กรุงเทพฯ--12 ม.ค.--สถานีโทรทัศน์ช่อง8
ชีวิตเหมือนตายแล้วเหมือนเกิดใหม่จริงๆสำหรับอดีตนางเอกสาวเซ็กซี่ "นิว" กีรติกร รัตน์กุลธร อายุ 36 ปีนางเอกหนังเรื่อง "โบอา งูยักษ์" ป่วยเป็นช็อคโกแลต ซีส ต้องตัดมดลูกทิ้ง หลังจากนั้นต้องเจอกับมรสุมชีวิตเมื่อตรวจเจอลูคีเมียหรือมะเร็งเม็ดเลือดขาว แถมเงินในการรักษาตัวก็ไม่มี แต่ก็ต่อสู้จนรอดมาได้ราวปาฏิหารย์ ล่าสุด "นิว" กีรติกร รัตน์กุลธร ได้มาเปิดใจถึงการต่อสู้กับโรคร้ายจนผ่านพ้นไปได้ด้วยดีในรายการ ปากโป้ง ทางช่อง 8 ที่มี หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย และ หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ เป็นพิธีกรว่า
"นิวเริ่มเข้าวงการด้วยการเข้ามาเล่นหนังเรื่อง โบอา งูยักษ์ ซึ่งก็ทำให้คนรู้จักนิวเยอะเหมือนกัน และก็มีงานต่างๆเข้ามาบ้างในช่วงนั้น จากนั้นไม่นานก็ป่วยเป็นช็อตโกแลต ซีส ก็ต้องผ่าตัด โดยเริ่มจากมีอาการปวดท้องหนักมากจนทนไม่ไหวก็เลยไปหาหมอก็ตรวจเจอว่าเป็นช็อตโกแลต ซีส ที่ปีกมดลูกใหญ่ขนานเท่าลูกมะนาวซึ่งทางคุณหมอก็แนะนำว่าจะต้องผ่าเพราะถ้าไม่ผ่าจะทำให้เสียชีวิตได้เพราะว่ามันใหญ่และไปขวางตรงท่อรังไข่และนิวก็ปวดมาก และก่อนที่จะผ่าอะไรก็ตามจะต้องมีการตรวจเลือดก่อนและเมื่อผลเลือดออกมาก็พบว่านิวเป็นลูคีเมียหรือว่าเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว แต่เมื่อตรวจพบว่าเป็นลูคีเมียอาการเลือดไหลไม่หยุดก็มีเหมือนกัน ซึ่งตอนนั้นคุณหมอก็บอกว่าจะต้องผ่าซีสด้วยนะ แต่อัตราความเสี่ยงถ้าไม่ผ่าก็จะเสียชีวิต ถ้าผ่าก็มีความเสี่ยง 50-50 เหมือนกัน โดยการผ่าตอนนั้นก็ต้องใช้วิธีการผ่าช่องท้องก็กังวลว่าเลือดมันอาจจะไหลไม่หยุดก็ได้เพราะว่าเราป่วยเป็นลูคีเมีย แต่ว่าตอนนั้นนิวมีเวลาตัดสินใจน้อยมากก็เลยตัดสินใจว่าอย่างไงก็ต้องผ่าเพราะอย่างน้อยความเสี่ยงก็ยังมีอยู่บ้าง"
"ตอนที่ผ่าตัดเลือดนิวไหลไม่หยุดหมอบีบแผลเตรียมเย็บแผลแล้ว แต่เลือดก็ไม่หยุดไหลแล้วก็ช็อคไป ซึ่งหมอบอกว่านิวหยุดหายใจไป 5 นาทีหมอต้องช่วยกันปั้มหายใจกันยกใหญ่ แต่ช่วงที่หยุดหายใจยังมีเครื่องช่วยอยู่เลยทำให้ไม่เสียชีวิต แต่พอฟื้นขึ้นมาก็มีอาการหลงๆ ลืมๆความจำบางส่วนหายไปเพราะเราหยุดหายใจไป 5 นาที กลับไปอยู่บ้านแม่จะต้องคอยมาเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟัง อย่างแม่เล่าเรื่องมหาลัยให้ฟัง นิวก็จำไม่ได้เถียงแม่ตลอดว่าไม่มีไม่เคยเรียน จนแม่ต้องเอารูปมาเปิดให้ดูทบทวน ความจำเราถึงค่อยๆ ฟื้นขึ้นได้ หลังจากการผ่าตัดแล้วตอนนั้นยอมรับเลยว่าเครียดมาก เคยคิดว่าไม่อยากให้ฟื้นขึ้นมาเลยเพราะจะต้องมาต่อสู้กับโรคร้ายอีกเพราะตอนนั้นสภาพจิตใจมันแย่สุดๆ แต่ชีวิตก็ต้องเดินต่อก็ให้กำลังใจตัวเองแล้วเริ่มต้นการรักษาทางแพทย์สมัยใหม่กับการถ่ายเลือดตามขั้นตอนต่างๆของหมอ"
อดีตนางเอกสาว กล่าวต่อว่า "คุณหมอแนะนำให้นิวต้องเปลี่ยนไขกระดูกสันหลัง ตอนนี้ต้องรอให้คนมาบริจาคสเตมเซลล์ก่อน ส่วนวิธีการรักษาอีกอย่างคือ จากการปลูกสเตมเซลล์จากของเราเอง ส่วนสเตมเซลล์ของพ่อแม่ใช่ไม่ได้เพราะว่าอายุเยอะแล้ว ก็เลยหาวิธีรักษาในเรื่องของทางแพทย์ทางเลือกเข้ามาช่วยในการรักษาด้วย ใครว่าอะไรดี วัดไหนที่เค้าว่าดีนิวยอมกินยอมไปหาหมด และเมื่อกับปาฏิหารย์ค่าเลือดของนิวก็กลับมาเป็นปกติแล้วในตอนนี้"
"ช่วงที่นิวป่วยตอนนั้นก็ไม่ค่อยมีเงินจะรักษานิวเข้าวงการมาได้ไม่นานเพิ่งเก็บเงินได้ไม่มาก ก็เลยรู้สึกไม่อยากรักษาแล้วเพราะพ่อแม่แก่แล้วก็อยากที่จะเอาเงินที่เราเก็บสะสมไว้ให้พ่อแม่เก็บไว้ใช้ยามแก่ดีกว่า ตอนนั้นคิดว่าเราคงไม่รอดอยู่แล้ว บวกกับช่วงนั้นคุณแม่ก็ป่วยเหมือนกันไปตรวจแล้วพบว่าป่วยเป็นมะเร็งตับ ทำให้แม่ช็อคและเครียดมากเพราะไม่คิดว่าจะต้องมาเจอมรสุมชีวิตแบบนี้ แต่คุณหมอมาบอกตอนหลังว่าเป็นการเข้าใจผิดพลาดแม่ไม่ได้ป่วยเป็นอะไร พอรู้ว่าแม่ไม่ป่วยและเห็นแม่มีกำลังใจดีขึ้น ทำให้นิวได้คิดไตร่ตรองอะไรหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของจิตใจนั้นเป็นเรื่องสำคัญมาก และพยายามให้กำลังใจตัวเองและมองข้ามปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งการใช้วิธีการนั่งสมาธิ ร่วมถึงเรื่องของการใช้แพทย์ทางเลือกเข้ามาในการรักษา ซึ่งใช้เวลาในการรักษาอยู่หลายปีจนตอนนี้หายแล้วไปตรวจค่าเลือดก็เป็นปกติแล้ว ซึ่งการป่วยครั้งนี้นิวคิดว่าเรื่องของกำลังใจเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะกำลังใจตัวเองถ้าเราไม่ให้กำลังใจตัวเองก็ไม่สามารถที่จะผ่านพ้นสิ่งเลวร้ายวันนั้นมาได้"
ติดตามเรื่องราวการต่อสู้ชีวิตที่เหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่ของอดีตนางเอกสาว "นิว" กีรติกร รัตน์กุลธร ได้ในรายการ ปากโป้ง วันอังคารที่ 12 มกราคม 2558 เวลา 10.10 น.ทางช่อง 8