กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--เฟลชแมน ฮิลลาร์ด
การเลือกคอนแทคเลนส์ที่มีค่าสายตาเหมาะสมและรองรับการใช้งานของผู้สวมใส่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ด้วยความมุ่งหวังให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รับบริการดูแลสุขภาพตาที่ดี เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (ประเทศไทย) ฝ่ายวิชั่นแคร์ จับมือร้านแว่นตาชั้นนำ ร่วมกันยกระดับมาตรฐานการให้บริการแบบครบวงจร จัดหลักสูตรฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับการดูแลสายตาเบื้องต้น พร้อมเปิดตัว "จุดให้บริการทดลองคอนแทคเลนส์ จาก จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน วิชั่นแคร์" โดยมีพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญคอยให้บริการ
นางสาวเสาวณีย์ พันธ์ขจรเวช ผู้จัดการแผนกวิชั่นแคร์ บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (ประเทศไทย) กล่าวว่า "จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน วิชั่นแคร์ ในฐานะผู้นำกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนแทคเลนส์ ตระหนักถึงการดูแลสุขภาพตาของผู้บริโภค ไม่ใช่แค่เพียงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์รองรับความต้องการของผู้ใช้งาน แต่เรายังริเริ่มนำเอาองค์ความรู้ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ๆ ทางด้านสายตามาต่อยอด ให้ผู้บริโภคได้ตรวจวัดค่าสายตาอย่างแม่นยำและรับบริการจากพนักงานที่เชี่ยวชาญ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อเติมเต็มความต้องการเกี่ยวกับสุขภาพตาของผู้บริโภคอย่างรอบด้าน"
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องพึงระวังสำหรับผู้ที่สวมใส่คอนแทคเลนส์ คือ ไม่ควรหาซื้อคอนแทคเลนส์มาใส่เอง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและรับบริการด้านสายตาจากร้านแว่นตา ประกอบกับผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าการใส่คอนแทคเลนส์นั้น ควรเลือก ค่าความโค้งของผิวเลนส์ด้านหลัง (Base Curve) ที่เหมาะสม เนื่องจากดวงตาของแต่ละคนมีความโค้งของผิวกระจกตาไม่เท่ากัน การใส่คอนแทคเลนส์ที่ไม่เหมาะสมกับดวงตาอาจทำให้เกิดปัญหาระคายเคืองตาและอาจส่งผลให้กระจกตาอักเสบและเป็นแผลในระยะยาวได้
นอกจากการตรวจวัดความโค้งของกระจกตาด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่เรียกว่า "Push-up test" ซึ่งจะให้ผู้ทดลองเลนส์ใช้นิ้วโป้งแตะที่เปลือกตาด้านล่างแล้วดันเปลือกตาล่างที่ติดกับขอบเลนส์ขึ้นด้านบน เพื่อผลักให้ตัวเลนส์ขยับขึ้น โดยให้เลนส์ขยับเลยขอบตาดำขึ้นไปเล็กน้อย ปล่อยนิ้วมือบริเวณเปลือกตาด้านล่าง จากนั้นจึงสังเกตและประเมินการเคลื่อนที่ของคอนแทคเลนส์ว่าเลื่อนลงมาอย่างไร เช่น ไหลลงอย่างรวดเร็ว หรือไหลลงมาเล็กน้อยและหยุด หรือเลนส์ไม่เลื่อนเลย เป็นต้น เพราะความเร็วของเลนส์ในการเลื่อนลงมาที่ตาดำ เป็นตัวอธิบายผลว่า คอนแทคเลนส์ที่ใส่อยู่มีความโค้งที่พอดีกับโค้งของกระจกตาหรือไม่
ด้าน พนักงานผู้ให้บริการหน้าร้านก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน บุคคลเหล่านี้จำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถแนะนำวิธีการใช้และใส่คอนแทคเลนส์ที่ถูกต้อง ซึ่งพนักงานที่อยู่ประจำจุดให้บริการทดลองคอนแทคเลนส์ จาก จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันนั้น จะต้องผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับการดูแลสายตาเบื้องต้น ประกอบด้วยหลักเกณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเรียนรู้ด้านกายวิภาคดวงตา ,วิธีการใส่คอนแทคเลนส์ที่ถูกต้อง,แนะนำขั้นตอนที่จะช่วยพนักงานให้บริการอย่างผู้เชี่ยวชาญ และ เข้าใจถึงคุณประโยชน์ของคอนแทคเลนส์ที่ดีต่อสุขภาพตา เพื่อสร้างมาตรฐานในการให้บริการที่มีคุณภาพและดูแลผู้ที่มาใช้บริการเป็นอย่างดี
ส่วน เอ็ม ศิรประภา จีระพันธุ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาดของแบรนด์นาฬิกาชื่อดัง เผยถึงประสบการณ์ด้านสายตาว่า "เอ็มมีปัญหาสายตาสั้นค่ะ ทำให้ต้องใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ แต่ส่วนใหญ่จะติดเรื่องค่าความโค้งของเลนส์ที่ไม่พอดีกับดวงตา ซึ่งเอ็มให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อคอนแทคเลนส์และรับบริการจากร้านแว่นตาอยู่เสมอค่ะ พอมีโอกาสได้มาวัดสายตาที่จุดให้บริการทดลองคอนแทคเลนส์ จาก จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ก็ได้ลองคอนแทคเลนส์รายวันวัสดุซิลิโคนไฮโดรเจล ที่มีค่าความโค้งพอดีกับดวงตาใส่แล้วสบายตาและยังเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเอ็มที่ต้องทำงานอยู่จอหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวันอีกด้วยค่ะ"
พบกับจุดให้บริการทดลองคอนแทคเลนส์ จาก จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้แล้ววันนี้ที่ ร้านเคที ออพติค สาขา เมกะ บางนา และ ร้านออพติค สแควร์ สาขา เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุค Johnson & Johnson, Vision Care Thailand