กรุงเทพฯ--5 ม.ค.--ธามดี พลัส
GPSC เผยปี 2559 ธุรกิจไฟฟ้ามีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง ทั้งจากมาตรการภาครัฐและยังเป็นธุรกิจเชื่อมโยงรับเศรษฐกิจ AEC มั่นใจผลประกอบการบริษัทฯ เป็นไปตามเป้าหมาย หลายโครงการสำคัญในมือจ่อเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ ธุรกิจไร้ผลกระทบจากราคาน้ำมันขาลงและเศรษฐกิจโลกถดถอย เนื่องจากเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานที่มีสัญญาซื้อขายระยะยาวรองรับ
ดร.เติมชัย บุนนาค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2559 ของบริษัทฯ ยังคงมั่นใจในการรักษาอัตราการเติบโตของบริษัท ได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของตลาดโลกและราคาเชื้อเพลิงยังคงต้องเผชิญกับความผันผวนก็ตาม เนื่องจากธุรกิจไฟฟ้าปีนี้มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้น ประกอบกับจุดแข็งของธุรกิจที่มีสัญญาซื้อขายแบบระยะยาวถึง 15 – 20 ปี ดังนั้น บริษัทฯ จึงให้ความมั่นใจได้ว่าผลประกอบการของบริษัทฯ จะเป็นไปตามแผนที่วางไว้
"ปีนี้จะเป็นอีกปีที่ธุรกิจไฟฟ้ามีการเติบโตจากนโยบายของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพลังงานทดแทนทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ ชีวมวล และขยะ ที่รัฐเตรียมเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอในการขายไฟฟ้า และธุรกิจนี้ก็ยังเป็น Mega Trend ที่มีคนให้ความสนใจมาลงทุนอย่างมาก ประกอบกับการที่ไทยก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC อนาคตธุรกิจไฟฟ้าจะยิ่งมีการเชื่อมโยง และเติบโตสูงตามการเติบโตของเศรษฐกิจภูมิภาค" ดร.เติมชัยกล่าว
อย่างไรก็ตาม ภาวะราคาน้ำมันผันผวนในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งด้านการรับรู้รายได้และการรักษาระดับมาร์จิน เนื่องจากระบบการขายไฟฟ้าและไอน้ำเป็นลักษณะ Cost Plus Basis ในรูปแบบ Minimum Take or Pay หรือ การส่งผ่านต้นทุนค่าเชื้อเพลิงไปยังลูกค้า และรับรองว่าบริษัทจะได้รับรายได้ขั้นต่ำจากลูกค้าตามจำนวนรับผลิตภัณฑ์ที่ตกลงกันไว้ ทำให้ผลประกอบการเดินหน้าตามแผน เห็นได้ชัดจากผลประกอบการในช่วง 9 เดือน ของปี 2558 ที่มีอัตรากำไรสุทธิเติบโตถึง 33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของบริษัทที่มีความมั่นคง และเชื่อมั่นว่าผลประกอบการทั้งปี 2558 ก็ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายเดิม
ดร. เติมชัย กล่าวว่า แนวโน้มการเติบโตของบริษัทในปี 2559 ยังคงขยายต่อเนื่องจากปี 2558 จากหลากหลายโครงการสำคัญที่บริษัทฯ ดำเนินการพัฒนาและก่อสร้างตามแผน ไม่ว่าจะเป็นโครงการโรงไฟฟ้านวนคร (NNEG) 125 MW ที่จะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในปีนี้และมีลูกค้ารองรับการผลิตแล้ว การรับรู้รายได้เต็มของโครงการไออาร์พีซี คลีน พาวเวอร์ (IRPC CP) Phase1 หลังจากที่ได้เดินหน้าดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายนในปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมแผนการเจรจาการลงทุนกิจการไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศร่วมกันกับกลุ่ม ปตท. ในฐานะที่บริษัทฯ เป็นแกนนำในด้านการผลิตไฟฟ้าและสาธารณูปโภคของกลุ่ม ปตท. ซึ่งนับเป็นจุดแข็งที่สำคัญของบริษัทฯ ที่จะเติบโตไปพร้อมกันกับการเติบโตของทั้งกลุ่มธุรกิจ ปตท.
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงการระยะยาว ที่มีมีผลตอบแทนที่ดีตามแผนในระยะ 5 ปีข้างหน้า GPSC จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 2,850 เมกกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นลงทุนในพลังงานทางเลือก 10% และลงทุนในต่างประเทศ 30% ของกำลังการผลิตข้างต้น ด้วยความพร้อมทางด้านเงินลงทุน ที่บริษัทฯ จะใช้เงินลงทุนประมาณ 18,000 ล้านบาท โดยเป็นเงินจากการระดมทุนจาก IPO จำนวน 10,000 ล้านบาท และจากวงเงินกู้ของบริษัทฯ ที่มีต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำอีกจำนวน 8,000 ล้านบาท และในอนาคต บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะการขยายกำลังการผลิตที่มากกว่าแผนที่วางไว้ ด้วยความมั่นใจว่า บริษัทฯ จะสามารถหาแหล่งเงินในรูปแบบการกู้ยืมเงินที่มีต้นทุนที่ต่ำได้ เพราะปัจจุบันบริษัทฯ มีงบการเงินที่แข็งแรงมาก หนี้สินต่อทุนต่ำ รวมถึงความสามารถในการชำระหนี้ที่ให้ความมั่นใจต่อผู้ให้กู้