กรุงเทพฯ--30 ธ.ค.--สมาร์ทเทรด พับลิเคชั่นส์
Houghton เป็นอันดับ 1 ของโลกในการผลิตน้ำมัน Metal Working Fluids มาตลอดระยะเวลา 150 ปี มีการเตรียมความพร้อมการลงทุนในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ด้วยเล็งเห็นว่า ตลาดในทวีปเอเชียเป็นอีกลาดหนึ่งที่มีอัตราการขยายตัวทางอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจที่สูงไม่ด้อยไปกว่าทวีปอื่นๆ
คุณไพรัตน์ ทิวากรพรรณราย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย ฮาวท์ตัน 1993 จำกัด กล่าวว่า "Houghton International Co., Ltd. ก่อตั้ง ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2408 ที่เมือง Valley Forge, Philadelphai ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปี 2558 มีอายุครบ 150 ปี ส่วน ฮาวท์ตัน ประเทศไทย มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพฯ โรงงานตั้งอยู่ที่นิคมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง จนถึงปัจจุบัน เพื่อผลิตและจำหน่ายสารหล่อลื่นต่างๆ และยังเป็นที่ตั้งของศูนย์เทคโนโลยีที่มีห้องปฏิบัติการทดลอง เพื่อการควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์ วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
ในโอกาสครบรอบ 150 ปี จึงมีการจัดงานเฉลิมฉลองขึ้นเมื่อวันพุธที่ 16 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมา ณ โรงแรม Holiday Inn Pattaya จ.ชลบุรี โดยมี ศ.ดร.กันตธีร์ ศุภมงคล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน เพื่อเป็นการขอบคุณคู่ค้าที่ให้ความไว้วางใจ เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของฮาวท์ตันตลอดมา รวมถึงพนักงานของฮาวท์ตัน 1993 จำกัด ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าด้วยดีเสมอมา"
สำหรับทิศทางในการดำเนินธุรกิจและกลยุทธ์ของฮาวท์ตัน ที่จะขยายการเป็นผู้นำไปสู่กลุ่มประเทศ AEC นั้น คุณไพรัตน์ เปิดเผยว่า "เราเป็นผู้นำในด้านน้ำมันตัดกลึงในตลาดโลกอยู่แล้ว แน่นอนว่าสำหรับประเทศไทย เราก็ต้องการไปถึงจุดนั้น ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ฮาวท์ตันมีการปรับเปลี่ยนค่อนข้างมาก ทั้งเรื่องการพัฒนาบุคลากร การประชาสัมพันธ์ทางการตลาด ซึ่งในปี 2559 เราจะโปรโมทแบรนด์ ฮาวท์ตัน ให้เป็นที่รู้จักยิ่งขึ้น สำหรับประเทศไทยก็ต้องเน้นเรื่องของแบรนด์ดิ้ง ในเรื่องกิจกรรมทางการตลาดที่สอดคล้องกัน
และถ้ามองตลาด AEC ประเทศไทยจะเป็น Export Hub ที่จะกระจายสินค้าไปสู่ในกลุ่ม AEC ซึ่งเราไม่ต้องลงทุนไปตั้งโรงงานใหม่ในประเทศอื่น แต่จะมุ่งเน้นการลงทุนมากขึ้นในประเทศไทยให้เป็น Export Hub เป็นฐานกระจายสินค้า ซึ่งถือว่าประเทศไทยเป็นจุดโลจิสติกส์ที่ดีในการกระจายสินค้า เพราะถ้า Hub ของเราอยู่ที่นี่ เราสามารถ Export จากโรงงานที่ระยองไปยังพม่า เวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งการขยายฐานลูกค้าของฮาวท์ตันไปยังกลุ่มอาเซียนยังมีอีกมาก
ดังนั้น หากฮาวท์ตันจะเติบโตในประเทศไทยก็จะต้องมีการลงทุนมากขึ้น นั่นหมายถึงว่าเราจะมีการจ้างงานในเมืองไทยมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตในภาคอุตสาหกรรมไปด้วยกัน"