กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--Worklink PR
นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เซรามิคประเภทไฟน์ไชน่า (Fine china) เพื่อใช้บนโต๊ะอาหาร สำหรับการใช้งานในโรงแรมหรือร้านอาหาร เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2559 เติบโต 20% หรือมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 150 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการจำหน่ายสินค้ามากขึ้นตามกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้น 20% จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 3 ล้านชิ้นต่อปี
นอกจากนี้บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 30 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบสำหรับการเพิ่มกำลังการผลิต และปรับปรุงสายการผลิตเดิมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสินค้า งบด้านการตลาด การประชาสัมพันธ์ตราสินค้า PE'TYE การขยายช่องทางจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะสอดรับกับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นในอนาคต
"การขยายกำลังการผลิตของ HPT ขณะนี้ได้มีการทดสอบเตาเผาใหม่(Test Run)อีกครั้ง หลังจากที่ได้มีการทดสอบเตาเผาไปแล้วเมื่อไตรมาส 3/58 แต่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเครื่องจักรบางส่วน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้กำหนดการเดินเครื่องจักรในการผลิตจริงถูกเลื่อนออกไป ทั้งนี้บริษัทคาดว่าหากไม่มีส่วนใดต้องปรับปรุงจะสามารถเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในต้นปี 2559"นางสาวนิจวรรณกล่าว
อย่างไรก็ตามระหว่างที่รอการเพิ่มกำลังผลิต บริษัทได้มีการขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในและต่างประเทศ มีการออกงานแสดงสินค้าในกลุ่มประเทศใหม่ๆ เพื่อหาพันธมิตรและผู้กระจายสินค้าเพิ่ม โดยมุ่งเน้นที่ประเทศออสเตรเลียและกลุ่มประเทศใน AEC เช่น ไทย พม่า ลาว กัมพูชาขณะที่กลุ่มลูกค้าเดิมบริษัทได้มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเพิ่มคำสั่งซื้อจากเดิม โดยเน้นสินค้าที่มีการตกแต่งสีซึ่งเป็นที่นิยมของตลาดในขณะนี้
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2558 บริษัทคาดว่าจะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีการตกแต่งสี มีมูลค่าและอัตราส่วนกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น ส่วนภาพรวมทั้งปี 2558 คาดว่าจะลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนที่ทำไว้ 120 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมามีการปิดซ่อมแซมเตาเผา ประกอบกับแนวโน้มอุตสาหกรรมเซรามิกส่งออก ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค.58) มีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปี 2557
อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงอัตรากำไรขั้นต้น อยู่ในระดับ 25-30% และอัตรากำไรสุทธิ อยู่ในระดับ 8-10% ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออก แบ่งเป็น ทวีปยุโรป 50% ทวีปอเมริกา 35% ทวีปออสเตรเลีย 10% และอื่นๆ (ไทย, AEC ) 5%