กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--IMAGE PLUS
จากผลการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ถึงสถานการณ์จับจ่ายซื้อของขวัญในเทศกาลปีใหม่เมื่อต้นปี 2544 ที่ผ่านมา พบว่ากระเตื้องขึ้นจากปี 2543 อย่างเห็นได้ชัด โดยพฤติกรรมผู้บริโภคของคนไทยในปี 2544 จะเน้นสินค้าคุณภาพดี ราคาประหยัด ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว โดยสินค้าที่นิยมมอบให้แก่กันได้แก่ การ์ดอวยพร เสื้อผ้า เครื่องแก้ว ของที่ระลึก ของตกแต่งบ้าน และหัตถกรรมไทยต่างๆเพื่อเป็นการส่งเสริมนโยบายใช้สินค้าไทยอย่างต่อเนื่อง บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาตสิริกิติ์ จึงได้จัดงาน Thailand Bestbuys 2001 หรืองานแสดงสินค้าครั้งยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี 2544 ยึดแนวความคิดหลัก เบสต์บาย - เบสต์แบรนด์ (Bestbuys - Bestbrand) ขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 9 ธันวาคม 2544 นี้
นายโสภณ ดีสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานเอ็น.ซี.ซี. บริษัท เอ็นซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ว่า งานไทยแลนด์เบสบายต์จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นและรณรงค์ให้ประชาชนหันมาสนใจสินค้าที่ผลิตในประเทศ โดยฝีมือคนไทย ใช้ตราสินค้า (Brand) ไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีคุณภาพดี ราคาเหมาะสม เพื่อเป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่ จุดเด่นของงานคือความแตกต่างของ Theme ที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิด Bestbuys-Bestbrand ที่ต้องการเน้นเรื่องแบรนด์และเป็นสินค้าคุณภาพที่ผลิตโดยคนไทย โดยผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องเดินทางไปช็อปปิ้งยังต่างประเทศ ส่วนสิ่งที่ผู้มาร่วมงานหรือเอ็กซิบิเตอร์จะได้รับคือ การได้พบกับลูกค้าโดยตรง รวมทั้งอาจได้รับคำแนะนำที่ดีจากลูกค้าในเรื่องของผลิตภัณฑ์ ซึ่งสามารถนำไปพัฒนาและปรับปรุงของตนเองได้ นอกจากนี้ยังได้เห็นถึงศักยภาพของคู่แข่งทางการค้า รวมไปถึงแนวคิดใหม่ ๆ ในแง่ของอินโนเวทีฟ สุดท้ายคือ ได้รู้ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคและทิศทางการตลาดด้วย" นายโสภณ กล่าวนอกจากสินค้าของผู้ประกอบการทั่วไปแล้ว เอ็น.ซี.ซี.ฯ ยังได้ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมที่จะนำผลงานจากนโยบายรัฐบาล "1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์" ทั่วประเทศมาจัดแสดง และยังจัดพื้นที่อีกประมาณ 1,000 ตารางเมตร ให้แก่นักศึกษาหรือผู้ตกงานได้นำผลงานการคิดค้น หรือผลงานประดิษฐ์ รวมทั้งงานฝีมือต่างๆ มาจัดแสดง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ซึ่งเป็นการช่วยหาช่องทางการตลาด และนำไปสู่การทำอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตามที่รัฐบาลต้องการส่งเสริมได้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ ยังมีโครงการจะนำรูปแบบของการจัดงานครั้งนี้ไปเป็นต้นแบบในการนำสินค้าไทยไปจัดแสดงในต่างประเทศ โดยนำร้านค้าที่มาร่วมในงานนี้ทั้งหมดไปจัดแสดงในต่างประเทศ อาทิ เกาหลี, อังกฤษ ฝรั่งเศส เพื่อส่งเสริมสินค้าไทยสู่ตลาดโลกอย่างแท้จริง
"สำหรับงานไทยแลนด์เบสต์บายครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานประมาณ 200,000 คน มีเงินทุนหมุนเวียนประมาณ 100 ล้านบาท โดย 95 % จะเป็นวัยรุ่นและกลุ่มคนทำงาน ส่วนอีก 5 % นั้นจะเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งพักอาศัยในประเทศและที่เป็นนักท่องเที่ยว ส่วนสินค้าที่จำหน่ายในงานประกอบด้วย ของตกแต่งบ้าน, งานหัตถกรรม, เครื่องหนัง, ดอกไม้และต้นไม้ประดิษฐ์, เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน, ของเล่น. เครื่องประดับแท้/เทียม, นาฬิกา, การ์ดอวยพร/ปฏิทิน/สิ่งพิมพ์ประจำปี, เสื้อผ้าและสิ่งทอ, หนังสือ, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อาหารสำเร็จรูป, เครื่องใช้ในครัวเรือน และสินค้าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ " นายโสภณ กล่าว
ด้านผู้ประกอบการที่มาจัดแสดงสินค้าภายในงาน นายศุภธน กิจกุศล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท แวนสัน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายแวนสัน ได้กล่าวถึงภาพรวมขอธุรกิจเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายในปัจจุบันว่า ปัจจุบันสินค้าในกลุ่มนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าสำเร็จรูปได้รับการพัฒนาให้ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากมีแบบและลวดลายให้เห็นและเลือกหาซื้อได้ง่าย ที่สำคัญสินค้าที่มีแบรนด์เนม ก็จะได้รับความเชื่อถือ และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากกว่าสินค้าที่ไม่มีแบรนด์
"แวนสันมีนโยบายผลิตสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม ส่วนใหญ่ราคาสินค้าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 500 - 600 บาท กลุ่มเป้าหมายจะจับระดับกลางขึ้นไปและอยู่ในระดับท๊อปไฟท์สำหรับตลาดในประเทศ สินค้าที่สำคัญของแวนสันประกอบด้วย เสื้อเชิ้ต เสื้อยืด เสื้อแจ็คเก็ต สูท กางเกงขาสั้นและขายาว ชุดชั้นใน เนคไท ถุงเท้า เข็มขัด และชุดนอน ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าในตลาดรวมไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท สำหรับตลาดต่างประเทศจะอยู่ในตะวันออกกลางและออสเตรเลีย จึงน่าจะจัดได้ว่าเราเป็นอินเตอร์แบรนด์เช่นกัน "
สำหรับการเข้าร่วมแสดงสินค้าในงาน Thailand Bestbuys 2001 ครั้งนี้ จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้นำเสนอสินค้าสู่ผู้บริโภคได้เลือกโดยตรงในราคาพิเศษ และลูกค้าที่ซื้อสินค้าครบตามมูลค่าที่ตั้งไว้ทางบริษัทฯ ก็ได้มีการจัดเตรียมของกำนัลเพื่อเป็นที่ระลึกด้วย
ด้านนายวิชชา วุฒิธำรง ผู้จัดการทั่วไป แป้งแก้วการ์ด แอนด์ พรีเมี่ยม กล่าวถึงธุรกิจการ์ดอวยพรและของขวัญว่า ปกติการมอบของขวัญและการ์ดอวยพรในช่วงเทศกาลปีใหม่ เป็นประเพณีที่ยึดถือปฏิบัติของคนไทยมานานแล้ว แต่เนื่องจากเศรษฐกิจในปีนี้ยังชะลอตัวอยู่ทำให้อำนาจซื้อของประชาชนลดลง และต้องควบคุมค่าใช้จ่าย การ์ดอวยพรจึงเป็นสินค้ายอดนิยมในอันดับต้นๆ ด้วยระดับราคาที่ไม่สูงนัก
"สินค้าของแป้งแก้วนอกจากการ์ดอวยพรแล้ว ในธุรกิจตรงนี้ แป้งแก้วจัดว่าค่อนข้างครบวงจร เพราะเรามีตั้งแต่ของขวัญ รูปแบบต่างๆ บรรจุภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งของขวัญประเภทต่างๆ อาทิ ริบบิ้น และโบว์สำเร็จรูป ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้ของขวัญดูสวยงามและถูกใจผู้รับมากขึ้น ซึ่งผู้ที่เข้ามาในงาน Thailand Bestbuys 2001 เมื่อเลือกซื้อของขวัญเสร็จแล้วก็สามารถนำของขวัญมาห่อหรือเลือกบรรจุภัณฑ์และอุปกรณ์ตกแต่งของขวัญรวมถึงการ์ดอวยพรได้ในงานนี้งานเดียวเพราะนอกจากจะสะดวกแล้วยังประหยัดเงินและไม่ต้องเสียเวลาอีกด้วย" นายวิชชา กล่าวในที่สุด
อนึ่ง งาน Thailand Bestbuys 2001 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน - 9 ธันวาคม 2544 เวลา 10.00 - 20.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์--จบ--
-อน-