กรุงเทพฯ--30 มี.ค.--แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
นายอดิศร ธนนันท์นราพูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการเกี่ยวกับการลดทุน การออกวอแรนท์ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม การออกวอแรนท์ให้แก่พนักงาน และการเพิ่มทุนนั้น โดยมีรายละเอียดของมติดังกล่าว ดังนี้คือ
1. การลดทุน
เป็นเรื่องของข้อปฏิบัติตามกฎหมายมหาชน กล่าวคือ ก่อนการเพิ่มทุนทุกครั้ง หากบริษัทฯ มีหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้นำออกจำหน่าย บริษัทฯ จะต้องทำการลดทุนจดทะเบียนโดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังมิได้นำออกจำหน่ายนั้นออก ซึ่งบริษัทฯ มีหุ้นที่จดทะเบียนแต่ยังมิได้นำออกจำหน่าย อยู่ 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 หุ้นจำนวน 100 ล้านหุ้น ที่จัดสรรไว้สำหรับขายให้บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)
ส่วนที่ 2 หุ้นจำนวน 7.5 ล้านหุ้น ที่จัดสรรไว้สำหรับรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพของวอแรนท์ที่จะออกให้กับพนักงาน (ESOP)
2. การออกวอแรนท์
คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้มีการจัดสรรวอแรนท์ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 2 หุ้นเดิมได้ 1 วอแรนท์ โดยไม่คิดมูลค่า วอแรนท์ดังกล่าวมีอายุ 7 ปี และมีราคาแปลงสภาพที่ 26 บาท ขณะเดียวกันก็ได้จัดสรรให้แก่พนักงาน (ESOP) จำนวน 30 ล้านหน่วย โดยให้ทยอยออกปีละ 6 ล้านหน่วย สำหรับวอแรนท์ในส่วนนี้ จะมีอายุ 3 ปี และมีราคาแปลงสภาพที่ 10 บาท
3. การเพิ่มทุน
โดยสรุปแล้วเป็นการเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อรองรับการออกวอแรนท์ดังกล่าวข้างต้น รวมทั้งการจัดสรรไว้เผื่อสำหรับการขายให้บุคลลในวงจำกัด (Private Placement) อีก 100 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นส่วนที่เคยได้รับการจัดสรรและอนุมัติจากผู้ถือหุ้นและถูกยกเลิกตามข้อ 1 ข้างต้น
นายอดิศร ได้ชี้แจงถึงเหตุผลของการออกวอแรนท์ให้กับผู้ถือหุ้นว่า เปรียบเสมือนการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น เพราะบริษัทฯ มิได้จ่ายเงินปันผลมาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว ส่วนการออกวอแรนท์ให้แก่พนักงาน (ESOP) นั้น บริษัทฯ ถือว่าผลต่างระหว่างราคาแปลงสภาพของวอแรนท์ที่ให้พนักงานเทียบกับราคาตลาดของหุ้นเป็นเสมือนหนึ่งโบนัสให้แก่พนักงาน ซึ่งแนวโน้มของบริษัทฯ หลายๆ แห่งในต่างประเทศก็ได้เริ่มเปลี่ยนรูปแบบการจ่ายโบนัสที่เป็นเงินสดไปสู่การจ่ายโบนัสที่มิใช่เงินสดมากขึ้น เพราะการจ่ายโบนัสที่เป็นตัวเงิน จะทำให้กำไรสุทธิและกำไรต่อหุ้นของบริษัทฯ ลดลง
"ในส่วนของหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 100 ล้านหุ้น ที่ได้เผื่อไว้สำหรับการขายให้กับบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) เป็นการขอเผื่อไว้เพื่อความคล่องตัวของบริษัทฯ เท่านั้น แต่ในขณะนี้ บริษัทฯ ยังมิได้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินแต่ประการใด เพราะบริษัทฯ มีกระแสเงินสดสุทธิเป็นบวกทุกเดือน ซึ่งในปีนี้กระแสเงินสดที่เป็นบวกน่าจะมีมากกว่าปีที่แล้วเสียอีก โดยในปีที่ผ่านมา นอกจากซื้อที่ดินและลงทุนแล้ว บริษัทฯ ยังมีกระแสเงินสดเพื่อชำระคืนหนี้อีกเป็นจำนวนถึง 1,700 ล้านบาท" นายอดิศร กล่าวในตอนท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร. 237-8900 ต่อ 587--จบ--
-นห-