กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--กทม.
เมื่อวันที่ 22 ต.ค.43 เวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนพิชัยพัฒนา เขตบึงกุ่ม ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ปลัดกรุงเทพมหานคร ร่วมสัมมนาหัวข้อ “จำเป็นหรือไม่ ที่ต้องไล่ชุมชนออกจากคลอง” โดยมีตัวแทนจากชุมชนริมคลอง การเคหะแห่งชาติ นักวิชาการ สมาคมร่วมกันสร้าง และองค์กรเอกชนร่วมสัมมนา
ในการสัมมนาดังกล่าว ตัวแทนจากชุมชนริมคลองได้ขอให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง คือ กรุงเทพมหานคร และการเคหะแห่งชาติหยุดการไล่รื้อชุมชนริมคลอง เพราะแม้จะมีการจัดสร้างที่อยู่อาศัยใหม่บริเวณชานเมืองหรือนอกเมืองให้ชาวบ้านย้ายไปอยู่ เช่น โครงการฉลองกรุง แต่ที่ผ่านมาชาวบ้านก็จะย้ายกลับเข้าเมือง และบุกรุกที่ว่างริมคลองแห่งใหม่ต่อไป ทั้งนี้เนื่องจากโครงการจัดสร้างที่อยู่อาศัยของรัฐนั้น มักจะตั้งอยู่ห่างไกล ไม่สะดวกในการเดินทางและการประกอบอาชีพ นอกจากนี้ตัวแทนชุมชนริมคลองยังเห็นว่า ภาครัฐ และประชาชนทั่วไป มักเข้าใจว่าชุมชนริมคลองเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำในคลองเน่าเสีย เป็นผู้สร้างมลพิษให้แก่เมือง ซึ่งแท้จริงแล้ว ชาวบ้านที่อาศัยริมคลองต่างมีจิตสำนึกในการรักษาความสะอาดคูคลองที่อยู่อาศัยของตนเอง รวมทั้งพร้อมจะให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการปรับปรุงสภาพคูคลองด้วย
โอกาสนี้ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัญหาคนกับคลองเป็นปัญหาที่ภาครัฐ คือ กรุงเทพมหานครและการเคหะแห่งชาติมีความลำบากใจในการทำงานมาโดยตลอด เพราะต้องทำงานที่สวนกับความต้องการของประชาชน ในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้นั้น ตนเห็นว่า ภาครัฐไม่ควรสั่งการอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ควรรับฟังความต้องการของประชาชนเพื่อให้รู้ถึงปัญหาอย่างแท้จริง รวมทั้งควรเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิออกความคิดเห็น มีส่วนร่วมรับรู้ในการตัดสินใจต่าง ๆ ของรัฐตั้งแต่เบื้องต้น ไม่ใช่ให้ประชาชนรู้เมื่อปลายทาง ซึ่งจะก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงตามมา สำหรับฝ่ายประชาชนก็ต้องร่วมมือกันพัฒนาพื้นที่อยู่อาศัยให้ดีที่สุด เพราะหากท้อแท้สิ้นหวังที่จะถูกรื้อย้าย แล้วปล่อยให้ท้องถิ่นเสื่อมโทรมก็จะยิ่งทำให้ถูกมองว่าชุมชนไม่มีกำลังพัฒนาตนเอง และเป็นเหตุผลักดันให้มีการรื้อย้ายเร็วขึ้น ถ้าชุมชนมีความเข้มแข็งดูแลตนเองได้ สร้างประโยชน์ให้เกิดในชุมชน ภาครัฐก็จะต้องทบทวนและผ่อนผันนโยบายการรื้อย้ายในที่สุด
ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่ตนขอฝากให้แก่ชาวชุมชนก็คือ การจะเจรจากับภาครัฐนั้น ควรจะหาข้อมูลที่มีน้ำหนักและเหตุผลที่ยอมรับได้ไปเจรจา ไม่ควรไปเรียกร้องด้วยอารมณ์ รวมทั้งควรให้เวลาในการแก้ปัญหาด้วย ขณะนี้บ้านเมืองกำลังต้องการความสามัคคี ตนไม่ต้องการเห็นความรู้สึกแตกแยกมองอีกฝ่ายเป็นศัตรู แต่ควรทำความตกลงร่วมกัน โดยภาคราชการก็พร้อมที่จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมตามที่กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกำหนด อย่างไรก็ดีในการสัมมนาร่วมกับชาวชุมชนวันนี้ ตนจะนำข้อมูลต่าง ๆ ไปเสนอต่อคณะผู้บริหารกทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่ทุกฝ่ายยอมรับร่วมกันได้ต่อไป--จบ--
-นศ-