กรุงเทพฯ--11 ม.ค.--ไอเดียเวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์
บริษัทซีเอเทคโนโลยีเผย5 เทคโนโลยีสำคัญที่จะก้าวผลักดันวงการธุรกิจและไอทีในปี 2016 ในยุคที่ซอฟต์แวร์เป็นหัวใจของธุรกิจองค์กร บริษัทต่างๆกำลัง เปลี่ยนผ่านสู่การรองรับการใช้งานด้าน ดิจิตอลที่ยืดหยุ่นและเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะผลักดันนวัตกรรม การสร้างสรรค์สู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว เน้นระบบการรักษาความปลอดภัย
"หากจะก้าวโตและอยู่รอดได้ในปี 2016 และในอนาคตข้างหน้า ธุรกิจต่างๆจะต้องรีบปรับรับมือการเปลี่ยนผ่านดิจิตอลอย่างรวดเร็ว หนึ่งในหัวใจหลักสำคัญที่เป็นเรื่องเร่งด่วน ได้แก่การก่อตั้งของ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community - AEC) และ ความต้องการด้านต่างๆที่จะรองรับเศรษฐกิจยุคแอพพลิเคชั่น" นิค ลิม รองประธาน ประจำภูมิภาคเอเชียเซาธ์ บริษัทซีเอเทคโนโลยีเผย
การเปิดตัว AEC จะเปิดโอกาสให้ก้าวเข้าสู่ตลาดใหม่ที่กว้างขึ้นของผู้คนกว่า 630 ล้านคน แต่ในอีกด้านก็หมายความว่าจะมีการแข่งขันเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน และยังต้องเจาะตลาดกลุ่มประชากรทั้งหมดที่ราวครึ่งนึงอายุต่ำกว่า 30 เป็นคนรุ่นใหม่ที่ เข้าถึงแบรนด์ต่างๆผ่านแอพพ์ และไม่ต้องอดทนหรือเสียเวลารอระบบล่มอีกต่อไป
"บริษัทระดับเอนเทอร์ไพรซ์ในเอเชียจะต้องจัดการเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องรับมือในการเปลี่ยนผ่านสู่เส้นทางดิจิตอล เพื่อที่จะอยู่รอดได้ในการแข่งขันสูงของยุคเศรษฐกิจแอพพลิเคชั่น ในทุกวันนี้ ที่ธุรกิจจะต้องปรับตัวอย่างยืดหยุ่น เพื่อรักษาจังหวะเร่งให้รองรับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา" ลิมกล่าว
ในเรื่องนี้ทางซีเอ เทคโนโลยี ได้คาดการณ์ว่าจะมี 5 กระแสใหม่ ที่จะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินธุรกิจ และงานไอที ตลอดจนการพัฒนาแอพพลิเคชั่นต่างๆรวมทั้งการบริหารจัดการข้อมูล ได้แก่เรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้:
1 การใช้ระบบคอนเทนเนอร์ซอฟต์แวร์เพื่อรองรับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่ยืดหยุ่น และพร้อมปรับขยายให้โตตามการใช้งาน
ในปี 2016 จะเป็นปีที่องค์กรธุรกิจต่างๆ จะต้องรับมือกับความซับซ้อน ในการใช้งานระบบไอที ในทุกระดับด้วยการใช้ software container และ micro service เพื่อที่จะ ทำให้โครงสร้างสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ที่ใช้งานในปัจจุบันรวมทั้งกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นไปได้อย่างง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยเทคโนโลยีคอนเทนเนอร์ กำลังจะกำหนดทิศทางในอนาคตของมาตรฐานการพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่จะทำให้นักพัฒนาระบบที่ต้องการจะย้ายแอพพลิเคชั่นจากระบบหนึ่งไปยังอีกระบบหนึ่ง ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ทางด้านmicro service ก็จะช่วยให้มีเซอร์วิสของระบบขนาดเล็ก ที่นำไปติดตั้งใช้งานได้โดยแยกอิสระ สามารถนำเสนอฟีเจอร์การใช้งานใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องรออัพเกรดพร้อมกับแอพพลิเคชั่นในเวอร์ชั่นใหม่
เทคโนโลยีต่างๆเหล่านี้จะเปลี่ยนโฉมหน้า วิธีการ สร้าง ติดตั้งอัพเดทแอพพลิเคชั่นต่างๆอย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้ไปอย่างสิ้นเชิงและ จะเป็นการตอบสนองอย่างดี ต่อองค์กรต่างๆที่เน้นโฟกัสไปด้านการบริหารจัดการอย่างยืดหยุ่นและการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและความต้องการต่างๆของตลาดอย่างรวดเร็ว
2 การรักษาความปลอดภัยอย่างยืดหยุ่นกำลังจะมีบทบาทสำคัญ
ต่อไปนี้ งานรักษาความปลอดภัยในแอพพลิเคชั่นจะไม่ใช่ส่วนเสริมที่ใส่เข้ามาในภายหลัง แต่จะต้องผนึกเข้าไปในทุกแง่มุมของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบการพัฒนา และการนำเอาไปติดตั้งใช้งานแอพพลิเคชั่น การเร่งมือพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ออกมาอย่างรวดเร็วจะมีผลข้างเคียงที่ จะต้องมีการรักษาความปลอดภัยลงในทุกระดับขั้นพื้นฐาน ของทุกโปรเจกต์ ในทุกขั้นตอนการพัฒนา นอกจากนี้ผลกระทบของปัญหาการเจาะระบบที่มีในทุกวันนี้ รวมทั้งผลกระทบทางการเงินที่มีติดตาม ตลอดจน ความสนใจในวงกว้างจากสาธารณชนกับปัญหานี้ จะทำให้งานรักษาความปลอดภัยก้าวขึ้นมามีบทบาทนำในที่สุด
สำหรับในปี 2016 นี้ ทุกประเด็นจะมุ่งไปที่ไอเดียใหม่ ในเรื่อง "การรักษาความปลอดภัยอย่างยืดหยุ่น" ที่จะนำเอาการรักษาความปลอดภัยมาใช้งานตั้งแต่ต้น โดยนำเข้ามาใช้กับแนวคิด DevOps และการบริหารจัดการอย่างยืดหยุ่นอื่นๆ เพื่อเป็นการรองรับการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างรวดเร็ว ในทุกระดับและขนาดของโปรเจกต์ซอฟต์แวร์
ในเรื่องนี้เมื่อรวมเข้ากับโปรแกรมทูลที่ตรงตามการใช้งานแล้ว ระบบ APIs จะช่วยแก้ปัญหาที่ท้าทายของนักพัฒนาระบบซอฟแวร์ ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น รวมทั้งขยายผลของการปรับกระบวนการ ขั้นตอนต่างๆให้ยืดหยุ่นและนำไปสู่ ความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในการใช้งานซึ่งเป็นหัวใจหลักของ ประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าโดยรวมที่ดี ดังนั้น เทคโนโลยีการรักษาความปลอดภัยสมัยใหม่และกรรมวิธีรูปแบบในการพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่ๆ จะช่วยเร่งและนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม แอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่จะนำเอาการรักษาความปลอดภัย มาใช้งานทั้งในส่วนของข้อมูลที่มีความสำคัญไปจนถึงระบบสำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
3 ข้อมูลวิเคราะห์มีในทุกระดับเพื่อพัฒนาการใช้งานที่รองรับความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาข้อมูลการวิเคราะห์ได้พัฒนาไปไกลจากเดิมแค่ระบบวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ ไปสู่ ข้อมูลการทำธุรกรรมและบิ๊กดาต้า ซึ่งในที่สุดข้อมูลวิเคราะห์ในแบบเรียลไทม์ จะช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพการใช้งานของลูกค้า โดยการ เชื่อมโยงเข้ากับการคาดการณ์ความต้องการของลูกค้า และ การดำเนินงานต่างๆที่จะรองรับการใช้งานนั้นได้ล่วงหน้า จะกลายมาเป็นมาตรฐานใหม่ของข้อมูลวิเคราะห์ในยุคปัจจุบัน
ในปี 2016 จะเป็นยุคใหม่ที่ แนวคิดการทำตลาดแบบปรับแต่งให้เข้าเฉพาะเจาะความต้องการแต่ละตัวบุคคล จะช่วยให้องค์กรต่างๆทางธุรกิจ สามารถปรับแต่งเซอร์วิสต่างๆ การตั้งราคา งานขายและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ในแบบเรียลไทม์ทันทีสำหรับ "ตัวลูกค้าแต่ละราย" แทนที่จะแบ่งเป็นเซกเมนต์ทางการตลาดขนาดใหญ่แบบเมื่อก่อน ซึ่งทั้งหมดนี้ จะเกิดขึ้นได้ด้วยการใช้งานโปรแกรมทูลด้านการวิเคราะห์ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมายในปัจจุบันและเทคนิคต่างๆ ที่จะเจาะลึกให้เข้าถึงความต้องการ และของตัวลูกค้า
ระบบงานวิเคราะห์ข้อมูลจะยังช่วยผลักดันการใช้งานที่ดีกว่าสำหรับลูกค้า โดยนำเอาเรื่องงานรักษาความปลอดภัยที่จะปกป้องตัวลูกค้าเองให้อยู่ในระดับเบื้องหลังการทำงาน เทคนิคในการวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ๆจะนำรูปแบบของพฤติกรรม และกลไกการเรียนรู้มาช่วยแยกแยะลูกค้าจริงออกจากแฮกเกอร์ที่ปลอมตัวมา และ ช่วยให้การทำธุรกรรมและประสบการณ์การใช้งานต่างๆเป็นไปอย่างสะดวกและราบรื่น
อย่างไรก็ตามงานวิเคราะห์ข้อมูลจะเป็นประโยชน์อย่างแท้จริงเมื่อนำเอาไปใช้กับปัญหาเฉพาะด้าน ไม่ใช่เอาไปวิเคราะห์ภาพรวมในวงกว้าง ในแง่นี้ ระบบวิเคราะห์แบบเก่า ที่วิเคราะห์ข้อมูลตลอดเวลาเพื่อมองหาเข็มในมหาสมุทรจะกลายเป็นเรื่องอดีตไป ในขณะที่อนาคตข้างหน้าการวิเคราะห์จะไม่ใช่การแก้ปัญหาสำหรับทุกเรื่อง แต่จะเป็นการแก้ปัญหาส่วนย่อยของภาพรวม
4 Internet of Things (IoT) จะเปลี่ยนจากแนวคิดมาสู่การใช้งานในโลกแห่งความเป็นจริง
ถึงแม้จะ Internet of Things (IoT) จะเป็น หัวใจหลักของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิตอล และมีศักยภาพในด้านต่างๆมากมาย แต่แนวคิดนี้ก็ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น โดยต่อไประบบวิเคราะห์ข้อมูลและการรักษาความปลอดภัย คือกุญแจสำคัญที่จะเปิดผนึกเอา นำเอาแนวคิดนี้ มาสู่โลกความเป็นจริงและ ใช้ประโยชน์สูงสุด
โลกใหม่ที่มีการใช้อุปกรณ์ต่างๆมากมายในยุค Internet of Things (IoT) ทำให้ ระบบไอที มีความซับซ้อนหลายชั้นหลายขั้นตอนทำให้เสี่ยงต่อการถูกโจมตี จากจุดต่างๆมากกว่าที่เคยเป็น รวมทั้งยังสร้างปัญหาในการใช้งานที่ขัดแย้งกันของแต่ละอุปกรณ์ ถ้าวัดกันเฉพาะแนวคิดแล้ว เรื่องของ Internet of Things (IoT) คือคลื่นลูกใหม่ที่น่าสนใจ แต่ให้มองให้ลึกลงไปยังมีความซับซ้อนต่างๆมากมายที่จะต้อง มาประเมินคาดการณ์และทำความเข้าใจกันใหม่อีกเยอะ
ในขณะที่กระแส Internet of Things (IoT) กำลังก้าวเข้าสู่กระแสหลักความสนใจในปี 2016 ปัญหาที่จะตามมาก็คือ "ไอดี" ที่จะกำหนด ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมโยงกัน จะกลายเป็นเรื่องหลักที่อยู่ในความสนใจ เพราะเช่นเดียวกันกับตัวยูสเซอร์ที่ใช้งานระบบจะต้องมี "ไอดี" เพื่อพิสูจน์ยืนยันการใช้งานระบบของอุปกรณ์ต่างๆและกระแสข้อมูลที่ไหลผ่านจะต้องมี "ไอดี" เช่นกันเพื่อเอาไว้ใช้ยืนยันและตรวจสอบ ดังนั้น โปรแกรมทูลต่างๆอย่างเช่น IAM หรือ identity and access management ที่ใช้ตรวจสอบไอดีและการเข้าใช้งาน หรือตารางการตอบสนอง ของ IoT ที่จะทำงานคล้ายกับ ตารางยา ที่ตั้งดอกเตอร์และเภสัชกร ใช้กับการให้ยากับคนไข้ จะจำเป็นเพื่อที่จะทำให้มั่นใจว่า ยูสเซอร์ที่กำลังใช้งาน สามารถใช้งานได้กับวัสดุอุปกรณ์ที่ถูกต้องอย่างแท้จริง ไม่ขัดแย้งหรือส่งผลลบหรือซ้ำซ้อนกันในภายใต้สภาพแวดล้อมการใช้งานจริงของระบบ
ในยุคที่ตัววัดตรวจจับ Internet of Things (IoT) และอุปกรณ์สมาร์ทต่างๆ มีใช้งานกันมากขึ้นและมีปฏิสัมพันธ์กับตัวเราในเรื่องสำคัญต่างๆอย่างเช่น ด้านสุขภาพ และการใช้งานที่เกี่ยวกับรถยนต์ จะช่วยให้ ประสบการณ์การใช้งานของลูกค้ามีการพัฒนาที่ดีขึ้นหรือแม้กระทั่งช่วยชีวิตเราได้ในอนาคต
5 แนวคิด Blockchain จะเริ่มมีที่ทางของตัวเอง
อีกเรื่องที่จะสุดเซอร์ไพรส์ของปี 2016 ก็คือการกลับมาอีกครั้งของเทคโนโลยี Blockchain และการพัฒนาใหม่ไปสู่จุดที่เราสามารถหาที่ทาง และจุดยืนใหม่ที่นอกไปจากการใช้งานการทำธุรกรรม Bitcoin
เทคโนโลยี Blockchain คือคีย์เวิร์ดสำคัญสำหรับบริษัทสตาร์ตอัพหน้าใหม่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาและกำลังจะเปลี่ยนโฉมแนวคิดใหม่เมื่อมองดูพร้อมกับกระแสการเพิ่มขึ้นของอุปกรร์ที่ใช้แนวคิด Internet of Things (IoT) ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการจัดการดูแลอย่างมีการรักษาความปลอดภัยระหว่างอุปกรณ์ต่างๆและความจำเป็นที่จะต้องบันทึกข้อมูลดาต้าเบสการติดต่อต่างๆเหล่านั้น ทำให้เทคโนโลยีอย่างเช่น Blockchain ที่ความเป็นส่วนบุคคลเป็นหัวใจสำคัญจะกลายมาเป็นตัวช่วยสำคัญของการใช้งาน Internet of Things (IoT)และ การเปลี่ยนผ่านทางดิจิตอลขององค์กรธุรกิจต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้ลดขั้นตอนระบบการทำงานให้เรียบง่ายขึ้น มีการยืดหยุ่นที่สูงขึ้นรวมทั้งการตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีบล็อกเชนยังจะต้องเอาชนะปัญหาการที่ถูกมองว่า เกี่ยวพันกับเรื่องของเงิน Bitcoin ที่มีชื่อเสียงไม่สู้ดีนัก แต่อย่างไรก็ตามศักยภาพและขีดความสามารถที่มีอยู่นี้ จะกลายเป็น ตัว สตอเรจที่น่าสนใจสำหรับเซ็นเซอร์ต่างๆและอุปกรณ์ Internet of Things โดยทั่วไป
ซอฟต์แวร์คือตัวแทนของการเปลี่ยนแปลง
ธุรกิจต่างๆจะมีโอกาสสำคัญในปี 2016 ที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้เกินความคาดหมายในทุกระดับด้วยการทำธุรกิจที่เน้นการบริหารจัดการที่ยืดหยุ่นและการเปลี่ยนผ่านการทำงานของบริษัทไปสู่ยุคดิจิตอล ไม่ว่าด้วยเทคโนโลยีทั้ง 5 อย่างนี้หรืออื่นๆ ก็ตาม หัวใจสำคัญของความสำเร็จคือการหาพาร์ตเนอร์ที่มีประสบการณ์ในการทำงานกับระบบความซับซ้อนและความหลากหลาย ในทุกระดับการใช้งานไม่ว่าเล็กหรือใหญ่
ไอเดียทางธุรกิจเหล่านี้ ที่นำมาสู่ความเป็นจริงในปัจจุบัน เคยถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่เคยคาดฝันมาก่อนในอดีตเมื่อ 5 ปีที่แล้ว และจะกำหนดตัวผู้ชนะในอนาคตและทั้งหมดนี้สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยการมองว่าซอฟต์แวร์คือตัวแปรสำคัญของการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่นั่นเอง
เกี่ยวกับ ซีเอ เทคโนโลยี
ซีเอ เทคโนโลยี (NASDAQ: CA) เป็นผู้จัดหาโซลูชั่นเพื่อการบริหารจัดการไอที ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถจัดการและรักษาความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมของระบบไอทีที่ซับซ้อนเพื่อรองรับการให้บริการธุรกิจได้อย่างคล่องตัว ทั้งนี้ องค์กรต่างๆ ใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์และโซลูชั่นในกลุ่ม SaaS ของซีเอ เทคโนโลยี เพื่อสร้างนวัตกรรม ปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและอัตลักษณ์ต่างๆ นับตั้งแต่ระดับดาต้าเซ็นเตอร์ไปจนถึงระบบคลาวด์ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซีเอ เทคโนโลยี ได้ที่ www.ca.com