กรุงเทพฯ--19 ม.ค.--ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดกระตุ้นให้ผู้ประกอบการพาณิชย์และนักลงทุนสถาบันในประเทศไทยใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เปิดกว้างในการเข้าถึงตลาดหลักทรัพย์ในประเทศจีนโดยตรง ผ่านโครงการRenminbi Qualified Foreign Institutional Investor (RQFII) เนื่องจากจีนยังคงเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ โดยคาดว่าจีนจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการเติบโตของเศรษฐกิจโลกราว 25% ภายในปี 2020
จากที่ทางการจีนให้ประเทศไทยได้รับการจัดสรรวงเงินเพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์ในประเทศจีนโดยใช้สกุลเงินหยวน ภายใต้โครงการ RQFII ในวงเงิน 50,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 273,000 ล้านบาท นายยุทธเดช ปัทมานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารธุรกรรมทางการเงิน ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่าการที่ไทยได้รับจัดสรรวงเงินในการลงทุนดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือทางการเงินที่แนบแน่นระหว่างประเทศไทยกับจีน ปัจจุบันมีเพียง 16 เขตการปกครองจากทั่วโลกที่ได้รับการจัดสรรวงเงินดังกล่าวจากประเทศจีน
"นักลงทุนในไทยน่าจะยินดีและเตรียมพร้อมที่จะใช้โอกาสที่เปิดขึ้นนี้ให้เกิดประโยชน์ สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้มากคือการใช้ RQFII ในการจัดพอร์ตการลงทุนสำหรับนักลงทุนระหว่างประเทศ ความยืดหยุ่นอย่างยิ่งของโครงการ RQFII จะเอื้ออำนวยให้ผู้จัดการกองทุนต่างๆ สามารถใช้หลักทรัพย์ที่อยู่ในประเทศจีนมาสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์การลงทุนที่น่าสนใจให้แก่นักลงทุนในประเทศไทย ธุรกิจและหลักทรัพย์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วหลายภาคส่วนในประเทศจีนซึ่งเดิมไม่เปิดให้นักลงทุนจากต่างประเทศเข้าถึงได้ ตอนนี้จะเปิดให้เราเข้าไปลงทุนได้" นายยุทธเดชกล่าว
จากประกาศล่าสุดในการจัดสรรโควต้าเพื่อการลงทุนภายใต้ RQFII วงเงินที่ทางการจีนได้อนุมัติจัดสรรให้แก่ 16 เขตการปกครองทั่วโลก รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,210,000 ล้านหยวน โดยมีการใช้วงเงินดังกล่าวแล้ว ณ เดือนมกราคม 2016 ราว 450,000 ล้านหยวนในโครงการที่ได้รับอนุมัติ 156 โครงการ ทั้งนี้ สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดเป็นธนาคารแห่งแรกที่ประสบความสำเร็จในการจัดการลงทุนภายใต้ RQFII ให้แก่กองทุนบริหารความมั่งคั่งแห่งชาติแห่งหนึ่ง และในปี 2015 ดำเนินการจัดการลงทุนให้แก่กองทุน Luxembourg UCITS ภายใต้โครงการ RQFII ได้สำเร็จเป็นแห่งแรก
"ตลาดหลักทรัพย์และสกุลเงินของจีนกำลังก้าวไปสู่ความเป็นสากลอย่างรวดเร็ว เราคาดว่าในระยะยาวความต้องการที่จะเข้าถึงตลาดจีนจากผู้บริหารกองทุนการลงทุนทั่วโลกจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน กองทุนในประเทศไทยเองก็มีทั้งทักษะและศักยภาพในการดำเนินการเพื่อเข้าถึงตลาดจีนได้โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดภายในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นไปเทียบเคียงกับศูนย์กลางการบริหารหลักทรัพย์ชั้นนำอื่นๆ ทั่วโลก วงเงินจัดสรรเพื่อการลงทุนที่ไทยได้รับภายใต้โครงการ RQFII เป็นส่วนหนึ่งในภาพรวมของแผนผลักดันเงินหยวนไปสู่ความเป็นสากลซึ่งสามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาทางเศรษฐกิจด้านอื่นๆ และสนับสนุนให้เกิดความเชื่อมโยงทางการเงินระหว่างไทยกับจีนได้กว้างขวางยิ่งขึ้น
สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดในฐานะธนาคารชั้นนำระดับโลกมีข้อได้เปรียบและศักยภาพที่จะช่วยนักลงทุนที่สนใจใช้ RQFII เพื่อเข้าถึงตลาดหลักทรัพย์ในประเทศจีน โดยเฉพาะตลาดตราสารหนี้จีน (China Interbank Bond Market) ซึ่งปัจจุบันมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลก การที่สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดอยู่ในตลาดจีนมานานถึง 158 ปี และเป็นธนาคารต่างชาติเพียงแห่งเดียวในจีนที่ได้รับอนุญาตสำหรับการดำเนินงานแบบครบวงจรเพื่อรองรับนักลงทุนที่ต้องการเข้าถึงตลาดตราสารหนี้ของจีน โดยเริ่มต้นตั้งแต่กระบวนการยื่นใบสมัคร การเชื่อมโยงลูกค้ากับแนวคิดการลงทุนที่ปฏิบัติได้จริง ประสานงานด้านซื้อขายและชำระราคาหลักทรัพย์ ตลอดจนบริหารจัดการโควต้าในแต่ละวัน" นายยุทธเดชกล่าว