กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.43) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ได้มีสัมมนาโต๊ะกลมระหว่างผู้บริหารจากสำนักต่าง ๆ ของกรุงเทพมหานคร กับผู้แทนจากกรุงมอสโก โดยในช่วงเช้าเป็นการบรรยายหัวข้อ “การวางผังเมืองและการวางแผนสาธารณูปโภค” โดย Mrs.Luidmila.I.Osipova และ Mr.Alexei V.Meshkov
Mrs.Luidmila.I.Osipova กล่าวว่า กรุงมอสโกพัฒนามาแล้วประมาณ 850 ปี มีสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ค่อนข้างมากจึงยากต่อการขยายเมือง และมีปัญหาคล้าย ๆ กับกรุงเทพมหานคร เช่น ปัญหาการจราจรติดขัด เป็นต้น ในส่วนกำจัดขยะของเมืองเดิมใช้วิธีฝังกลบ แต่ปัจจุบันใช้วิธีการบดอัดขยะแล้วขนไปทิ้งยังสถานที่ที่จัดไว้ โดยรถบรรทุกที่สามารถบรรจุขยะได้ถึง 35 ตัน/คัน และขยะบางส่วนก็มีการนำมารีไซเคิล โดยบริษัทเอกชน
กรุงมอสโกมีพื้นที่สีเขียวประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่เมือง แต่ละปีมีการปลูกต้นไม้เพิ่มประมาณ 8 ล้านต้น บางส่วนเป็นการปลูกทดแทนต้นไม้ที่เสียหาย รวมทั้งมีการปลูกไม้ดอกไม้ประดับตามถนนหนทางต่าง ๆ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมลดมลภาวะทางอากาศ นอกจากนี้ทางกรุงมอสโกยังได้มีการประชาสัมพันธ์ตามโรงเรียนต่าง ๆ รณรงค์ให้เด็ก ๆ เกิดจิตสำนึกในการประหยัดน้ำและรู้คุณค่าของน้ำประปา เนื่องจากมอสโกมีการใช้น้ำถึงวันละ 6,000,000 ลูกบาศก์เมตร อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดภาระของผู้บริหารในการบำบัดน้ำเสียด้วย
ปัจจุบันกรุงมอสโกมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปมากทั้งนี้เนื่องจากการบริหารของผู้ว่าการกรุงมอสโกคนปัจจุบัน คือ นายยูริ ลูซคอฟ ซึ่งบริหารเมืองมาแล้วประมาณ 10 ปี นับจากปี 1991 และถึงแม้มอสโกจะมีการวางแผนพัฒนาเมืองแบบปีต่อปีแต่ก็ได้มีการวางแผนไว้ล่วงหน้าถึง 30 ปี สำหรับงบประมาณในการบริหารเมืองของมอสโกส่วนใหญ่จะเป็นรายได้จากการจัดเก็บภาษี ค่าเช่าจากอสังหาริมทรัพย์เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นของรัฐ อุตสาหกรรมการลงทุนและการท่องเที่ยว ส่วนสาธารณูปโภคต่าง ๆ ของกรุงมอสโก ผู้ว่าการกรุงมอสโกมีอำนาจในการควบคุมจัดการ เช่น การประปา เป็นต้น ซึ่งแตกต่างจากกรุงเทพมหานคร
สำหรับในช่วงบ่าย เป็นการบรรยายหัวข้อ “การพัฒนาเมืองและนโยบายส่งเสริมการลงทุนของกรุงมอสโก” โดย Mr.Valery P.Shancev รองผู้ว่าการกรุงมอสโก ซึ่งการสัมมนาในช่วงนี้ นายมุดตาฝ้า หมันงะ ดร.ธารินทร์ สงวนสริมศรี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนางณฐนนท ทวีสิน รองปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมสัมมนาด้วย
รองผู้ว่าการกรุงมอสโก กล่าวว่า กรุงมอสโกได้วางแนวทางการพัฒนาเมืองทุกด้านทั้งด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การศึกษา กีฬา วัฒนธรรม สาธารณสุข คมนาคม ค้าขาย เป็นต้น ภายใต้แผนพัฒนามอสโก สำหรับด้านการลงทุน ในปี 2000 มีแนวโน้มดีขึ้น โดยสาขาที่ดึงนักลงทุน อันดับ 1 คือ การค้าขายด้านอุปโภคบริโภค หลายปีที่ผ่านมากรุงมอสโกยังไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องการก่อสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ร้านค้าในกรุงมอสโกส่วนใหญ่จึงเป็นร้านค้าปลีก และตลาดสด ดังนั้นกรุงมอสโกจึงได้มีนโยบายที่จะพัฒนาด้านการก่อสร้างศูนย์การค้าขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นกว่า 10 แห่ง กระจายไปทั่วมอสโก อันดับ 2 คือการพัฒนาการท่องเที่ยว กรุงมอสโกมีแผนที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ จึงได้มีการบูรณะอาคารที่คุณค่าทางวัฒนธรรม ขยายวงการภัตตาคาร สร้างโรงแรมขนาดปานกลางเพิ่มขึ้น รวมทั้งรื้อฟื้นโรงแรมเก่าแก่ของเมือง อย่างไรก็ดีในด้านการลงทุน ยังมีปัญหาอีกหลายประการที่ต้องดำเนินการแก้ไข เช่น การทำงานของหน่วยงานภาครัฐซึ่งบางครั้งค่อนข้างล่าช้าและมีกระบวนการที่ซับซ้อน อีกทั้งนักลงทุนที่จะมาลงทุนต้องได้รับการอนุญาตจาก 70 หน่วยงานของรัฐบาล และอุปสรรคของการลงทุนอีกประการหนึ่งคือ สิทธิการเช่าที่ดิน ดังนั้นผู้บริหารกรุงมอสโกจึงมีความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงระบบดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนมากขึ้น--จบ--
-นศ-