กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--บีโอไอ
บีโอไอเตรียมปรับสัดส่วนการกำหนดมูลค่าการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน จากเดิมที่ไม่จำกัดวงเงินเป็นให้ยกเว้นตามสัดส่วนมูลค่าการลงทุนของโครงการ เพื่อให้การยกเว้นภาษีชัดเจน ตรวจสอบได้ ทั้งยังทำให้เกิดความยุติธรรมแก่ผู้ประกอบการทุกขนาด "จักรมณฑ์" ย้ำ ไม่กระทบการลงทุนแน่นอน เพราะบีโอไอมุ่งบริการด้านข้อมูลข่าวสารและเพิ่มขีดความสามารถในการอำนวยความสะดวกดึงดูดนักลงทุน
นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่าบีโอไอจะเปลี่ยนแปลงการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ในส่วนการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ให้กับกิจการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุน โดยจะกำหนดวงเงินในการให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลในสัดส่วนตามมูลค่าของการลงทุน ซึ่งจะเป็นไปตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุนฉบับแก้ไขซึ่งอยู่ระหว่างการรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยจะมีผลบังคับใช้ทันทีกับโครงการลงทุนใหม่ที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมหลังวันประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา ส่วนเรื่องเขตการลงทุนและระยะเวลาในการได้รับสิทธิยังคงเหมือนเดิม ทั้งนี้ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนจะพิจารณาอนุมัติหลักการในเรื่องดังกล่าวในการประชุมบอร์ดบีโอไอ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2544 นี้
"การปรับเปลี่ยนในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาวะการลงทุนในประเทศ เนื่องจากจะยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมูลค่าของเงินลงทุน ซึ่งกำหนดสัดส่วนการยกเว้นในจำนวนเงินที่สูง นอกจากนี้ตามบทบาทส่งเสริมการลงทุนใหม่ของบีโอไอนั้น จะเน้นการบริการ การอำนวยความสะดวก ตลอดจนการให้ข้อมูลข่าวสารด้านการลงทุนแบบครบวงจร เพื่อดึงดูดนักลงทุนแทนซึ่งการบริการในส่วนนี้จะช่วยเพิ่มความสามารถในการดำเนินการแก่ผู้ประกอบการได้ และยังจะช่วยเพิ่มโอกาส ช่องทางธุรกิจแก่ผู้ประกอบการด้วย" เลขาธิการบีโอไอกล่าว
นายจักรมณฑ์ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลแบบใหม่ โดยกำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามสัดส่วนของวงเงินลงทุนนั้น จะทำให้การจัดเก็บของรัฐบาลมีความชัดเจน สามารถตรวจสอบได้ ในขณะเดียวกัน ก็จะทำให้การจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนมีความยุติธรรมมากขึ้น ทั้งกิจการขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ทั้งยังทำให้ทราบว่าในแต่ละปีภาครัฐได้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลแก่ผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนเป็นจำนวนเท่าไร ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนการเงินการคลังของประเทศด้วย
สำหรับการกำหนดมูลค่าการลงทุนและรายละเอียดต่างๆ จะมีการพิจารณาในการประชุมบอร์ดบีโอไอวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตามในส่วนหลักเกณฑ์การให้การส่งเสริมอื่นๆ อาทิ เรื่องเขตการลงทุน ระยะเวลาการได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและสิทธิประโยชน์อื่นๆ รวมทั้งประเภทกิจการที่ได้รับส่งเสริม ยังคงเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ใช้ในปัจจุบัน--จบ--
-นห-