กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--IR network
"ลีซ อิท" (LIT) กางแผนปี"59 ลุยปล่อยสินเชื่อเอสเอ็มอีครบวงจร ตั้งเป้าเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% "สมพล เอกธีรจิตต์" โชว์ฟอร์มแกร่ง! พอร์ตสินเชื่อ-รายได้-กำไร โตไม่ยั้ง สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 30% ต่อปี พร้อมแจกข่าวดีผู้ถือหุ้น! เตรียมควักตังค์จ่ายเงินปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานปี"58 หลังซดกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) (LIT) ผู้ให้บริการธุรกิจสินเชื่อทางการเงินลูกค้า SMEs แบบครบวงจร เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2559 ว่า บริษัทฯตั้งเป้าหมายสินเชื่อ รายได้ และกำไรเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ทั้งในแง่ของยอดสินเชื่อคงค้างหรือ Portfolio รายได้ และกำไรสุทธิ ตามแผน 3 ปี(พ.ศ. 2557-2559) นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดฯ โดยในส่วนของ Product สินเชื่อ Factoring หรือการรับซื้อหนี้การค้า ในปีนี้ตั้งเป้าการเติบโต 100% อยู่ที่ 8,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มียอดรับซื้อหนี้การค้าประมาณ4,000 ล้านบาท ด้วยการเร่งขยายฐานลูกค้าใหม่ เพื่อนำเสนอสินเชื่อครบวงจรให้กับลูกค้าผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยยืนจุดแข็งคือ อนุมัติเร็ว วงเงินสูง และไม่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
ส่วน Product สินเชื่อ Bid Bond หรือสินเชื่อเพื่อออกหนังสือค้ำประกันซองประมูล สำหรับ SMEs ที่ทำงานภาครัฐและต้องการเข้าร่วมประมูลงาน ลีซ อิทตั้งเป้าหมายเติบโตถึง 100% เช่นกัน เพราะจากบรรยากาศที่ภาครัฐให้ความสำคัญแก่การประมูลให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม โดยเปลี่ยนวิธีการประมูลมาใช้ E-Bidding แทน E-Auctionเดิม จะทำให้ผู้ประกอบการทั่วไปมีโอกาสเข้าแข่งขันราคาเพิ่มขึ้น ประกอบกับการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนและการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐในปีนี้ จะเป็นเครื่องจักรที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วย
ขณะที่ Product สินเชื่อ Project Backup Financing คาดว่าจะมีส่วนแบ่งรายได้ที่ 30% ของรายได้รวมเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากโปรดักท์นี้ให้ผลตอบแทนสูงแต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน ซึ่งอาจไม่เหมาะสมที่จะไปเร่งยอดเติบโตในภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่สดใสเช่นนี้
นอกจากนี้ บริษัทฯยังเร่งตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญให้ไปที่ระดับ 3% ของยอดสินเชื่อคงค้าง โดยในปี2559 ตั้งเป้าหมายการสำรองไว้ที่ 2.50% ของยอดสินเชื่อคงค้าง จากปัจจุบันที่ 2.30% ของยอดสินเชื่อคงค้าง โดยบริษัทตั้งเป้าหมายคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ที่ระดับประมาณ 2% ของพอร์ตสินเชื่อรวม
"แนวโน้มการเติบโตของสินเชื่อของบริษัทฯในปีนี้ ยังคงรักษาสัดส่วนลูกหนี้ภาครัฐราว 70% เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา เพราะในภาวะที่เศรษฐกิจดูไม่สดใส การมีหนี้ภาคเอกชนที่สูงเกินไปจะมีความเสี่ยงสูงขึ้น ซึ่งมักจะเรียกว่าเกิดภาวะหนี้อึดอัด" นายสมพลกล่าวในที่สุด
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2558 ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในช่วง 9 เดือนแรก พอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 1,162 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1,150 ล้านบาท ส่วนเครื่องชี้วัดทุกตัวไม่ว่าจะเป็นพอร์ตสินเชื่อ รายได้ และกำไร ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 มีรายได้รวม 139.66 ล้านบาท สูงกว่าตัวเลขทั้งปีของปี 2557 ที่มีรายได้รวม 128.07 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 50.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่ากำไรสุทธิทั้งปีของปี 2557 ที่มีกำไร 47.81 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงไตรมาส 4/58 แนวโน้มสินเชื่อ และรายได้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการสินเชื่อของลูกค้าเอสเอ็มอีที่มีมากขึ้น จากการเพิ่มโปรดักท์ทางการเงินของบริษัทที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างครบวงจร
ทั้งนี้ บริษัทฯเตรียมเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดไม่ต่ำกว่า 50% จากผลการดำเนินงานในปี 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งทำยอดกำไรสูงสุดนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทมา 9 ปี