กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--24 คูณ 7
- วอลโว่ กรุ๊ป มั่นใจเครือข่ายศูนย์บริการทั่วภูมิภาค AEC พร้อมรับการฟื้นตัว
- ปลื้มยูดี ทรัคส์ ยอดพุ่งมากกว่าเท่าตัว
บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถบรรทุกหนักวอลโว่ ทรัคส์ และยูดี ทรัคส์ ในประเทศไทย เชื่อมั่นตลาดรถบรรทุกหนักจะได้รับอานิสงส์จากการเข้าสู่ประชาคมประชาติเศรษฐกิจอาเซี่ยนหรือ AEC โดยเฉพาะภาคขนส่งระยะไกลซึ่งเป็นการขนส่งสินค้าผ่านพรมแดน นอกจากนี้การเดินหน้าโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคภาครัฐจะกระตุ้นภาคการก่อสร้าง ส่งผลดีต่อความต้องการรถบรรทุกขนาดใหญ่
นางสาววิลาวัลย์ วิศปาแพ้ว รองประธานฝ่ายการตลาดและสนับสนุนการขาย บริษัท วอลโว่ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่านับจากประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมประชาชาติเศรษฐกิจอาเซี่ยนหรือ AEC เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา ทำให้วอลโว่ กรุ๊ป เชื่อมั่นว่าจะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นธุรกิจภาคขนส่งสินค้าผ่านพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
"เราเล็งเห็นความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่าเป็นการพัฒนาศักภาพผู้ประกอบการไทยเพราะประเทศไทยมีความได้เปรียบทางด้านภาคขนส่งทางบกเนื่องจากทำเลที่ตั้งของประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของประเทศเพื่อนบ้านที่จะผ่านไปยังประเทศจีน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ของกลุ่มประเทศ AEC เพราะเรามีพรมแดนติดต่อระหว่างประเทศมาเลย์เซีย เมียนมาร์ กัมพูชา ลาว และจีนแผ่นดินใหญ่ นอกจากนี้เรายังสามารถส่งสินค้าผ่านแดนต่อไปยังสิงคโปร์และเวียดนามได้อย่างสะดวก" นางสาววิลาวัลย์ กล่าว
นางสาววิลาวัลย์ กล่าวว่าวอลโว่ กรุ๊ป มีความพร้อมที่จะสนับสนุนผู้ประกอบการภาคขนส่งทั้งภายในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากวอลโว่ กรุ๊ป ได้ดำเนินการขยายเครือข่ายถึง 15 สาขาและอีก 1 Private Dealer ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการได้ทั่วประเทศ อีกทั้งวอลโว่ กรุ๊ป ยังมีผู้นำเข้าที่แต่งตั้งโดยวอลโว่ กรุ๊ป ในประเทศต่าง ๆ รอบประเทศไทยได้แก่เมียนมาร์ เวียดนาม ลาว กัมพูชา เป็นต้น
"ที่ผ่านมา เราได้ทุ่มเงินลงทุนขยายเครือข่ายไปถึง 3,000 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เสร็จสมบูรณ์ก่อนที่จะเริ่ม AEC ได้ 1 ปี จึงทำให้เรามีความพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าทั้งภายในประเทศและลูกค้ารอบ ๆ ประเทศไทยที่ให้บริการขนส่งสินค้าผ่านแดนโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานธุรกิจ" นางสาววิลาวัลย์ กล่าว
นางสาววิลาวัลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่านอกจากการเข้าสู่ AEC แล้ว ขณะนี้ รัฐบาลไทยได้เร่งดำเนินโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคภาครัฐ ซึ่งรวมไปถึงโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ จึงมีส่วนกระตุ้นความต้องการรถบรรทุกขนาดใหญ่เพื่อรองรับกับการก่อสร้างโครงการเหล่านี้
"สิ่งที่สะท้อนด้านดีให้กับเราโดยตรงก็คือยอดขายของรถยูดี ทรัคส์ ซึ่งเราได้เปิดตัวรถบรรทุกรุ่นใหม่ไปเมื่อปลายปีที่แล้วถึง 15 รุ่น ทำให้เรามียอดขายพุ่งสูงสุดในประวัติศาสตร์ยูดี ทรัคส์ โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นจาก 250 คันเมื่อปี 2557 มาเป็น 512 คันในปีที่แล้ว ส่วนยอดขายรถวอลโว่ ทรัคส์ นั้น หากเปรียบเทียบกับตลาดรวมรถบรรทุกที่มียอดขายหดตัวเมื่อปีที่แล้วถึงมากกว่า 20% แต่วอลโว่ ทรัคส์ สามารถทำยอดขายได้ 504 คัน ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้านี้เพียง 10% เท่านั้น" นางสาววิลาวัลย์ กล่าว