เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) กำไร 308 ล้านบาท ในปี 2543

ข่าวทั่วไป Tuesday March 20, 2001 14:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--เซ็นทรัลพัฒนา
เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) กำไร 308 ล้านบาท ในปี 2543 แม้กำไรจากการประกอบ การปกติจะเพิ่มขึ้นถึง 24% แต่ขาดทุน
จากอัตราแลกเปลี่ยน และสำรองเผื่อผลขาดทุน จากการ ด้อยค่าสินทรัพย์ ทำให้กำไรลดลง ขณะเดียวกันเตรียมออกหุ้นกู้ ในประเทศเพื่อทดแทน
หุ้นกู้ต่างประเทศที่จะครบ กำหนดชำระ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เจ้าของและผู้บริหาร ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ได้ประกาศผล ประกอบการประจำปี 2543
โดยรายได้หลักของบริษัท ซึ่งประกอบด้วย รายได้ค่าเช่าและค่าบริการ จากพื้นที่ในศูนย์การค้า และรายได้จากการขายอาหาร และเครื่องดื่ม
มีจำนวนรวม 2,620.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.7% จากปี 2542 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการ ให้เช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นจากศูนย์การค้า เซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว,
รัชดา-พระราม3 , ปิ่นเกล้า และพัทยา โดยเฉพาะที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา รัชดา-พระราม 3 ซึ่งเป็นศูนย์ใหม่มี อัตราการเช่าเพิ่มขึ้นเป็น
90% แล้ว และบริษัทฯ ได้พัฒนาและ ปรับปรุงโครงการที่ช่วยให้รายได้ ของบริษัทได้เพิ่มขึ้น อาทิ การพัฒนาพื้นที่ขนาดเล็ก ให้เช่าได้แก่ "XY ARENA"
ที่ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา รัชดา - พระราม 3, "XY MARINA" ที่ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เซ็นเตอร์ พัทยา และ
" Junction X " ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ต พลาซา เชียงใหม่ เป็นต้น การปรับปรุงพื้นที่ ศูนย์อาหารบริเวณ ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล
พลาซา ลาดพร้าว ให้เป็นศูนย์รวมร้านอาหาร รูปแบบใหม่ภายใต้ชื่อ "Food Village"
การก่อสร้างอาคารจอดรถของ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ต พลาซา เชียงใหม่ เสร็จสมบูรณ์แล้ว และได้ย้ายศูนย์อาหารจากชั้น 1
ไปยัง ชั้น 4 บนอาคารจอดรถ นอกจากนี้ บริษัท ได้มีการเปิด โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ แอร์พอร์ต พลาซา ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเป็นการ
เพิ่มรายได้ค่าเช่า และช่วยให้มีลูกค้า เข้ามาใช้บริการ ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ต พลาซา เชียงใหม่ มากขึ้น
หากพิจารณาผลกำไร จากการดำเนินงาน ของบริษัทฯ จะพบว่าเพิ่มขึ้นจากปี ก่อนถึง 24.2% นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น
ได้แก่ กำไรจากการ ขายเงินลงทุนใน "Starbucks" แต่เมื่อหัก ผลขาดทุนจาก อัตราแลกเปลี่ยน จำนวน 222 ล้านบาทและ สำรองเผื่อผลขาดทุน
จากการด้อยค่าของ สินทรัพย์เป็นเงินรวม 182 ล้านบาทแล้ว กำไรสุทธิรวมของบริษัท ฯ คงเหลือ 308 ล้านบาท ลดลง 16.4% จากปีก่อน
นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่ากำไรสุทธิ ของบริษัทฯ ในปีนี้จะลดต่ำลง แต่หากพิจารณา
ประสิทธิภาพจาก การดำเนินงานที่แท้จริงแล้ว บริษัทฯ มีความสามารถ ในการทำกำไรอย่าง สม่ำเสมอมาโดยตลอด และในปีนี้หุ้นกู้แปลงสภาพ
ก็จะครบกำหนดชำระใน เดือนเมษายน ทำให้บริษัทไม่มีความเสี่ยง เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนอีกต่อไป รวมทั้งได้ตั้งสำรอง เผื่อ ผลการขาดทุน
ในการด้อยค่าของสินทรัพย์ไว้ครบถ้วนแล้ว คงไม่มีภาระในการตั้งสำรองเพิ่มอีก จึงเชื่อว่าผลกำไรของบริษัท จะเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
ในระยะยาว และเร็วๆ นี้บริษัทมีแผนที่ จะออกหุ้นกู้ในประเทศ เพื่อมาทดแทนหุ้นกู้ แปลงสภาพที่ จะครบกำหนด ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับการ
สนับสนุนจากนักลงทุนสถาบัน ด้วยดีเช่นเดิม เพราะชื่อเสียงและ เครดิตของบริษัท รวมทั้งความแข็งแกร่งของฐานะ การเงิน และกระแสเงินสด
เป็นที่ยอมรับกันโดย ทั่วไปอยู่แล้ว
รายการ งบกำไร-ขาดทุนรวม (ล้านบาท) % เพิ่มขึ้น (ลดลง)
2543 2542
รายได้ค่าเช่า ค่าบริการ อาหารและเครื่องดื่ม 2,620.50 2,410.20 8.70%
กำไรขั้นต้น 1,314.50 1,162.20 13.10%
รายได้อื่น 106.6 100.8 5.80%
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน -334.4 -329.6 1.40%
กำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ย 1,086.80 933.4 16.40%
ดอกเบี้ยรับ 81.7 33.8 142.00%
ดอกเบี้ยจ่าย -368.6 -323.1 14.10%
กำไรจากการดำเนินงาน 799.9 644 24.20%
กำไรจากการซื้อคืนหุ้นกู้แปลงสภาพ 24.7 56.2 -56.00%
กำไร(ขาดทุน)จากอัตราแลกเปลี่ยน -221.8 -35.9 517.70%
กำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุน 81.7 0 0.00%
สำรองผลขาดทุนต่าง ๆ -181.9 -110 65.30%
กำไรก่อนภาษีเงินได้ 502.7 554.3 -9.30%
ภาษีเงินได้ -212.8 -183.8 15.80%
กำไรหลังภาษีเงินได้ 289.9 370.5 -21.80%
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 18.6 -1.6 1254.70%
กำไรสุทธิ 308.5 368.9 -16.40%
กำไรต่อหุ้น (บาทต่อหุ้น) 3.08 3.69
--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ