กรุงเทพฯ--6 ม.ค.--ไนท์แฟรงค์
ไนท์แฟรงค์ประเทศไทยเปิดเผยว่าราคาเฉลี่ยของคอนโดมีเนียม เกรดเอ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และถนนเจริญกรุง พุ่งสูงขึ้นถึง 145,977 บาทต่อตารางเมตรในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาในขณะที่ปี 2558 อัตราการขายคอนโดมีเนียมในย่านพระราม 3 อยู่ที่ 86.5 เปอร์เซนต์ โดยมีจำนวนหน่วยที่เหลือขายเพียง 1,365 ยูนิต
คุณริษิณี สาริกบุตร ผู้อำนวยการและหัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา บริษัทไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ณ ไตรมาสที่ 3 พ.ศ. 2558 พบว่าคอนโดมิเนียมบริเวณนี้มีจำนวนหน่วยขายไปได้แล้วสูงถึง 8,781 ยูนิต จาก 10,146 ยูนิต คิดเป็นอัตราการขายที่ร้อยละ 86.5 โดยมีจำนวนหน่วยที่เหลือขายเพียง 1,365 ยูนิต ยอดขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมบริเวณนี้อยู่ที่ปีละ 1,200-1,500 ยูนิต ทั้งนี้ ในช่วงระยะเวลา 9 เดือนของปี 2558 มียอดขายเพียง 652 ยูนิต
ทั้งนี้ ระดับราคาขายโดยเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 3 อยู่ที่ประมาณ 83,000 บาท ต่อตารางเมตร ซึ่งปรับขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 3.7 ต่อปี หากโครงการตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หรือบนถนนเจริญกรุง ระดับราคาขายเฉลี่ยจะค่อนข้างสูง และมักเป็นคอนโดมิเนียมเกรดเอ โดยมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ประมาณ 145,977 บาท ต่อตารางเมตร คุณริษิณี กล่าว
คุณริษิณี อธิบายเพิ่มเติมว่า ณ ไตรมาสที่ 3 ปี 2558 พบว่ามีอุปทานรวมของคอนโดมิเนียมในบริเวณพระราม 3 ทั้งสิ้นประมาณ 10,146 ยูนิต โดย 901 ยูนิตเป็นอุปทานใหม่ ทั้งนี้ ปี 2553 มีจำนวนอุปทานที่เปิดขายสูงที่สุด หรือประมาณ 4,118 ยูนิต โดยเป็นยูนิตใหม่จากโครงการใหญ่ๆ 2 โครงการ ทั้งนี้ คอนโดมิเนียมที่เปิดขายในบริเวณพระราม 3 ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียมแบบห้องพักขนาดเล็ก แบบ 1 ห้องนอน ซึ่งระดับราคาขายอยู่ประมาณ 1.7 – 2.5 ล้านต่อยูนิต
กลุ่มผู้ซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นพนักงานที่ทำงานในบริเวณศูนย์กลางธุรกิจ โดยซื้อเพื่อเป็นที่พักอาศัย นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นคนไทยเชื้อสายจีน ที่อาศัยอยู่บริเวณถนนจันทน์ ถนนเจริญกรุง ถนนสาธุประดิษฐ์ ซึ่งซื้อคอนโดมิเนียมไว้ให้กับบุตรหลานสำหรับขยายครอบครัวในอนาคต อีกทั้งยังมีนักลงทุนที่ซื้อคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้เพื่อปล่อยเช่า คุณริษิณี กล่าว
พระราม 3 เป็นย่านที่น่าสนใจ เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์กลางธุรกิจอันได้แก่ ถนนสาทร สีลม อย่างไรก็ตาม ข้อดีของย่านพระราม 3 คือเป็นแหล่งที่ตั้งของอาคารสำนักงานใหญ่ๆ เช่น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ส่วนสนับสนุนของธนาคารกรุงเทพฯ และอาคารธนาคารกสิกร สำนักงานใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนนพระรามที่ 3 ทั้งนี้ ราคาที่ดินบริเวณนี้ไม่สูงมากนัก โดยอยู่ประมาณตารางวาละ 350,000 – 450,000 บาท นอกจากนี้ พระราม 3 ยังเอื้อต่อการเดินทางที่สะดวกโดยรถยนต์ไปยังส่วนต่างๆ ของกรุงเทพฯ อันได้แก่ บริเวณถนนสุขสวัสดิ์ อำเภอพระประแดง สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปู่เจ้าสมิงพราย เทพารักษ์ หรือถนนบางนา-ตราด ได้สะดวก โดยใช้เส้นทางสะพานภูมิพล 1 และสะพานภูมิพล 2 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนี้พระราม 3 ยังอยู่ใกล้ บางกระเจ้า ซึ่งเป็นบริเวณที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ จนกลายเป็นแหล่งผลิตโอโซนติดลำดับโลก และ ถูกขนานนามว่าเป็นปอดของกรุงเทพฯ คุณริษิณี กล่าวสรุป