กรุงเทพฯ--4 ม.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 04 มกราคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,062.28-1,074.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,350 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,300 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG16 อยู่ที่ 18,490 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 130 บาทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,430 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.35 น.ของวันที่ 04/01/16)
แนวโน้มวันที่ 05 มกราคม 2559
ความหวังว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะเริ่มต้นในปี 2559 ด้วยการมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ความเชื่อมั่นดังกล่าวได้รับผลกระทบจากข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตจีนของไคซินและมาร์กิต ซึ่งพบว่าภาคการผลิตหดตัวเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันในเดือนธันวาคม ซึ่งหดตัวในอัตราที่รุนแรงกว่าคาดการณ์ไว้ ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า บริษัทหลายแห่งของจีนปรับลดการผลิตลงในเดือนธันวาคมเพราะอุปสงค์อ่อนแอลง ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก และกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจีนโดยดัชนี CSI300 สำหรับหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้นของจีนรูดลง 7% จนส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนต้องระงับการซื้อขาย ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียดิ่งลง โดยดัชนีนิกเกอิที่ตลาดหุ้นโตเกียวปิดดิ่งลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง และ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันซื้อขายวันแรกของปีนี้เช่นกัน ทั้งนี้ ราคาทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่มจากสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลาง หลังจากซาอุดิอาระเบียได้ประหารชีวิตนักบวชชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีกลุ่มผู้ประท้วงชาวอิหร่านบุกเข้าโจมตีสถานทูตซาอุดิอาระเบียในกรุงเตหะราน จนรัฐบาลซาอุดิอาระเบียได้สั่งถอนเจ้าหน้าที่ทางการทูตของตนเองออกจากอิหร่านและประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน ประเด็นดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยง และเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น เมื่อสถานการณ์ระหว่างอิหร่าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนิกายชีอะห์ และราชวงศ์ของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นนิกายสุหนี่ ตึงเครียดมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายเป็นเพียงผู้สนับสนุนกองกำลังต่อสู้ในข้อพิพาทต่างๆทั่วตะวันออกกลาง เบื้องต้นประเมินว่าหากราคายืนเหนือบริเวณ 1,064 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ประเมินว่าราคาทองคำจะขยับขึ้นชนแนวต้านในโซน 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่หากราคาไม่สามารถยืนอาจต้องระมัดระวังการอ่อนตัวลงของราคาอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,080 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากราคายังอยู่ในช่วงของการสร้างฐานราคาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมา นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้าง สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อเพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัวขึ้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,064 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับบริเวณ 1,060 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,064 (18,180บาท) 1,060 (18,110บาท) 1,054 (18,010บาท)
แนวต้าน 1,080 (18,460บาท) 1,090 (18,630บาท) 1,100 (18,800บาท)
GOLD FUTURES (GFG16)
แนวรับ 1,064 (18,350บาท) 1,060 (18,290บาท) 1,054 (18,180บาท)
แนวต้าน 1,080 (18,630บาท) 1,090 (18,800บาท) 1,100 (18,970บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148