กรุงเทพฯ--11 ม.ค.--บ้านพีอาร์
นักลงทุนเทรด DW คึกคักตลอดปี 58 หนุนวอลุ่มนิวไฮ เทรดสนั่น SET50 สูงสุดรับตลาดขาลง ฟากหุ้น PTT,ITD,TPIPL,TRUE ยอดฮิต ด้านหลักทรัพย์บัวหลวงยังครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 5 ปีติด ประเดิมส่ง 6 ตัวใหม่อ้างอิง CHG, EPG, PTG, TASCO, VNG เข้าซื้อขาย 12 ม.ค.นี้ พร้อมแนะกลยุทธ์เทรด DW ช่วงตลาดขาลง ถัวเฉลี่ยต้นทุนเสียหายหนัก
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมการซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant : DW) ในปี 2558 คิดเป็นสัดส่วนต่อปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งระบบอยู่ที่ 3.4% สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2552 ที่มีการเสนอขาย DW ครั้งแรกในประเทศไทย เนื่องจากภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นมีความผันผวนสูง นักลงทุนจึงเข้ามาเก็งกำไร DW หนาแน่นขึ้น โดยมีการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกอยู่ในกลุ่มดัชนีตลาดหลักทรัพย์สัดส่วน 35.8% กลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร 14.6% กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค 14.5% ส่วนหลักทรัพย์อ้างอิงที่ได้รับความนิยมสูงสุดอ้างอิงดัชนี SET50 มีสัดส่วนการซื้อขายสูงถึง35.7% รองลงมาหุ้น PTT,ITD, TPIPL และ TRUE โดยมีการซื้อขายจำนวนมากใน DW ประเภท Put สอดคล้องกับดัชนี SET50 ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2558
สำหรับตลาดหุ้นไทยในปี 2558 ที่ผ่านมา ดัชนีลดลง 14% มาปิดที่ 1,288.02 จุด โดย 2 เดือนแรกตลาดได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรปและการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หนุนให้ดัชนีทำนิวไฮในรอบ 21 เดือนแตะระดับ 1,619 จุด โดยช่วงเวลานั้นนักลงทุนได้เข้าเก็งกำไร Call DW ในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับกระแสฟันด์โฟลว์ไหลเข้า หลังจากนั้นไปถึงเดือนสิงหาคมดัชนีเริ่มปรับตัวลงไปในทางเดียวกับตลาดเอเชียหลังผลประกอบการไตรมาส 1/2558 ออกมาต่ำกว่าคาดและมีการพบผู้ติดเชื้อหวัดเมอร์สในไทย ปัญหาภัยแล้ง รวมถึงเหตุระเบิดที่ราชประสงค์ นักลงทุนจึงเข้ามาเก็งกำไร Put DW ที่อิงหุ้นธนาคาร กลุ่มโรงแรมและท่องเที่ยว ช่วงปลายปีดัชนีกลับมาผันผวนอย่างหนักจากความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในเดือนธันวาคม รวมทั้งราคาน้ำมันดิบลดลงต่อเนื่องแตะจุดต่ำสุดในรอบ 7 ปี กรณีตุรกียิงเครื่องบินรบของรัสเซียตกซึ่งสร้างความกังวลให้นักลงทุน รวมถึงการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 และ 1,800 เมกกะเฮิร์ตที่แข่งขันราคาอย่างดุเดือด จึงมีแรงเก็งกำไรเข้ามาใน Put DWหุ้นพลังงานและปิโตรเคมี กลุ่มท่องเที่ยวและสื่อสารจำนวนมาก
ขณะเดียวกันในปี 2558 มีการแข่งขันของโบรกเกอร์สูงขึ้น โดยออก DW หลายรุ่นในสินค้าอ้างอิงเดียวกันจำนวนมาก เพื่อชิงส่วนแบ่งการตลาด ส่งผลให้มี DW ที่เสนอขายในตลาดทั้งหมด 1,606 รุ่น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งมีเพียง 1,371 รุ่น โดยมี DW ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จำนวน 885 รุ่น แบ่งเป็น Call 654 รุ่นและ Put 231 รุ่น ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2557 ที่มี DW จำนวน 870 รุ่น รวมทั้งจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงเพิ่มขึ้นเป็น 103 ตัว จากสิ้นปี 2557 ที่มีจำนวน 92 ตัว โดยหลักทรัพย์บัวหลวงยังเป็นผู้ออก DW สูงสุดในระบบคิดเป็น 19.66% ของจำนวนทั้งหมด มีจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงให้เลือกคิดเป็น 62.14% ของจำนวนหลักทรัพย์อ้างอิงทั้งหมด รวมทั้งยังรักษาส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดติดต่อกันเป็นปีที่ 5 เมื่อคิดจากมูลค่าการซื้อขายสะสมตลอดปี 2558 อยู่ที่ 44%
"ในวันที่ 12 ม.ค. 2559 บริษัทจะออกและเสนอขาย DW จำนวน 6 รุ่น ครอบคลุม 5 หลักทรัพย์อ้างอิง ได้แก่ CHG, EPG, PTG, TASCO และ VNG โดยออกประเภท Call ยกเว้น TASCO ที่ออกทั้ง Call และ Put เนื่องจากเป็นหลักทรัพย์ที่ได้รับคัดเลือกให้คำนวณดัชนี SET50 ส่วนหุ้นตัวอื่นๆ เพิ่งถูกนำมาคำนวณในดัชนี SET100 จึงน่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเช่นกัน" นายบรรณรงค์ กล่าว
นายบรรณรงค์ กล่าวอีกว่า ในปี 2558 ถือเป็นปีที่ท้าทาย เนื่องจากราคาหุ้นหลายตัวปรับตัวลดลง ทำให้นักลงทุนต้องแสวงหาเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ มาใช้ในการเก็งกำไรและป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน หนึ่งในนั้นคือ Put DW ซึ่งหลักทรัพย์บัวหลวงในฐานะผู้ออก DW01 กังวลว่านักลงทุนอาจเข้าใจผิด เพราะไม่คุ้นเคยกับ Put DW แต่จะลงทุนใน Call DW เป็นหลัก โดยไม่ได้พิจารณาแนวโน้มตลาดหรือราคาหุ้นอ้างอิงก่อนการลงทุนจึงทำให้ขาดทุนได้แม้จะคาดการณ์ทิศทางของราคาหุ้นอ้างอิงถูกต้อง
หลักทรัพย์บัวหลวงจึงแนะนำการลงทุน DW ในช่วงตลาดขาลงให้แก่นักลงทุน เพื่อรับมือในปี 2559 ซึ่งคาดว่าหุ้นยังผันผวนสูงโดยหลีกเลี่ยงซื้อ Call DW และไม่ควรซื้อถัวเฉลี่ยต้นทุนเหมือนหุ้น เพื่อหวังให้ราคาหุ้นอ้างอิงปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้วจะทำกำไรได้ เพราะเมื่อราคาหุ้นอ้างอิงอยู่ในช่วงขาลงอย่างสมบูรณ์จะมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อ เห็นได้จากนักลงทุนที่เข้าซื้อ Call DW ในหุ้น DTAC และ PTTEP ในปีที่ผ่านมาขาดทุนอย่างหนัก เนื่องจากราคาหุ้นอ้างอิงลดลงต่อเนื่อง รวมทั้งการเสื่อมค่าเวลาอาจทำให้มูลค่า DW ที่ถืออยู่เป็นศูนย์ จึงแนะนำให้ลูกค้าหลักทรัพย์บัวหลวงใช้โปรแกรมการซื้อขาย Bualuang iAlgo เพื่อช่วยส่งคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติตามจุดตัดขาดทุนที่นักลงทุนกำหนดเองได้
นอกจากนี้ ในช่วงตลาดหุ้นขาลง หากจะลงทุนใน Call DW ควรเน้นหุ้นที่แข็งแกร่งกว่าตลาดหรือหุ้นที่มีข่าวดีสนับสนุน ซึ่งจะทำให้หุ้นวิ่งสวนทางตลาดโดยรวมได้ โดยสามารถดูข้อมูลหุ้นผ่านโปรแกรม Aspen for Browser เพื่อเทียบผลตอบแทนย้อนหลัง 1 สัปดาห์ 1 เดือนและ 3 เดือนของหุ้นตัวใดตัวหนึ่งกับดัชนีหลักทรัพย์ในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อคาดการณ์แนวโน้มหุ้นในอนาคต รวมทั้งควรตรวจสอบราคาที่เหมาะสมของ DW หรือ Indicative Price ก่อนลงทุน ผ่าน www.blswarrant.com เพื่อป้องกันการซื้อ DW ที่ราคาสูงเกินจริง เนื่องจากในช่วงตลาดผันผวน โบรกเกอร์อาจออก DW ไปจำนวนมากจนไม่สามารถดูแลสภาพคล่อง DW ให้ราคาเคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคาหุ้นอ้างอิง อย่างไรก็ตาม นอกจาก Put DW ที่ทำกำไรได้ในช่วงขาลงแล้วนักลงทุนยังสามารถทำ Short Sell หรือ Block Trade ซึ่งสามารถดูข้อมูลเพิ่มได้ที่ www.bualuang.co.th
ทั้งนี้ หลักทรัพย์บัวหลวงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพื่อให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย ตลอดจนการดูแลสภาพคล่องที่สม่ำเสมอเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับนักลงทุน นอกจากนี้ บริษัทยังได้ให้ความสำคัญในการให้ความรู้ความเข้าใจแก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่องโดยในครั้งต่อไปจะจัดสัมมนาในวันพุธที่ 27 ม.ค. 2559 เวลา17.30-19.30 น. ณ บมจ. หลักทรัพย์ บัวหลวง สาขาอินเวสเมนต์สเตชั่น ในหัวข้อ "ปูพื้นฐานการลงทุนใน DW พร้อมเทคนิคการค้นหาหุ้นอ้างอิงพร้อมเทรด" โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ www.bualuang.co.th