กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--ฮิลล์แอนด์นอลตัน สแตรทิจีส์
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทพลังงานชั้นแนวหน้าของเอเชีย ล่าสุดได้รับการคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ที่ระดับ "A+" จากทริสเรทติ้ง และแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" เน้นความเป็นผู้นำของบ้านปูฯ ในอุตสาหกรรมพลังงานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการเงินลงทุนและกลยุทธ์การควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ พร้อมสภาพคล่องทางการเงินที่ดี การมีสินค้าคุณภาพที่หลากหลายและมีฐานลูกค้ากว้าง รวมทั้งทิศทางการพัฒนาธุรกิจไฟฟ้าที่มีแนวโน้มสดใส
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ที่ภาวการณ์ด้านราคาโภคภัณฑ์หรือสภาวะเศรษฐกิจมีความผันผวน บ้านปูฯ ใช้นโยบายการบริหารงานเชิงรุกที่มุ่งสร้างกระแสเงินสดให้เป็นบวกอย่างต่อเนื่องด้วยมาตรการควบคุมต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เสริมด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งทุกนโยบายล้วนได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพนักงานทั้งองค์กรในทุกประเทศ จึงส่งผลอย่างเป็นรูปธรรมตามแผนที่วางไว้ สะท้อนถึงความสามารถในการปรับตัวของบ้านปูฯ ที่พร้อมเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง"
บ้านปูฯ ให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพคล่องทางการเงิน โดย ณ เดือนกันยายน 2558 บริษัทฯ มีเงินสด 510 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับแผนกลยุทธ์ระยะ 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะครอบคลุมการดำเนินงานระหว่างปี 2559-2563 บริษัทฯ มีแผนที่จะปรับลดการลงทุนให้อยู่ที่ระดับ 554 ล้านเหรียญสหรัฐ เทียบกับการลงทุนที่ 717 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงปี 2555-2558 โดยจะเน้นเฉพาะการลงทุนที่จำเป็น การลงทุนต่อเนื่อง และการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า บริษัทฯ จะยังคงสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และได้ประโยชน์จากการลดลงของต้นทุนเชื้อเพลิง การลดต้นทุนและลดค่าใช้จ่ายตามแผน และการเริ่มรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าหงสา
บ้านปูฯ อยู่ระหว่างการนำบริษัทย่อย คือ บ้านปูเพาเวอร์ หรือ BPP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2559 ทั้งนี้ BPP มีการลงทุนในโรงไฟฟ้าและโครงการผลิตไฟฟ้าต่างๆ ในเอเชีย และภายในปี 2561จะมีกำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนการถือครองรวมทั้งสิ้น 2.3 กิกะวัตต์ แผนการของ BPP ที่จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จะช่วยระดมทุนเพื่อต่อยอดการเติบโตก้าวต่อไปและชำระเงินกู้คืนให้กับบ้านปูฯ นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งประเมินว่าเมื่อโครงการไอพีโอของ BPP ดำเนินไปได้สำเร็จตามแผน จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ลดภาระหนี้ ทำให้โครงสร้างเงินทุนของบ้านปูฯ แข็งแรงยิ่งขึ้น
ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจพลังงาน บ้านปูฯ ดำเนินธุรกิจถ่านหินและไฟฟ้าทั้งในประเทศจีน ออสเตรเลีย มองโกเลีย ไทย ลาว อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และญี่ปุ่น โดยมีแผนเพิ่มการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนและธุรกิจโรงไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสร้างสมดุล รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากต้นน้ำจนถึงปลายน้ำด้วยการบริหารจัดการระบบลอจิสติกส์ และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ขานรับความต้องการของลูกค้าในตลาดพรีเมี่ยมอีกด้วย