กรุงเทพฯ--13 ม.ค.--IR network
บอร์ด บมจ.บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI) อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัท เพื่อการบริหารทางการเงิน จำนวน 40 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 250 ล้านบาท หลังราคาหุ้นบนกระดานต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ด้านแม่ทัพใหญ่ "ยู ยูน" เร่งสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุน ระบุกระแสเงินสดในมือพร้อม มั่นใจพื้นฐานแกร่ง-อนาคตสดใส และคาดว่าในปี 2559 จะสามารถเข้ารับงานโครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างการประมูล ส่งผลให้รายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 จากปีก่อนหน้า
นายยู ยูน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (BJCHI) ผู้ดำเนินธุรกิจวิศวกรรมด้านการรับจ้างผลิต และการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมตามแบบและขนาดที่ลูกค้ากำหนด เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2559 มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัท (Treasury Stock) เพื่อการบริหารทางการเงิน ในวงเงินไม่เกิน 250 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้นที่ซื้อคืนประมาณไม่เกิน จำนวน 40 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท โดยจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนคิดเป็นร้อยละ 2.5 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด และกำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2559 ถึงวันที่ 26 กรกฏาคม 2559
สำหรับวัตถุประสงค์ในการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกทั้งในการซื้อหุ้นคืนจะเป็นการเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงเพิ่มอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) และยังเป็นข้อบ่งชี้สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท เพราะบริษัทมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการสร้างรายได้และกำไรในอนาคต ซึ่งจะเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อการลงทุนของนักลงทุนได้
"ที่ประชุมบอร์ดได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน วงเงินไม่เกิน 250 ล้านบาท หลังจากราคาหุ้นบนกระดานต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ซึ่งบริษัทฯ มีกระแสเงินสดเพียงที่จะซื้อหุ้นคืน โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 มีกำไรสะสมสูงถึง 2,394 ล้านบาท พื้นฐานธุรกิจมีความแข็งแกร่ง มีปริมาณงานในมือที่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้กว่า 5,200 ล้านบาท และยังอยู่ระหว่างรอลุ้นผลประมูลงานโครงการในต่างประเทศอีกจำนวนมาก จึงถือเป็นจังหวะที่ดีที่จะเข้าไปซื้อหุ้นในช่วงนี้ เพราะมั่นใจในพื้นฐานของบริษัทฯที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคต" นายยู ยูน กล่าวในที่สุด