กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--Studio Mango
"เพราะคำว่าคุณภาพ มาตรฐาน และการไม่หยุดพัฒนา ทำให้เราก้าวมาถึงจุดนี้"
แอล ดี ซี เด็นทัล ศูนย์ทันตกรรมที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน HA (Hospital Accreditation) และสามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์เป็นแห่งแรกในประเทศไทย ด้วยวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ที่มีต่อการบริการและการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ในองค์กร ทำให้สามารถฝ่าฟันด่านองค์กรธุรกิจยักษ์ใหญ่ จนคว้ารางวัล ICT Popular Vote จากเวที ICT Best Practice Awards 2015 มาได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ทพ. วัฒนา ชัยวัฒน์ ได้เปิดเผยถึงที่มาของ อาณาจักรทันตกรรม ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากความรักในการบริหารจัดการ "จากการเปิดร้านลาดพร้าวทันตคลินิกเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ทำให้ผมพบปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณหมอฟรีแลนซ์ ผู้ช่วยหมอฟันและการจัดการภายในร้าน ด้วยความที่เป็นคนรักการบริหารการจัดการอยู่แล้ว จึงคิดว่า ถ้าสามารถจัดการปัญหาเหล่านี้ด้วยการวางระบบที่เหมาะสม อาชีพหมอฟันน่าจะสามารถทำเป็นธุรกิจได้ (ธุรกิจคือความเชื่อถือ ไม่ใช่ทำกำไรสูงสุด) ในตอนนั้นก็มีเสียงต่อต้านมากมาย โดนตำหนิเยอะมากจากวงการหมอฟันด้วยกันเอง แต่สิ่งที่ผมทำคือ การแก้ปัญหาโดยการปรับปรุงระบบใหม่ทั้งหมด ทั้งระบบของการคัดสรรคุณหมอ การวางมาตรฐานให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีการฝึกอบรมผู้ช่วยหมอ โดยใช้ระบบเทรนนิ่งเซ็นเตอร์ และวางรากฐานของ Career Path รวมทั้งระบบการจัดการหลังร้านและบัญชี ซึ่งทั้งหมดนี้ ยังคงเป็น manual อยู่ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของ LDC Dental โดยเรามีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวในใจว่า ถ้าคนไทยจะทำฟัน จะต้องนึกถึง LDC เป็นอันดับต้นๆ
หลังจากเปิด LDC Dental แล้ว สิ่งสำคัญต่อมาคือการรักษามาตรฐาน ซึ่งที่นี่ เรามีอยู่ 4 ด้านด้วยกันคือ มาตรฐานการรักษา ซึ่งเรามีคุณหมอเฉพาะทางที่มีการรับประกันการรักษาเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน สอง คือมาตรฐานของเครื่องมือทันตกรรม ที่อยู่ในระดับสากล สามารถตรวจสอบที่มาได้ มีเอกสารชี้แจง สามคือมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งตรงนี้ลูกค้าส่วนใหญ่จะไม่ทราบ ว่าการทำฟันอาจส่งผลกระทบหรือเป็นการกระตุ้นโรคประจำตัวบางอย่างได้ จึงต้องมีการวัดความดัน วัดไข้ ซักประวัติก่อน เพื่อให้คนไข้มีความปลอดภัยสูงสุด และสุดท้ายคือ มาตรฐานด้านความสะอาด เครื่องมือทุกชิ้นที่ใช้จะต้องปลอดเชื้อ และสะอาดที่สุด ซึ่งนอกจากมาตรฐานที่ตั้งไว้แล้ว เรายังมีระบบสุ่มตรวจสอบสาขาต่างๆ เพื่อให้ได้คุณภาพที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน มีการวัดผลและการให้คะแนนในทุกสาขาด้วย ซื่งระบบการสุ่มตรวจสอบเหล่านี้ ทำให้สามารถรักษามาตรฐานที่เราตั้งไว้สูงได้ตลอดอีกด้วย
ซึ่งมาตรฐานและการพัฒนาด้านต่างๆ เหล่านี้ LDC Dental ได้นำไอทีเข้ามาใช้จัดการระบบด้วย โดยมีแนวคิด 3 ด้าน ได้แก่ Operational-based , Always Think Ahead และ Customer Centric ซึ่งเราได้พันธมิตรอย่างบริษัทนายเน็ต มาดูและเรื่องระบบให้ ทั้งในส่วนของการจัดการระบบภายในและมาตรฐานการบัญชี โดยเราใช้โปรแกรมบริหารคลินิก ที่มุ่งเน้นการออกแบบและสร้างระบบที่ตอบสนองกระบวนการทำงานในทุกขั้นตอน ให้มีความต่อเนื่องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งระบบ สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในทุกขั้นตอน อาทิ การจัดเก็บข้อมูลประวัติการรักษาที่เป็นระบบ และช่วยให้เกิดความถูดต้องแม่นยำในการวางแผนการรักษาและคุณภาพของการให้บริการ นอกจากนี้ ระบบยังซัพพอร์ตในส่วนของ Back Office เช่นการคิดค่าตอบแทนแพทย์ ที่สามารถประมวลผลได้ทันทีและสรุปเป็นรายวัน สร้างความโปร่งใสให้แก่แพทย์ผู้ร่วมงานได้เป็นอย่างดี
นอกจากการสร้างระบบแล้ว เรายังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยคิดล้ำหน้าความคิดของผู้ใช้และลูกค้าอยู่ตลอดเวลา อาทิเช่น การเข้ามาที่คลินิก นอกจากมาตรฐานการรักษาแล้ว การบริการก็เป็นส่วนสำคัญ เราจึงกลับมาคิดว่า ทำอย่างไรที่จะทำให้ลูกค้าใช้เวลา "รอ" ได้น้อยที่สุด จึงคิดทดลองนำซอฟแวร์ติดตั้งกล้อง webcam เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลลูกค้า เมื่อลูกค้าเดินเข้าร้านมา กล้องจะจับใบหน้าและส่งข้อมูลไปยังระบบ และสามารถยืนยันข้อมูลและประวัติการรักษาได้ในทันที โดยใช้เวลาจาก 5 นาที เหลือเพียง 5 วินาทีเท่านั้น และยังไม่หยุดการพัฒนาเพียงเท่านั้น LDC Dental ยังได้เชื่อมระบบซอฟต์แวร์นี้กับเครื่อง Digital Xray เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลและประวัติการรักษา ช่วยลดเวลาการค้นหาข้อมูลคนไข้ของแพทย์ได้อีกด้วย
ล่าสุด เนื่องจากแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไป LDC Dental ได้เพิ่มประเภทการชำระแบบ Line Pay ด้วย ซึ่งเป็นคลินิกทันตกรรมรายแรกของโลกที่นำระบบนี้มาใช้ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเยี่ยม ลูกค้าหลายคนพึงพอใจที่จะใช้บริการชำระเงินในลักษณะนี้ และในส่วนของการพัฒนาต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ เรากำลังเตรียมในเรื่องของการส่งข้อมูลนัดหมายไปยังแอปพลิเคชั่นบนมือถือ เพื่อไปบรรจุใน Calender ของคนไข้พร้อมระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ ซึ่งน่าจะสามารถยกระดับประสิทธิภาพการนัดหมายได้อีกขั้น
โดยหลักการพัฒนาระบบและการประยุกต์ใช้ไอทีของ LDC Dental นั้น เรายึดหลักทุกฟังก์ชั่นที่ทำต้องมุ่งให้เกิดประโยชน์สูงสุดที่ลูกค้าของคลินิก ซึ่งผลที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่า นอกจากคุณภาพการทำงานของทีมทันตแพทย์ และการประชาสัมพันธ์ที่ดีแล้วนั้น ประสิทธิภาพของระบบ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ดังจะเห็นได้จากจำนวนการสมัครสมาชิกกว่า 50,000 รายจากคนไข้ทั้งหมดว่า 250,000 ราย ซึ่งแม้จะต้องเสียค่าสมัครเพื่อแลกกับสิทธิพิเศษ ลูกค้าจำนวนมากก็ยินดีสมัคร และจากการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจ ทำให้ LDC Dental เป็นศูนย์ทันตกรรมรายแรกในประเทศไทยที่สามารถผ่านการรับรองมาตรฐาน HA (Hospital Accreditation) ขั้นที่ 1 และผ่านขั้นตอนการคัดกรองสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ได้ในปี 2557 ปัจจุบัน LDC Dental มีสาขาทั่วกรุงเทพและปริมณฑลกว่า 20 สาขา และเตรียมเปิดเพิ่มขึ้นอีก 9 สาขาในหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัดภายในเร็วๆ นี้
การที่ LDC Dental ได้รับรางวัล ICT Popular Vote จาก โครงการ ICT Best Practice Awards 2015 นั้น นับเป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นรางวัลที่การันตีถึงแนวคิดที่เรานำไอทีมาประยุกต์ใช้ในองค์กรแล้ว ยังเปรียบเสมือนกำลังใจสำหรับทุกคนในองค์กรและพันธมิตรของเราด้วย อีกทั้งยังเป็นรางวัลที่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าที่มารับการบริการจากเราในทุกด้าน ต้องขอขอบคุณทั้งทางผู้จัดโครงการ และคณะกรรมการมา ณ ที่นี้"