กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
DRT รุกขยายธุรกิจปีลิง มุ่งผลักดันการส่งออกสินค้าในกลุ่มประเทศ CLMV+I รับเปิด AEC ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการส่งออกโดยรวมในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 20% จากเดิม 16% พร้อมรุกเพิ่มยอดขายในประเทศ ชูกระเบื้องหลังคาคอนกรีต-ไม้สังเคราะห์เป็นสินค้าเรือธง พร้อมนำเสนอบริการเหมามุงและติดตั้งแบบครบวงจร บุกตลาดผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดและโครงการอสังหาริมทรัพย์ รับแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว ด้านผู้บริหารการันตีกำไรปี 58 เพิ่มขึ้นแน่นอน
นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ แผ่นบอร์ด ยิปซัม อิฐมวลเบาและบริการหลังการขาย ภายใต้แบรนด์ 'ตราเพชร' เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนรุกขยายธุรกิจในปี 2559 เพื่อผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตต่อเนื่อง โดยแนวทางจะมุ่งขยายตลาดส่งออกสินค้าวัสดุก่อสร้างในกลุ่มประเทศ CLMV+I ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์และเวียดนาม รวมถึงจะรุกตลาดในอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่กำลังมีความต้องการใช้สินค้าวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นเพื่อการพัฒนาประเทศ ประกอบกับการเปิด AEC อย่างเป็นทางการจะส่งผลดีต่อการเชื่อมโยงการค้าการลงทุนและการทำตลาดส่งออกในภูมิภาคอาเซียนได้ดีขึ้น โดย DRT วางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนจากตลาดส่งออกรวมจาก 16% เป็น 20% ของยอดขายรวมในปีนี้
ทั้งนี้ ตลาดส่งออกที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบอย่างโดดเด่นในกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ ประเทศเมียนมาร์ เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีปัจจัยเกื้อหนุนมาจากสถานการณ์การเมืองในเมียนมาร์ที่มีเสถียรภาพมากขึ้นภายหลังผ่านพ้นการเลือกตั้งใหญ่ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนระยะยาว โดยเริ่มมีสัญญาณบวกในการสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างจากตัวแทนจำหน่ายสินค้าในเมียนมาร์เพิ่มขึ้น จึงเป็นโอกาสของ DRT ที่จะผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนประมาณ 10% จากยอดส่งออกโดยรวม
ส่วนแนวทางทำตลาดในประเทศนั้น บริษัทฯ จะผลักดันการขายสินค้าในกลุ่มกระเบื้องหลังคอนกรีตและไม้สังเคราะห์ผ่านช่องทางการจำหน่ายในห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ พร้อมทั้งนำเสนอบริการเหมามุงและการติดตั้งแบบครบวงจร เพื่อรุกช่องทางห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่และลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ หลังผู้ประกอบการมีการลงทุนขยายสาขาและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการซื้อของผู้บริโภค หลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจของไทยในปีนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงขึ้นด้วย
"การเติบโตของบริษัทฯ ในปีนี้จะมาจาก 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ การขยายตลาดส่งออกในกลุ่มประเทศ CLMV การขยายตลาดในประเทศผ่านช่องทางจำหน่ายห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่และลูกค้าโครงการอสังหาฯ เป็นหลัก ซึ่งในปีที่ผ่านมาสามารถสร้างยอดขายรวมกันคิดเป็นสัดส่วนประมาณกว่า 40% จึงมั่นใจว่าบริษัทฯ ยังสามารถขยายตลาดเพื่อผลักดันสัดส่วนยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้" นายสาธิต กล่าว
กรรมการผู้จัดการ DRT กล่าวอีกว่า สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานในส่วนของกำไรสุทธิจะเติบโตกว่าปี 2557 เนื่องจากได้เร่งผลักดันการขายสินค้าในทุกช่องทางจำหน่าย โดยนำเสนอสินค้าวัสดุก่อสร้างที่มีความหลากหลายสามารถก่อสร้างบ้านได้เกือบครอบคลุมทั้งหลัง ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตราการใช้กำลังการผลิตในปีที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 75% จากกำลังผลิตรวม 982,000 ตันต่อปี พร้อมทั้งดำเนินกลยุทธ์ปรับ Product Mix โดยมุ่งเน้นการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี ส่งผลดีต่ออัตรากำไรสุทธิในปี 2558 เติบโตขึ้น