางหลักประกัน เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่นักลงทุนมากขึ้น และเพื่ออำนวยความสะดวกแก่บริษัทสมาชิกในการให้บริการแก่ลูกค้า และสามารถขยายขอบข่ายการให้บริการได้คล่องตัวยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ได้จัดตั้งบริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด เพื่อให้บริการด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้บริการพัฒนา และวางระบบคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบเครือข่ายสื่อสารที่เชื่อมโยงกับระบบซื้อขายหลักทรัพย์ สำหรับธุรกิจหลักทรัพย์ โดยได้เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2543 โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ใช้บริการของบริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด ในปี 2543 จำนวน 6 บริษัท ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บีฟิท จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ไทยซากุระ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ยูไนเต็ด จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ บีเอ็นพี พารีบาส์ พีรีกริน (ประเทศไทย) จำกัด
สำหรับการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตในปี 2543 มีจำนวนบริษัทหลักทรัพย์ที่ให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตแก่ผู้ลงทุนรวม 11 บริษัท โดยมีจำนวนลูกค้าที่เปิดบัญชีทั้งหมด 3,662 ราย สำหรับมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเทอร์เน็ตในปี 2543 มีจำนวน 1,168 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.06 ของมูลค่าการซื้อขายรวมในตลาดหลักทรัพย์
ติดต่อเจ้าหน้าที่สื่อมวลชนสัมพันธ์โทร. 229-2035-7 (ยังมีต่อ)
-อน-