กรุงเทพฯ--30 ธ.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 30 ธันวาคม 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,067.03-1,071.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,300 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,400 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG15 อยู่ที่ 18,360 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,540 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.56 น.ของวันที่ 30/12/15)
แนวโน้มวันที่ 04 มกราคม 2559
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐส่งผลกดดันราคาทองคำ ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังการขายพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี โดยกระทรวงการคลังสหรัฐอยู่ในระดับที่น่าผิดหวัง ส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการซื้อพันธบัตรรัฐบาล ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อายุ 2 ปีทะยานขึ้นในทิศทางเดียวกับพันธบัตรอายุ 5 ปีที่พุ่งขึ้นเช่นกัน ประกอบกับ ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินได้รับแรงหนุนเพิ่ม หลังจาก Conference Board รายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับสูงในเดือนธันวาคมหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอดเบี้ย อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากที่ปรึกษาด้านนโยบายของจีนส่งสัญญาณ กระตุ้นเศรษฐกิจจีนเพิ่มเติม โดยกล่าวว่าจีนสามารถทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบ 5 ปีได้ในปีหน้า ในขณะที่ผู้นำจีนหันมาใช้วิธีปรับเพิ่มรายจ่ายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินมาเป็นเวลานานหนึ่งปีให้ผลที่น่าผิดหวัง แหล่งข่าวซึ่งเป็นที่ปรึกษาของผู้นำระดับสูงของจีนกล่าวว่า เป็นที่คาดกันว่ารัฐบาลจีนอาจปรับเพิ่มยอดขาดดุลงบประมาณสู่ระดับราว 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ใน ปี 2016 จากเป้าหมายยอดขาดดุลที่ 2.3% ในปีนี้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยสกัดกั้นผลกระทบที่เศรษฐกิจได้รับจากการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ซึ่งหากเศรษฐกิจจีนขยายตัวขึ้นและสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น อาจมีเม็ดเงินบางส่วนไหลเข้าสู่ตลาดทองคำ ซึ่งความหวังดังกล่าวยังพยุงราคาทองคำไว้เมื่อราคาอ่อนตัวลง เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำยังคงมีการเคลื่อนไหวลักษณะแกว่งตัวในกรอบในรูปแบบของการสร้างฐานราคา โดยกรอบบนประเมินราคาทองคำบริเวณแนวต้าน 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และประเมินกรอบด้านล้างบริเวณแนวรับที่ 1,054 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีการเคลื่อนไหวในกรอบและคาดว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะของการสร้างฐานราคา โดยให้เน้นไปที่การเข้าลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้สามารถเข้าซื้อบริเวณแนวรับที่ 1,060 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,054 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,088 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากราคายืนเหนือแนวต้านได้มั่นคงสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,060 (18,080บาท) 1,054 (17,980บาท) 1,046 (17,760บาท)
แนวต้าน 1,088 (18,560บาท) 1,100 (18,770บาท) 1,110 (18,890บาท)
GOLD FUTURES (GFG16)
แนวรับ 1,060 (18,220บาท) 1,054 (18,110บาท) 1,046 (18,000บาท)
แนวต้าน 1,088 (18,700บาท) 1,100 (18,900บาท) 1,110 (19,100บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148