โนเกียมั่นใจเพิ่มเป้าการขยายตัวของรายได้เป็น 25-35% จนถึงปี 2546

ข่าวทั่วไป Tuesday December 19, 2000 10:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--โอกีวี
มั่นใจแหล่งรายได้ใหม่และประสิทธิภาพในการประหยัดต้นทุน
โนเกียประกาศเพิ่มเป้าหมายอัตราการขยายตัวของรายได้เป็น 25-35% จากระยะเวลา 1 ปีในปี 2545 เป็น 2 ปีจนถึง 2546 เนื่องจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของผลกำไร โดยที่โนเกียคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของรายได้ในปี 2544 จะอยู่ในระดับ 25-35%
มร. จอร์มา โอลลิลา ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท โนเกีย ได้แสดงความเห็นในการประชุมประจำปีของนักวิเคราะห็ทั่วโลกของโนเกีย โดยแสดงความมั่นใจว่าโนเกียจะสามารถพัฒนาข้อได้เปรียบจากความก้าวหน้าในการพัฒนาการสื่อสารที่กำลังก้าวรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว
มร. โอลลิลากล่าวว่า "ในโลกแห่งการสื่อสารไร้สายนั้น จะมีการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ที่ดีกว่าขึ้นมาอีกในอนาคต โอกาสในอนาคตยังมีอีกมหาศาลเมื่อเราก้าวไปถึงจุดที่ความคล่องตัวในทุกด้าน อินเทอร์เน็ต สื่อดิจิทั่ล และข้อมูลสาระต่างๆ ผสานรวมกันและทุกคนได้รับประโยชน์จากการพัฒนาดังกล่าวได้ทุกที่ ทุกเวลา"
เนื่องจากจำนวนผู้ใช้ระบบการสื่อสารไร้สายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีการพัฒนาแอปพลิเคชั่น และบริการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ทำให้ปัจจัยที่เอื้อต่อการสื่อสารมากขึ้น ในฐานะผู้นำตลาดการสื่อสารไร้สายทั่วโลก โนเกียคาดว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่โนเกียพัฒนาสำหรับผู้บริโภค ผู้ให้บริการระบบ และผู้ให้บริการด้านข้อมูลเนื้อหาต่างๆ จะทำให้เกิดการสร้างสรรค์บริการต่างๆ เช่น การรับ-ส่งข้อความสั้น ภาพ บริการต่างๆ ในระบบดิจิทั่ล และแอปพลิเคชั่น เป็นต้น ซึ่งจะนำประโยชน์มากมายมาสู่โนเกีย นอกจากนี้ โนเกียยังได้ขยาย "คลับโนเกีย" ซึ่งเป็นสิทธิพิเศษที่โนเกียสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือโนเกียได้รับสิทธิประโยชน์จากโนเกียและบริการใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับการสื่อสาร ตลอดจนเป็นการสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์โนเกียในหมู่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือโนเกียอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้บริหารระดับสูงของโนเกียยังกล่าวด้วยว่า โนเกียมีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำในด้านการพาณิชย์ธุรกิจในระบบไร้สายของโลกได้ โดยที่บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายในการประหยัดต้นทุนลงมากกว่าปีละ 1 พันล้านยูโร (ประมาณ 38,800 ล้านบาท*) ในปี 2546 ซึ่งจะสามารถทำได้เมื่อโนเกียพัฒนาธุรกิจของตนให้เป็นบริษัทที่ดำเนินการด้านพาณิชย์ธุรกิจระบบไร้สายที่มีประสิทธิภาพโดยที่แหล่งรายได้ทั้งหมดมาจากมาจากช่องทางการพาณิย์ธุรกิจทั้งสิ้น
* อัตราแลกเปลี่ยน 1 ยูโร = 38.8 บาท…/2
ในด้านระบบเครือข่าย ผู้บริหารของโนเกียเชื่อมั่นว่าในอนาคต ปัจจัยหลักในการกำหนดแนวทางของตลาด จะไม่ได้อยู่ที่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี หากแต่เป็นผู้บริโภคและความต้องการของผู้บริโภค ผู้บริโภคจะต้องการระบบเครือข่ายที่ทำให้ได้รับข้อมูลและบริการได้ทุกเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ซึ่งหมายความว่าจำเป็นต้องมีการขยายระบบเครือข่ายที่มีความสามารถสูง นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งซึ่งเป็นตัวกำหนดแนวทางการพัฒนาตลาดได้แก่ ข้อมูล การเชื่อมต่อกับระบบการสื่อสาร และการใช้งานบริการเหล่านี้ โนเกียคาดการณ์ว่าตลาดเป้าหมายที่จะซื้อระบบเครือข่ายการสื่อสารจากดนเกียจะมีการเติบโตประมาณปีละ 30% ในระยะ 3 ปีข้างหน้านี้ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 90,000 ยูโร หรือประมาณ 349,200 ล้านบาทในปี 2546
ปัจจุบัน โนเกียมีความแข็งแกร่งมากในด้านระบบเครือข่าย ผู้บริหารของบริษัทฯ ได้ยืนยันถึงวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ในการรักษาความเป็นผู้นำในระบบเครือข่ายการสื่อสารไร้สายยุคที่ 3 โดยคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 35% ในระบบ WCDMA ซึ่งเป็นระบบที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานของระบบการสื่อสารไร้สายยุคที่สาม โดยที่ AT&T Wireless Services (AWS) ได้ประกาศในการประชุมเมื่อเร็วๆ นี้ ว่าจะใช้ระบบดังกล่าวเป็นมาตรฐานระบบการสื่อสารไร้สายยุคที่ 3 ในประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ โนเกียจะเป็นซัพพลายเออร์รายหลักของเทคโนโลยีระบบใหม่ของ AWS และได้มีการจัดทำหนังสือแสดงเจตน์จำนงระหว่างทั้งสองบริษัทเรียบร้อยแล้ว โดยสัญญาดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านเหรียญ และครอบคลุมระยะเวลา 4 ปี ซึ่งสัญญาดังกล่าวจะเป็นสัญญาการส่งมอบระบบเครือข่ายพื้นฐานที่มีมูลค่าสูงสุดที่โนเกียเคยได้รับมาก
สำหรับธุรกิจเครื่องโทรศัพท์มือถือนั้น อัตราการขยายตัวของกลุ่มธุรกิจดังกล่าวภายใต้โนเกียอยู่ในอัตราที่สูงกว่าอัตราการขยายตัวของตลาด โนเกียเชื่อว่าบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดในตลาดนี้มากกว่า 30% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าส่วนแบ่งการตลาดของคู่แข่งที่ใหญ่ที่สุดรองลงไปถึง 2 เท่าตัว และข้อได้เปรียบของ economies of scale จะทำให้โนเกียสามารถรักษาความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งในธุรกิจโทรศัพท์มือถือต่อไป
พร้อมกันนี้ โนเกียยังคาดการณ์ว่าจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือจะเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้เดิม โดยจะมีจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลกถึง 1 พันล้านคนภายในครึ่งปีแรกของปี 2545 แทนที่จะเป็นปลายปี 2545 ตามที่คาดการณ์ไว้แต่เดิม
นอกจากนี้ ยังประเมินว่าโทรศัพท์มือถือที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้จะมีจำนวนมากกว่าจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลประมาณต้นปี 2545 แทนที่จะเป็นปี 2546 ตามที่คาดการณ์ไว้เดิม โนเกียคาดว่าโทรศัพท์มือถือที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้จะมีจำนวน 60 ล้านเครื่องในปี 2543 นี้ โดยที่ประมาณ 40 ล้านเครื่องในจำนวนนี้จะเป็นโทรศัพท์มือถือระบบ WAP และคาดว่าในปี 2544 ปริมาณโทรศัพท์มือถือที่ต่ออินเทอร์เน็ตได้จะมีจำนวนสูงถึง 200 ล้านเครื่อง โดยที่ประมาณ 180 ล้านเครื่องจะเป็นโทรศัพท์มือถือในระบบ WAP
ในตลาดโทรศัพท์มือถือทดแทนเครื่องเก่านั้น โนเกียคาดว่าจะยังคงมีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยที่อัตราส่วนระหว่างจำนวนผู้ที่ซื้อเครื่องใหม่ครั้งแรกและจำนวนผู้ที่ซื้อเครื่องทดแทนเครื่องเดิมจะแตกต่างจากเดิม โดยคาดว่าประมาณ 40-50% ของผู้ที่ซื้อในปีนี้จะเป็นผู้ใช้โทรศัพท์ที่ต้องการอัพเกรดโทรศัพท์มือถือที่มีอยู่เดิมและจำนวนผู้ซื้อในกลุ่มนี้นี้จะเพิ่มเป็น 70-80% ในปีต่อๆ ไป โนเกียเชื่อว่าหลักเกณฑ์ของผู้บริโภคในการอัพเกรดเครื่องจะมีความหลากหลายมาก คาดว่าภายในสิ้นปี 2543 จะมีผู้เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือทั่วโลกอยู่ถึง 700 ล้านคน โดยที่ส่วนใหญ่จะตัดสินใจซื้อโดยคำนึงถึงรูปลักษณ์และความสอดคล้องต่อวิถีการดำเนินชีวิตมากกว่าจะคำนึงถึงแต่เฉพาะเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว
ขณะเดียวกัน โนเกียได้ประกาศกลยุทธ์เพื่อการเป็นผู้นำในตลาดโทรศัพท์มือถือระบบ CDMA โดยได้เริ่มนำโทรศัพท์มือถือ โนเกีย 5185i แบบสามระบบ หรือ Tri-mode (CDMA1900/800/AMPS) ออกวางตลาดแล้ว และในปี 2544 จะมีการนำโทรศัพท์มือถือใหม่อีกหลายรุ่นออกวางตลาดทั่วโลกรวมถึงประเทศเกาหลี โนเกียยังได้ประกาศว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่สำหรับกลุ่มเทรนด์เซ็ตเตอร์ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
นอกจากนี้ โนเกียยังได้เปิดตัว Nokia Connectivity Pack ซึ่งเป็นโซลูชั่นเทคโนโลยีบลูทูธ (Bluetooth) เพื่อการชื่อมต่อไร้สายที่แท้จริงระหว่างอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ ชุดโซลูชั่นดังกล่าวพัฒนาขึ้นเพื่อสนับสนุนโทรศัพท์มือถือโนเกีย 6210 โดยเฉพาะและจะวางจำหน่ายทั่วไปในยุโรป เอเชีย ในไตรมาสแรก ปี 2544
พร้อมกันนี้ โนเกียได้ประกาศการประมาณการด้านการเงินของ Nokia Internet Communications ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งภายใต้กลุ่ม Nokia Ventures Organisation ซึ่งรับผิดชอบในการหาช่องทางธุรกิจใหม่นอกเหนือจากกลุ่มธุรกิจเดิมของโนเกีย โดยกล่าวว่าธุรกิจด้านระบบความปลอดภัยของระบบเครือข่ายและโซลูชั่น virtual Private Network กำลังมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว รายได้ของ Nokia Internet Communications คาดว่าจะสูงเกิน 500 ล้านยูโร หรือประมาณ 19,400 ล้านบาท* ในปี 2544 โดยมีอัตราการขยายตัวประมาณปีละ 50% เป็นอย่างน้อย และ Nokia Internet Communications จะสามารถถึงจุดคุ้มทุนได้ภายในปี 2545* อัตราแลกเปลี่ยน 1 ยูโร = 38.8 บาท…/4- 4 -
ทั้งนี้ ในปี 2544 บริษัทฯ ได้กำหนดวันที่จะแถลงผลการดำเนินงานในช่วงต่างๆ ดังนี้ คือผลการดำเนินงานในไตรมาสแรก วันที่ 20 เมษายน 2544ผลการดำเนินงานในไตรมาสสอง วันที่ 19 กรกฎาคม 2544ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่สาม วันที่ 19 ตุลาคม 2544และผลการดำเนินงานปี 2543 จะประกาศในวันที่ 30 มกราคม 2544 ตามที่กำหนดไว้แต่เดิม
ข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารนี้ ที่ไม่ใช่ข้อมูลตัวเลขเก่าหรือที่เคยประกาศไว้แล้วทุกประการเป็นการคาดการณ์ทั้งสิ้น ข้อมูลดังกล่าวได้แก่1) กำหนดการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่2) ความสามารถของบริษัทฯ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่3) การตาดการณ์ที่เกี่ยวกับการขยายตัวและความก้าวหน้าของตลาด4) การคาดการณ์เกี่ยวกับการขยายตัวและผลกำไร5) และข้อความที่มีคำว่า "เชื่อว่า" "คาดว่า" "ประมาณการณ์ว่า" "ประเมินว่า" หรือคำอื่นที่มีความหมายใกล้เคียง
ทั้งนี้ เนื่องจากข้อความดังกล่าวล้วนมีความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และผลที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างไปจากที่คาดการณ์ไว้ในที่นี้ ตัวอย่างปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดความแตกต่างได้แก่1) เงื่อนไขด้านเศรษฐกิจ เช่น อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในตลาดที่สำคัญที่โนเกียดำเนินธุรกิจอยู่ การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และการที่ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง2) เงื่อนไขด้านอุตสาหกรรมการสื่อสาร เช่น อุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์ สภาพการแข่งขัน แรงกดดันด้านราคา การยอมรับผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น โทรศัพท์มือถือที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ เป็นต้น การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของคู่แข่งขัน ผลจากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี รวมถึงความสำเร็จของโนเกียในด้านการพัฒนาตลาดเทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายยุคที่สาม ความสามารถของโนเกียในการหาแหล่งทรัพยากรในราคาที่เหมาะสมและมีปริมาณตามที่ต้องการ ปริมาณความต้องการด้านบริการเกี่ยวกับการเงินของคู่ค้า และความสามารถของโนเกียในการให้บริการดังกล่าว ตลอดจนความสำเร็จแลฐานะทางการเงินของลูกค้าและพันธมิตรของโนเกีย3) เงื่อนไขด้านการดำเนินงาน เช่น ความสำเร็จในการผลิต ประสิทธิภาพ ความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และความเสี่ยงด้านสินค้าคงคลังที่อาจเกิดจากอุปสงค์ในตลาดเปลี่ยนแปลง และ4) ความเสี่ยงตามเอกสารหมายเลข 20-F หน้า 21-23 เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2542
โนเกีย เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการสื่อสารไร้สายในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเป็นผู้พัฒนาและจำหน่ายเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศต่างๆ ประมาณ 30 ประเทศ ทั่วภูมิภาค
โนเกีย กำลังก้าวสู่สังคมการสื่อสารไร้สายเต็มรูปแบบด้วยผลิตภัณฑ์อุปกรณ์และโซลูชั่นการสื่อสารที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์ โนเกียเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นผู้นำในการผลิตระบบเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ โทรศัพท์พื้นฐาน และเครือข่ายไอพี รวมทั้งบริการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคอมพิวเตอร์ระบบมัลติมีเดีย ในปี 2542 มียอดขายสุทธิ 19,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 19,800 ล้าน ยูโร โนเกีย ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ฟินแลนด์ เป็นบริษัทจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์ 5 แห่งของ ยุโรป คือ เฮลซิงกิ, สต็อกโฮล์ม, ลอนดอน, ปารีส และแฟรงค์เฟิร์ต รวมทั้ง ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค (NYSE) โดยมีพนักงานกว่า 60,000 คนทั่วโลก
ผู้สนใจสามารถชมเว็บไซต์ กลุ่มบริษัทโนเกีย ที่ http://www.nokia.com หรือเว็บไซต์ โนเกีย เอเชีย แปซิฟิก ที่ http://nokia-asia.com
แถลงข่าวในนาม : บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด
รายละเอียดเพิ่มเติม : ยุวนา ลิ้มวัฒนะกูร
ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด - โนเกีย โมบาย โฟน โทร. 640-7020 ต่อ 1909
วันที่ : 18 ธันวาคม 2543--จบ--
-ยก-

แท็ก โนเกีย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ